ตามกันมาติดๆไม่ยอมน้อยหน้าเพื่อนร่วมชาติสำหรับ MG4 ELECTRIC ใหม่ ถูกออกแบบและพัฒนาให้เป็น รถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลัง” พร้อมช่วงล่างอิสระ4ล้อที่มาเปลี่ยนสมรรถนะของรถพลังงานไฟฟ้า ให้สนุกสนานเร้าใจยิ่งขึ้นสามารถถ่ายทอดอัตราเร่งได้ฉับไว ลดการเสียกำลัง และการเกาะถนนแบบรถขับหน้ารองรับการขับขี่ที่สนุกสนานแบบสปอร์ตเต็มรูปแบบในสไตล์Low center for gravityที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำพร้อมการกระจายน้ำหนักแบบ 50: 50
ทางเอ็มจีเลือกใช้NEBULA PURE ELECTRIC PLATFORM First PURE electric integration platformซึ่งเป็น PLATFORM ที่ออกแบบสำหรับรถไฟฟ้าโดยเฉพาะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ด้านการออกแบบ ความกว้างขวาง และสมรรถนะสูงสุด รองรับการออกแบบพัฒนารถยนต์ในอนาคตได้หลากหลายรูปแบบทั้ง 5ประตู ขีดาน SUV
Rubik’s Cube Battery เป็นการออกแบบแบตเตอรี่ใหม่แบบ cell to packด้วยการวางแบตเตอรี่เซลล์ในแนวนอน ซึ่งทำให้ประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำที่สามารถผลิตแบตเตอรี่ที่มีความบางเพียง 10 มม. ซึ่งลดขนาดและน้ำหนักของแบตเตอรี่
และเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสาร เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยในรถ แต่มีความจุ สมรรถนะ และความทนทานเพิ่มขึ้น เพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุแบตเตอรี่ได้มากขึ้น ด้วยการออกแบบแบตเตอรี่ที่มีความบางเพียง11ซม.จึงติดตั้งภายในแพลตฟอร์มที่เสมือนหนึ่งเดียวกับตัวรถได้
การวางแบตเตอรี่เซลล์ในแนวนอนจะลดความสูงของแบตเตอรี่และช่วยลดจำนวนแผ่นกันความร้อน และสามารถติดตั้งจํานวนแบตเตอรี่เซลล์ได้มาขึ้นกว่าการวางแบบแนวตั้ง ซึ่งทำให้ประสบความสำเร็จในการเป็นผู้นำที่สามารถผลิตแบตเตอรี่ที่
ความบางเพียง 110 มม. และมีความระดับความหนาแน่นของพลังงานที่ดีเยี่ยม พร้อมย้ายระบบควบคุมแบตเตอรี่จากด้านบนไปด้านข้างทำให้แบตเตอรี่แบบราบโดยไม่มีส่วนที่ยื่นออกมา ซึ่งนอกจากดีไซน์ที่บางเฉียบแล้วยังเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารได้มากขึ้นส่วนการเปลี่ยนจากแบตเตอรี่แบบโมดูลเป็น “Cell-To-Pack” ทำให้ขนาดของแบตเตอรี่เล็กลง
ขุมพลังของMG 4 ELECTRIC มาจากมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งเป็นมอเตอร์ขับเคลื่อนเทคโนโลยีขั้นสูง ออกแบบให้มีน้ำหนักเบาด้วยโครงสร้างอลูมิเนียมขนาดเล็ก ประหยัดพื้นที่มีสมรรถนะสูงทําให้ได้กำลังขับสูงโดยสิ้นเปลืองพลังงานต่ำ ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.แค่ 7.7 วินาที มาพร้อมกับเทคโนโลยี RUBIK’s CUBE BATTERYขนาดความจุ 51 kWh จัดเรียงเซลล์แบบแนวนอนและระบายความร้อนด้วยระบบ Liquid Cooling system สามารถวิ่งในระยะทางไกลสูงถึง 425 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) และช่วยชาร์จพลังงานกลับเข้าสู่แบตเตอรี่ในขณะชะลอรถ ด้วยระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) 4 ระดับ ได้แก่ ระดับ ต่ำ กลาง สูง และ แบบแปรผันตามการขับขี่ (ADAPTIVE) เพื่อให้เข้ากับการขับขี่ในทุกรูปแบบ
ผสมผสานกับการกระจายน้ำหนักแบบสมมาตรที่ 50:50 พร้อมตัวถังมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ (LOW CENTRE OF GRAVITY) สอดคล้องกับช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัทและด้านหลังอิสระแบบ 5-Link Suspension ที่ไม่เพียงแค่ลดแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวท้องถนนได้ดีเยี่ยมเท่านั้น แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย สะดวกกับการขับขี่ในพื้นที่ตัวเมืองได้อย่างคล่องแคล่วด้วย รัศมีวงเลี้ยวเพียง 5.3 เมตร และมี Overhang ด้านหน้าและหลังของรถที่สั้น
สะดวกอีกระดับด้วยโหมด INTELLIGENT SMART ACCESS ที่ให้ผู้ขับขี่สามารถ สตาร์ทรถได้อัตโนมัติเพียงเหยียบเบรก และเพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่ต่อเนื่อง รองรับการชาร์จไฟกระแสตรง DC สูงสุด 88kW และการชาร์จแบบเร็ว หรือ Quick charge จาก 10% – 80% ในเวลาเพียง 35 นาที พร้อมเปลี่ยนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าให้เป็นแหล่งจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายนอกรถด้วยระบบ V2L
แม่นยำในการบังคับควบคุมด้วยพวงมาลัย Dual Pinion EPS (DP-EPS) เป็นพวงมาลัยตอบสนองได้อย่างฉับไว ให้การบังคับเลี้ยวที่แม่นยำมอบประสบการณ์การขับขี่ที่คล่องตัว และราบรื่น ตอบสนองรวดเร็วยิ่งขึ้นเพื่อการบังคับเลี้ยวที่แม่นยำ และประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกสนาน เป็นพวงมาลัยพาวเวอร์ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า ปรับน้ำหนักตามความเร็วของรถ น้ำหนักเบาเมื่อใช้ความเร็วต่ำเพิ่มน้ำหนักเพื่อความมั่นใจในความเร็วสูงสามารถปรับน้ำหนักได้ 3 ระดับ Comfort Normal และ Sport
MG4 ELECTRIC ใช้ระบบเบรกเทคโนโลยีล่าสุด Continental integrated braking systemซึ่งตอบสนองได้เร็วกว่าระบบเบรกแบบปกติทั่วไปถึง 300 มิลลิวินาที การทำงานประสานกันระหว่างดิสก์ด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยเพิ่มแรงเบรกอย่างมีประสิทธิภาพ มีระยะเบรกและประสิทธิภาพ การเบรกที่ยอดเยี่ยม ผลการทดสอบ AMS Test (Auto Motor und Sport)
- 100 – 0 กม./ชม. เฉลี่ยน้อยกว่า < 37 เมตร ทดสอบการเบรกต่อเนื่อง 10 รอบ โดยระยะเบรกแตกต่างกันน้อยกว่า < 1.2 เมตร (AMS standard < 2m) น้ำหนักแป้นเบรกมี 3 ระดับComfort NormalและSport ใช้วัสดุคุณภาพสูงContinental 1)Integrated Braking System 2)Calipers 3) EPB 4) Tire 5) ผ้าเบรกพรีเมี่ยมเกรด TEXTAR
ในรุ่น X จะได้สีภายในแบบทูโทน เบาะหนังสังเคราะห์ผสมผ้า เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
จอแสดงผลดิจิตอลขนาด 7 นิ้ว ส่วนจอกลางที่เป็นเครื่องเสียง 6 ลำโพง เป็นจอขนาด 10.25 นิ้วพร้อมที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
MG4 ELECTRIC มาพร้อมกับ Semi-autonomous driving system มั่นใจทุกการขับขี่ด้วยระบบ ความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM ถึง 26 ระบบซึ่งครอบคลุมทั้งระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) ระบบช่วยเตือนอุบัติเหตุจากมุมอับสายตา และระบบช่วยควบคุมการขับขี่ อาทิ ระบบช่วยเบรกขณะถอย (RCTB) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking) ระบบตรวจจับพฤติกรรมการขับขี่ DMS (Driver Monitor System) ที่ช่วยเสริมความปลอดภัยไปอีกขั้น เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART ที่ช่วยยกระดับคุณค่าและประสบการณ์การขับขี่ของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า เอ็มจี ไม่ว่าจะเป็น ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะ (Smart Check) ที่ครอบคลุมระบบตรวจสอบสถานะแบตเตอรี่และการชาร์จ ไปจนถึงการค้นหาสถานีชาร์จ โดยล่าสุดได้เปิดตัวฟีเจอร์ BATTERY DOCTOR บนแอพพลิเคชั่น MG THAILAND บันทึกและวิเคราะห์ พฤติกรรมการใช้งาน พร้อมให้คำแนะนำในการดูแลรักษาเพื่อยืดอายุการใช้งาน ท้ายที่สุด ยังช่วยให้การเชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ง่ายยิ่งขึ้นด้วยระบบสั่งการอัจฉริยะ (Smart Command) และ ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ (Smart Connect)