NEW MG4 ELECTRIC ถูกออกแบบและพัฒนาให้เป็น “รถยนต์ไฟฟ้า100% ที่มีระบบขับเคลื่อนล้อหลัง” (DYNAMIC REAR WHEEL DRIVE) ที่มาเปลี่ยนสมรรถนะของรถพลังงานไฟฟ้า ให้สนุกสนานเร้าใจยิ่งขึ้น ภายใต้มาตรฐานเดียวกับโกลบอลโมเดล ทั้งนวัตกรรมการขับขี่ไปจนถึงดีไซน์อันโดดเด่นที่ออกแบบให้เป็นรถพลังงานไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบ ด้วย 4 จุดเด่นที่น่าสนใจ ได้แก่สมรรถนะ (PERFORMANCE) การควบคุม (HANDLING) การออกแบบ (DESIGN) และความปลอดภัย (SAFETY)
ครั้งแรกของ เอ็มจี กับการเปิดตัวนวัตกรรมแพลตฟอร์มที่ถูกออกแบบเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ มีความยืดหยุ่นในการนำไปปรับใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าได้หลายเซกเมนต์ ไปจนถึงความสามารถในการรองรับแบตเตอรี่ได้หลากหลายความจุ ที่นอกจากยกระดับการปกป้องแบตเตอรี่แล้ว พื้นที่ภายในห้องโดยสารยังกว้างขวาง มากขึ้นด้วย ซึ่ง NEW MG4 ELECTRIC ถือเป็นรถไฟฟ้ารุ่นแรกที่ใช้แพลตฟอร์มนี้
NEW MG 4 ELECTRIC มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ “สนุกและเร้าใจ” ด้วยขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร มาพร้อมกับเทคโนโลยี RUBIK’s CUBE BATTERYขนาดความจุ 51 kWh จัดเรียงเซลล์แบบแนวนอนและระบายความร้อนด้วยระบบ Liquid Cooling system สามารถวิ่งในระยะทางไกลสูงถึง 425 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) และช่วยชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ในขณะชะลอรถ ด้วยระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 4 ระดับ ได้แก่ ระดับ ต่ำ กลาง สูง และ แบบแปรผันตามการขับขี่ (ADAPTIVE) เพื่อให้เข้ากับการขับขี่ในทุกรูปแบบ ผสมผสานกับการกระจายน้ำหนักแบบสมมาตรที่ 50:50 พร้อมตัวถังมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ (LOW CENTRE OF GRAVITY) สอดคล้องกับช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังอิสระแบบ 5-Link Suspension ที่ไม่เพียงแค่ลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวท้องถนนได้ดีเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย สะดวกกับการขับขี่ในพื้นที่ตัวเมืองได้อย่างคล่องแคล่วด้วย รัศมีวงเลี้ยวเพียง 5.3 เมตร และมี Overhang ด้านหน้าและหลังของรถที่สั้น
อำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่ไปอีกระดับด้วยโหมด INTELLIGENT SMART ACCESS ที่ให้ผู้ขับขี่สามารถ สตาร์ทรถได้อัตโนมัติเพียงเหยียบเบรก และเพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่ต่อเนื่อง รองรับการชาร์จไฟกระแสตรง DC สูงสุด 88kW และการชาร์จแบบเร็ว หรือ Quick charge จาก 10% – 80% ในเวลาเพียง 35 นาที พร้อมเปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้เป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายนอกรถด้วยระบบ V2L
NEW MG4 ELECTRIC มาพร้อมกับ Semi-autonomous driving system มั่นใจทุกการขับขี่ด้วยระบบ ความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ถึง 26 ระบบซึ่งครอบคลุมทั้งระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) ระบบช่วยเตือนอุบัติเหตุจากมุมอับสายตา และระบบช่วยควบคุมการขับขี่ อาทิ ระบบช่วยเบรกขณะถอย (RCTB) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking) ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System) ที่ช่วยเสริมความปลอดภัยไปอีกขั้น เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART ที่ช่วยยกระดับคุณค่าและประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า เอ็มจี ไม่ว่าจะเป็น ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะ (Smart Check) ที่ครอบคลุมระบบตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่และการชาร์จ ไปจนถึงการค้นหาสถานีชาร์จ โดยล่าสุดได้เปิดตัวฟีเจอร์ BATTERY DOCTOR บนแอพพลิเคชั่น MG THAILAND บันทึกและวิเคราะห์ พฤติกรรมการใช้งาน พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลรักษาเพื่อยืดอายุการใช้งาน ท้ายที่สุด ยังช่วยให้การเชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ง่ายยิ่งขึ้นด้วยระบบสั่งการอัจฉริยะ (Smart Command) และ ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Smart Connect)
NEW MG4 ELECTRIC ประกอบด้วย 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น D และรุ่น X โดยมีสีตัวถังให้เลือกถึง 5 สี คือ สีฟ้า (Brighton Blue) สีดำ (Black Knight) สีแดง (Scarlet Red) สีเทา (Andes Grey) และสีขาว (Arctic White) ตกแต่งภายในด้วยสีดำ (Black) ในรุ่น D และสไตล์ทูโทนเทา-ดำ (Grey & Black) ในรุ่น X