Vitesco Technologies (วีเทสโก้ เทคโนโลยี่ส์) ผู้นำด้านการผลิตและพัฒนาระดับโลกในด้านเทคโนโลยีระบบส่งกำลังที่ทันสมัย (Powertrain Business) เพื่อการสัญจรอย่างยั่งยืน (sustainable mobility) ได้ฉลองการเปิดตัวที่ประสบความสำเร็จในการเริ่มต้นซื้อขายหุ้นครั้งแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ด้วยการเปิดตลาดราคาหุ้นแรกที่ 59.80 ยูโร โดยการแยกตัวของ Vitesco Technologies ได้รับการอนุมัติจากการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีของ Continental AG (คอนติเนนทอล เอจี) เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2564 และด้วยความเป็นอิสระของ Vitesco Technologies ช่วยให้บริษัทสามารถมุ่งสู่การเปลี่ยนแปลงและก้าวสู่การดำเนินธุรกิจด้านการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าได้ทั้งหมด
เนื่องด้วยที่ผ่านมา ธุรกิจระบบขับเคลื่อน (Powertrain Business) ทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และการตัดสินใจปรับเปลี่ยน Vitesco Technologies ให้เป็นกลุ่มอิสระนั้น ถือเป็นการเพิ่มโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมยานยนต์ได้รวดเร็วขึ้น โดย Vitesco Technologies Group จะสามารถเพิ่มศักยภาพได้ในระยะเวลาอันสั้น รวมถึงมีความคล่องตัวสูงในการดำเนินธุรกิจ โดยจะมุ่งเน้นในการใช้พลังงานไฟฟ้า การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์สำหรับรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี่ เป็นต้น
ก่อนหน้านี้ Vitesco Technologies เริ่มต้นจากการดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อน (Powertrain Business) ของบริษัท Continental AG และได้แยกตัวออกมาเป็นอิสระในนามบริษัท Vitesco Technologies จากการแยกตัวครั้งนั้น ผู้ถือหุ้นบริษัท Continental AG ได้รับหุ้น Vitesco Technologies ในอัตราส่วน 5 หุ้น Continental AG ต่อ 1 หุ้น Vitesco Technologies ผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดของ บริษัท Vitesco Technologies คือ ครอบครัว Schaeffler ผ่านทางบริษัทลงทุน IHO Verwaltungs GmbH และ IHO Beteiligungs GmbH โดยมีหุ้นประมาณร้อยละ 46 ปัจจุบัน Vitesco Technologies มีพนักงานรวมกว่า 40,000 คน ใน 50 สาขาทั่วโลก โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองรีเกนบวร์ก (Regensburg) ประเทศเยอรมนี
Vitesco Technologies มียอดขาย 4,400 ล้านยูโร (1.6 แสนล้านบาท) ในครึ่งปีแรกของปี 2564 ซึ่งเติบโตถึง 29 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเวลาเดียวกันในปี 2563 และ มีผลกำไรเพิ่มขึ้นถึง 19 เปอร์เซ็นต์ จาก ปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น การบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรคเกี่ยวกับการขาดแคลนวัตถุดิบ ก็ตาม ในอนาคต Vitesco Technologies จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกอย่างต่อเนื่องในการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งคาดการณ์ว่าผู้เชี่ยวชาญด้านยานพาหนะขนาดเล็กทั่วโลก ประมาณ 60% จะปรับเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้า ภายในปี พ.ศ. 2573 และ Vitesco Technologies ตั้งเป้าว่าจะเป็นผู้ผลิตรายแรกที่เปิดรับการเปลี่ยนแปลงสู่การขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยมีเป้าหมายของบริษัทคือการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้าที่เป็นนวัตกรรมและมีประสิทธิภาพสำหรับยานพาหนะทุกประเภท