สำหรับ XC60 คันนี้เป็นรถที่พอเหมาะกับการใช้งานมาพร้อมระบบความปลอดภัยครบครันแม้ว่าจะเป็นรถที่มีอายุเกือบๆ10ปีแล้วก็ตาม พอเราขึ้นไปนั่งในรถด้วยการดึงมือเปิดประตู ระบบก็จะปลดล็อคให้เมื่อพกพากุญแจติดตัวไว้ ส่วนการล็อคก็แค่กดปุ่มดำๆ ตรงมือจับประตู ระบบก็จะล็อคให้ทันที ตอนสตาร์ทรถก็ใช้การกดปุ่มเป็นปุ่มเล็กๆ เหนือช่องเสียบกุญแจ ซึ่งจะเสียบหรือไม่ก็ไม่มีปัญหายังไงก็เหยียบเบรกแล้วกดปุ่มสตาร์ทได้ทันที เมื่อเครื่องยนต์ส่งเสียงดังระบบความปลอดภัยก็พร้อมจะทำงานโดยโชว์เป็นหลอดไฟ LCD เล็กๆ พร้อมปุ่มกดเรียงเป็นแถวอยู่ด้านล่างของแผงคอนโซล ซึ่งระบบไหนถ้าไม่อยากใช้ก็กดปุ่มปิดไปก็ได้ แต่ตอนสตาร์ทเครื่องยนต์ระบบเหล่านี้ก็จะพร้อมสำหรับการทำงานทุกครั้งไป
เรื่องของเครื่องยนต์ที่วางในวอลโว่ XC60 นั้นสอบผ่านอยู่แล้ว หลังจากหันไปเน้นเครื่องยนต์ดีเซลมากกว่าตัวเบนซิน และเครื่องยนต์ที่นำมาประจำการในตัว XC60 ก็เป็นเครื่องยนต์ที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เป็นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคอมมอนเรลที่รองรับน้ำมันดีเซล B5 ได้กับความจุ 2,400 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 185 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตรที่ 2,000-2,750 รอบต่อนาที
ระบบส่งกำลังก็เป็นเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แบบปรับตามสไตล์การขับขี่ สามารถเลือกเปลี่ยนเกียร์เองได้ด้วยระบบเกียร์ทรอนิก จากการผลักคันเกียร์ไปทางด้านซ้ายมือก็จะเข้าสู่ตำแหน่งเกียร์ทรอนิก หลังจากนั้นก็ใช้การโยกไปด้านหน้าสำหรับเพิ่มหรือดึงมาด้านหลังในการลดเกียร์เครื่องยนต์ตัวนี้สามารถทำงานได้ดีแม้จะต้องแบกน้ำหนักเยอะๆในตัว XC90 ดังนั้นพอมาใส่ในรุ่นน้องอย่าง XC60 ที่มีตัวถังเบากว่าอัตราเร่งจึงทำได้ดังใจ
การใช้งานทั่วๆ ไป การกดคันเร่งเบาๆ เครื่องยนต์ก็จะตอบสนองเพียงแค่ใช้งาน อัตราเร่งจะช้าหน่อย เมื่ออยากได้การเร่งแซงที่ทันอกทันใจก็ต้องกดกันหนักๆ หน่อย คราวนี้อัตราเร่งจะมาแบบกระชากจนสิ่งของที่วางไว้ในรถกระจัดกระจายไปคนละทางXC60 เป็นรถที่ใช้รอบเครื่องยนต์ต่ำ อย่างความเร็ว 100 กม./ชม. ก็จะใช้แค่ 1,850 รอบเท่านั้นเอง ขณะที่ 2,000 รอบต่อนาทีก็จะได้ความเร็วถึง 109 กม./ชม. ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้ดี ก็แปลกใจว่าพวกรถกระบะยุคนี้ทำไมถึงทำกันไม่ได้ อัตราบริโภคจากการใช้งานทั่วๆ ไปขับขี่แบบปกติไม่เลี้ยงคันเร่ง แต่ก็ไม่ใช้ความเร็วสูงมาก อยู่ในระดับ 100-120 กม./ชม. ช่วงขับช้าๆ ก็เป็นไปตามสภาพการจราจรยังสามารถทำได้ถึง 12.4 กม./ลิตร ผ่านน้ำมันถึงครึ่งถังก็จะได้ระยะทางเกิน 400 กม.ไปแล้ว
ถึงจะชอบสมรรถนะเครื่องยนต์แต่เรื่องระบบความปลอดภัยที่สัมผัสได้เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นกว่าระบบที่ใช้บ่อยมากก็คือ LDW (LAND DEPARTURE EARNING) ที่คอยส่งเสียงเตือนเมื่อรถวิ่งคร่อมเส้นแบ่งเลนโดยไม่มีเหตุอันควรหรือการเตรียมตัวอย่างไม่เปิดไฟเลี้ยวก่อน ตัวนี้จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากการที่รถเปลี่ยนหรือเบี่ยงจากเลนเดิม เป็นการป้องกันการชนด้านหน้าเนื่องจากการเสียสมาธิในการขับขี่ ส่วนระบบที่ชอบสุดๆ ก็คงจะเป็นระบบ ACC (ADAPTIVE CRUISE CONTROL) โดยการใช้เซ็นเซอร์เรดาร์วัดระยะห่างจากรถคันข้างหน้า และปรับความเร็วของรถสำหรับรักษาระยะห่างจากรถคันหน้า
ปกติแล้วเวลาเดินทางไกลหากไม่เจอถนนโล่งจริงๆ หรือขี้เกียจมากๆ ก็จะไม่ใช้ระบบครูสคอนโทรล เนื่องจากไม่ไว้ใจเรื่องของความปลอดภัย เวลาใช้ระบบนี้ ด้วยการขับขี่แบบปกติเท้าจะอยู่บนคันเร่ง พอเกิดเหตุฉุกเฉินเท้าจะยกขึ้นเหยียบเบรกโดยอัตโนมัติ ต่างจากการใช้ครูสคอนโทรล เท้าจะไม่วางอยู่ในตำแหน่งที่เตรียมพร้อม พอเจอรถช้ามากอยู่ข้างหน้าถึงจะเป็นฝั่งละ 3-4 เลนก็เหอะ ก็มักจะเจอพวกขับ 60 แต่วิ่งขวาให้เห็นเสมอ พอเจอรถช้ากะทันหันบางทีการวางเท้าไม่สามารถทำได้ทันท่วงที จึงเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ซึ่งจะต่างกับตัว XC60 หากเราตั้งความเร็วเอาไว้สัก 120 กม./ชม. เมื่อถนนโล่ง ระบบจะรักษาความเร็วระดับนี้ไว้ตลอด แต่พอเจอรถช้าข้างหน้าระบบจะสั่งลดความเร็วทันที เพื่อรักษาระยะห่างจากรถคันข้างหน้าเอาไว้ตลอดโดยไม่ต้องเหยียบเบรกหากจะให้ความเร็วเท่าเดิมก็เปลี่ยนช่องเดินรถที่โล่งๆ ความเร็วก็จะขึ้นไปตามที่ตั้งเอาไว้
อีกระบบหนึ่งที่ช่วยได้เยอะก็คือระบบซิตี้ เชฟตี้ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุได้ มีโอกาสใช้งานเยอะเมื่ออยู่ในเมืองที่รถราติดๆ ใช้ความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม. ระบบนี้จะช่วยเบรกให้ทันท่วงทีหากรถคันข้างหน้าเบรกกะทันหันแบบเราตั้งตัวไม่ติด ซึ่งจะเบรกแบบหยุดเบรกแรงมากและจะคาไว้สัก 2.3 วินาที เพื่อปลุกคนขับรถให้รับช่วงต่อ เป็นระบบที่ช่วยได้มากในชีวิตประจำวัน มีระบบอีกเยอะแยะซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยถูกใส่มาให้ในวอลโว่ XC60 คันนี้