มีการเปลี่ยนแปลงของรถครอบครัวขนาดเล็กของค่ายโตโยต้าที่นำเข้ามาจากอินโดนีเซีย จากเดิมเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลังในชื่ออวันซ่า มาคราวนี้ถูกปรับเปลี่ยนเป็นรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าแทนโดยใช้ชื่อว่าเวลอซ โดยรุ่นพรีเมี่ยมจะเป็นรุ่นท็อปสุดขายในราคา 875,000 บาท
ด้วยการมาทีหลังจึงต้องจัดเต็มด้วยอุปกรณ์ที่มีมาให้อย่างครบครันเพื่อสู้กันในตลาดที่มี Suzuki XL7 กับ Mitsubishi Xpander มาก่อนหน้าแล้ว ซึ่งรูปโฉมจะเป็นรถยนต์ในสไตล์ SUV ที่มีหน้าตาดุดันโดยเฉพาะกระจังหน้าขนาดใหญ่แต่ถูกเจาะช่องรับลมเอาไว้เท่าที่จำเป็นเพื่อไม่ให้เกิดการต้านลมมากนัก
ตัวรถมีเส้นสายที่ดูชัดเจนดี มีตัวถังที่มีขนาดเพียงพอสำหรับการเป็นรถครอบครัวด้วยความยาว 4,475 มิลลิเมตรกว้าง 1,750 มิลลิเมตร และสูง 1,700 มิลลิเมตร ส่วนฐานล้อจะยาว 2,750 มิลลิเมตร โดยรุ่นพรีเมี่ยมจะมีชายล่างที่เป็นสีดำซึ่งจะช่วยให้ไม่ดูเลอะเทอะเวลาต้องไปลุยแล้วเจอเศษดินเศษโคลน
ในรุ่นพรีเมี่ยมยังได้สปอยเลอร์ติดหลังคามาให้ ตรงด้านล่างก็จะมีกล้องส่องท้ายเอาไว้ดูเวลาถอยจอด ส่วนเสาอากาศก็จะเป็นแบบครีบปลาฉลาม ในส่วนของตัวไฟท้ายจะเป็นแอลอีดีที่ถูกเชื่อมต่อกันพร้อมลูกเล่นที่ตกแต่งให้ดูไม่เรียบจนเกินไป
ในรถรุ่นนี้จะได้ล้ออลูมิเนียมปัดเงาสีทูโทนขนาด 17 นิ้วมาใช้งานพร้อมยาง 205/ 50 r17 ซึ่งจะให้การเกาะถนนที่ดี
แผงคอนโซลมีการผสมผสานของวัสดุหลายแบบด้านบนจะเป็นพลาสติกขึ้นรูปที่มีลวดลายเหมือนลายผ้า ส่วนถุงลมนิรภัยฝั่งผู้โดยสารตอนหน้าก็จะเป็นช่องที่สามารถเปลี่ยนได้เฉพาะจุดหากเกิดการระเบิดขึ้นมา ตรงเหนือเก๊ะเก็บของก็จะหุ้มด้วยไวนิลที่เหมือนกับตรงที่วางแขนตรงประตู
จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่จะเป็นแบบจอสี TFT ขนาด 7 นิ้ว มีดีไซน์ให้เลือกถึง 4 แบบ โดยมาตรวัดแบบเรืองแสงซึ่งหนึ่งในนั้นก็จะเป็นแบบลูกข่างที่มีตัวเลขอยู่ตรงด้านข้าง ส่วนความเร็วจะใช้ตัวเลขแบบดิจิตอลที่มีขนาดใหญ่ ไฟบอกอุณหภูมิน้ำจะติดแดงเมื่อความร้อนขึ้นสูง
จอกลางที่เป็นจอเครื่องเสียงจะมีขนาด 9 นิ้วแบบสัมผัส ซึ่งสามารถแสดงข้อมูลรายละเอียดของตัวรถได้ด้วย พวงมาลัยจะเป็นแบบหุ้มหนังแบบมัลติฟังก์ชันเป็นการผสมผสานของความหรูหรากับความสปอร์ตเข้าไว้ด้วยกัน
เบาะนั่งจะเป็นหนังสังเคราะห์ตรงขอบ ส่วนตรงกลางจะเป็นผ้าสีทูโทนซึ่งจะช่วยระบายความร้อนได้เร็วกว่า ใช้การเดินตะเข็บด้วยด้ายสีเทา ก้านโยกปรับเบาะจะมีขนาดใหญ่หนาและดูแข็งแรง
เบาะกลางจะเป็นผ้าตรงกลาง ข้างๆก็จะเป็นหนังสังเคราะห์แต่จะไม่มีสีขาวเพิ่มเข้ามา พื้นห้องโดยสารจะต่ำกว่าพวกรถขับหลังจึงวางขาได้เต็มที่ทำให้นั่งได้สบายกว่า
เบาะกลางสามารถพับพนักพิงลงมาได้ ส่วนฝั่งซ้ายจะพับแล้วยกขึ้นไปพิงกับเบาะหน้าเพื่อให้ผู้โดยสารแถวหลังขึ้นลงได้สะดวกโดยเบาะแถวกลางยังปรับเลื่อนได้ถึง 240 มิลลิเมตร
เบาะแถวหลังสุดจะนั่งกันสองคนมีความกว้าง 700 มิลลิเมตร โดยหมอนรองศีรษะสามารถที่จะยืดหดได้เพื่อไม่ให้บดบังการมองเห็นของผู้ขับขี่ ตรงด้านข้างจะมีที่วางแก้วน้ำพร้อมช่องเสียบ USB มาให้
เมื่อเป็นรถ 7 ที่นั่งการกระจายความเย็นให้ทั่วถึงทั้งคันจึงจำเป็น บนเพดานจะมีช่องแอร์มาให้พร้อมตู้คอยเย็นแยกออกมาต่างหาก สามารถปรับได้และยังมีแผ่นปรับทิศทางลมเพิ่มเข้ามาอีกต่างหาก
พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังมีพอประมาณไม่ถึงกับกว้างมากเพราะต้องเสียพื้นที่ให้กับเบาะนั่งแถว 3 ไป
ตรงใต้พื้นห้องเก็บสัมภาระก็ยังมีช่องใส่พวกอุปกรณ์ที่ส่งกลิ่นอย่างพวกรองเท้าสามารถที่จะนำมาเก็บไว้ในจุดนี้ได้
หากต้องการพื้นที่เก็บของเพิ่มก็สามารถปรับพับเบาะได้ซึ่งสามารถปรับได้ถึง 7 รูปแบบเพียงพอกับความต้องการในการใช้งาน
ขุมพลังที่ซุกอยู่ใต้ฝากระโปรงจะเป็นเครื่องยนต์แถวเรียง 4 สูบวางขวางขับเคลื่อนล้อหน้า DOHC16 วาล์ว ซึ่งจะเป็นวาล์วแปรผันทั้งฝั่งไอดีและก็ไอเสีย ความจุ 1496 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 106 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตรที่ 4 ,200 รอบต่อนาที
ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ CVT พร้อม sequential Shift มีอัตราทด 2.800 ถึง 0.425 แต่เฟืองท้ายจะมีขนาดใหญ่หน่อย 5.105 ทำให้รอบเครื่องยนต์อยู่ที่ 2,500 รอบต่อนาทีที่ความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราเร่งช่วง 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไปรอบเครื่องยนต์จะสัมพันธ์กันดีกับน้ำหนักเท้าที่กดคันเร่ง
ระบบกันสะเทือนแบบแมคเฟอร์สันตัดด้านหน้าพร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังจะเป็นทอชั่นบีมคอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลง เป็นช่วงล่างที่ค่อนข้างแข็ง อาการท้ายดีดตอนเจอคอสะพานมีบ้างแต่ก็ไม่มากนัก การทรงตัวทำได้ดีไม่เกิดอาการโคลงเวลาอยู่ในโค้ง