รถยนต์ที่หลายคนซื้อมาใช้ส่วนใหญ่มักจะถูกใจที่รูปโฉมน้อยคนนักที่จะได้ใช้เต็มสมรรถนะที่มีอยู่ของรถยนต์รุ่นนั้นๆ อย่างคนที่ซื้อก็ XL7เพราะชอบในสไตล์รถ SUV ที่ใช้งานทั่วๆไปบนถนนเรียบๆกันมากกว่า
XL7เป็นรถที่มีตัวถังไม่ใหญ่มากนักราคาไม่แพง สามารถจุผู้โดยสารได้ถึง 7 คนจึงเพียงพอแล้วสำหรับครอบครัวที่มีรายได้ไม่มากนักหรือจะใช้เป็นรถคันที่2ที่3ก็ได้ การใช้งานเดินทางทั้งในเมืองและเดินทางไกลถือว่าตอบโจทย์ได้ สามารถใช้ความเร็วตามกฎหมายที่กำหนดด้วยความประหยัดพอสมควร
ในโฉมใหม่ทาง Suzuki ก็ได้ปรับตัวรถให้เป็นสีทูโทน โดยใช้สีดำที่เริ่มจากฐานเสาขึ้นไปถึงหลังคาทำให้ตัวรถดูดีมีมิติมากขึ้นสอดรับกับด้านล่างที่ออกแบบมาให้เป็นสีดำด้วยเช่นกัน
เดี๋ยวนี้พวกกระจกมองข้างติดไฟเลี้ยวก็เป็นเรื่องปกติไปแล้ว สำหรับ XL7รุ่นนี้จะได้กระจกมองข้างสีดำที่เข้ากันได้ดีกับสีทางด้านบน
ตัวรถที่ยาวก็มีการออกแบบให้มีหลังคาเป็นเส้นนูนเข้าไปเพื่อความแข็งแรงลดการกระพือของหลังคา ซึ่งของ XL7 จะมีด้วยกัน 4 เส้นวางตามยาว
บางครั้งการเดินทางด้วยจำนวนผู้โดยสารเต็มคันก็มีปัญหาในเรื่องของการจัดเก็บสัมภาระซึ่ง XL7 จะมีราวหลังคาติดตั้งมาให้พร้อมสรรพ สามารถวางกล่องติดไว้กับราวหลังคาได้เลย
อาจจะมีความคิดของบางคนที่อยากจะออกนอกกรอบไปบ้างกับเส้นทางที่ไปไกลขึ้นซึ่ง Suzuki XL7 ก็สามารถที่จะตอบโจทย์นี้ได้ ความแข็งแรงน้ำหนักเบาของโครงสร้างตัวถังTECTทำให้ช่วยลดการบิดตัวเมื่อต้องเจอกับสภาพถนนที่ไม่ราบเรียบได้ดี
กับตัวรถที่มีการออกแบบในสไตล์ของรถ SUV จึงมีใต้ท้องที่สูงขึ้น การขับผ่านถนนขรุขระจึงทำได้สบายใจกว่ารถทั่วๆไป แม้ว่าเส้นทางที่ขรุขระแต่ก็เป็นเส้นทางที่ไม่มีหลุมบ่อลึกจนเกินไปจะเป็นเส้นทางที่ XL7 สามารถผ่านไปได้
ด้วยตัวรถที่ไม่ใหญ่นักการขับผ่านพื้นที่แคบๆจึงทำได้ง่ายกว่าพวกที่มีตัวถังขนาดใหญ่ มั่นใจได้ตอนลุยกับแพลตฟอร์มไฮเทคที่ใช้โครงสร้างด้านล่างจากเหล็กเหนียวจึงได้ความคล่องตัวรองรับการขับขี่ได้หลายสภาพพื้นผิวถนน
นอกจากใต้ท้องจะสูงแล้วความแข็งแรงของล้อแม็กก็มีความสำคัญจะได้ทนทานต่อแรงกระแทกซึ่งอาจจะเกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจก็ได้
บนเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังจนถึงใต้ท้องรถจึงไม่เป็นอุปสรรคที่จะมาขวางกั้นการเดินทางของ Suzuki XL7 ได้ การเกาะถนนทำได้ดีจากการเสริมเหล็กกันโคลงทางด้านหน้าเข้าไปจึงทำให้ทรงตัวได้ดีเกาะถนนได้อย่างแม่นยำ
บนเส้นทางขรุขระความแม่นยำในการควบคุมรถก็มีความจำเป็น XL7 จึงได้พวงมาลัยทรงสปอร์ตหุ้มหนังที่มีด้านล่างตัดตรงทำให้การหักเลี้ยวทำได้อย่างแม่นยำ
ความสัมพันธ์กันระหว่างตัวรถกับเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังทำได้อย่างลงตัว จากเครื่องยนต์ K15B แบบ 4 สูบ 1,462 ซีซีที่ให้กำลังสูงถึง 105 แรงม้าที่ 6,400 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบ/นาที ใช้การส่งกำลังด้วยเกียร์ออโต้เฟือง 4 สปีด ความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอยู่ที่ 2,500 รอบต่อนาที อัตราบริโภคระดับ 16 กิโลเมตรต่อลิตรสามารถทำได้