มิชลิน ในฐานะพันธมิตรผู้ก่อตั้งการแข่งรถ ‘ฟอร์มูลา อี’ (Formula E) มุ่งมั่นนำเสนอโซลูชั่นสำหรับรถพลังงานไฟฟ้าประเภทที่นั่งเดี่ยวซึ่งใช้ในการแข่งขัน ‘ฟอร์มูลา อี’ โดยยางมิชลินสำหรับการแข่งรถ รายการดังกล่าวมีลักษณะเหมือนกับยางสำหรับวิ่งบนถนนทางเรียบ แต่มีประสิทธิภาพสำหรับการแข่งขันประลองความเร็วในทุกสภาพอากาศ ทั้งนี้ ขนาดยางซึ่งอยู่ที่ 19 นิ้ว เป็นไปตามมาตรฐานยางสำหรับรถยนต์ทางเรียบที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
ยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต อีวี’ เป็นพัฒนาการจากความสำเร็จของมิชลินในการแข่งรถ ‘ฟอร์มูลา อี’กว่า 6 ฤดูกาล โดยมาพร้อมเทคโนโลยี ElectricGrip CompoundTM ซึ่งใช้เนื้อยางที่มีความแข็งแกร่งสูงบริเวณตอนกลางของหน้ายาง จึงให้การยึดเกาะที่รองรับแรงบิดสูงของรถสปอร์ตไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันแก้มยางยังมีลวดลายและลักษณะพื้นผิวคล้ายกำมะหยี่เช่นเดียวกับยางมิชลินที่ใช้ในการแข่งรถ ‘ฟอร์มูลา อี’ ด้วย
ยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต อีวี’ ให้คุณสมบัติที่โดดเด่น อาทิ
ศักยภาพในการยึดเกาะที่ดีเยี่ยมทั้งบนถนนเปียกและถนนแห้ง ไม่ว่ายางจะสึกอยู่ที่ระดับใดก็ตาม โดยคำนึงถึงน้ำหนักตัวรถและการกระจายน้ำหนักที่มากกว่าของรถสปอร์ตไฟฟ้า
ความสามารถในการต้านทานการสึกหรอที่โดดเด่น สามารถรองรับแรงเร่งและแรงบิดสูงอันเป็นลักษณะเฉพาะของรถสปอร์ตไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แรงต้านทานการหมุนที่ต่ำมากของยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต อีวี’ ส่งผลให้มีระยะทางวิ่งเพิ่มขึ้นถึง 60 กิโลเมตร ช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้งานรถสปอร์ตไฟฟ้าได้เต็มสมรรถนะถึงขีดสุด
ประสิทธิภาพในการลดระดับเสียงรบกวนลงได้ถึง 20% ด้วยเทคโนโลยี MICHELIN AcousticTM ซึ่งอยู่ในรูปโฟมโพลียูรีเธนที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษเพื่อลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร จึงให้ความเพลิดเพลินในการขับขี่รถสปอร์ตไฟฟ้าที่เหนือกว่า
ปัจจุบัน มิชลินเป็นผู้ผลิตยางรถยนต์เพียงรายเดียวที่มีบทบาทในตลาดยางรถสปอร์ตไฟฟ้า ทั้งประเภทยางมาตรฐานติดรถและยางเปลี่ยนทดแทน ทั้งนี้ ยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต อีวี’ จะเริ่มทยอยออกวางจำหน่ายในปี 2564 โดยมีให้เลือก 16 ขนาด (ยางมาตรฐานติดรถ 11 ขนาด และยางสำหรับเปลี่ยนทดแทน 5 ขนาด) สำหรับล้อขอบ 18-22 นิ้ว
อนึ่ง ยาง ‘มิชลิน ไพลอต สปอร์ต อีวี’ ขนาด 20 นิ้ว ได้รับการรับรองให้ใช้งานกับรถยนต์ ‘เทสลา โมเดล วาย’ (Tesla Model Y) ซึ่งทำตลาดในประเทศจีน ทั้งยังจะเป็นยางที่ทำตลาดทั่วโลก ครอบคลุมการใช้งานกับยานยนต์ในตลาดยุโรปและอเมริกาเหนือในปลายปี 2564 นอกจากนี้ มิชลินยังตั้งเป้าที่จะเพิ่มยอดขายในตลาดที่มีการเติบโตสูงให้ได้เป็น 8 เท่า ภายในปี 2567