“PACO” หรือ บมจ. เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ โชว์ผลประกอบการไตรมาส 3/2564 เติบโตแรง มีรายได้รวม 192 ล้านบาท กำไรสุทธิเติบโต 50% เป็น 32 ล้านบาท เผย 9 เดือนแรก PACO มีกำไรแล้วกว่า 92 ล้านบาท ผู้บริหารมั่นใจปีนี้เติบโตเข้าเป้า ชี้ตลาดรถยนต์โลกฟื้นตัวดีหนุนรายได้เติบโต พร้อมเปิดแผนธุรกิจเชิงรุกต่อเนื่อง พร้อมรับผลดี ต้นทุนไฟฟ้าและอลูมิเนียมลดลง
นายสมชาย เลิศขจรกิตติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพรสซิเด้นท์ ออโตโมบิล อินดัสทรีส์ จำกัด (มหาชน) “PACO” ผู้นำด้านการผลิตชิ้นส่วนแอร์รถยนต์ชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความยินดีที่จะรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2564 ซึ่งบริษัทฯ มีรายได้รวม 192 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากรายได้รวม 171 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2563 และมีกำไรสุทธิ 32 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 50 % เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 21 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปีก่อน ซึ่งในไตรมาสนี้ มีรายได้รวมของ PACO เติบโตดีขึ้นตามอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยที่กลับมาขยายตัวอีกครั้ง และการฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวเร็วกว่าไทยและกำลังกลับสู่การขยายตัวอีกครั้ง หลังประเทศที่พัฒนาแล้วในยุโรป และสหรัฐอเมริกามีการเปิดเมือง พร้อมเศรษฐกิจกลับสู่สภาวะปกติ
โดย PACO มีอัตรากำไรสุทธิ (Net Margin) ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 3 ปีนี้ อัตรากำไรสุทธิของ PACO เพิ่มขึ้นเป็น 16% ซึ่งนับเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ค่อนข้างสูงเนื่องจาก PACO เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่เน้นตลาดอะไหล่ทดแทน (Aftermarket Parts) จึงสามารถกำหนดราคาขายสินค้าได้เอง และมีการแข่งขันด้านราคาที่น้อยกว่า โดยอัตรากำไร สุทธิของบริษัทฯ ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 12% ในปีก่อน สำหรับงบการเงิน 9 เดือนแรกปี 2564 PACO มีรายได้รวม 578 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากรายได้รวม 540 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วง 9 เดือนแรกปี 2563 โดยมีกำไรสุทธิ 92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% จากเมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ 67 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งนับเป็นการเติบโตสูงและต่อเนื่อง สวนทางสภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด 19