บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGC-ASIA ผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์โมบิลิตี้แบบครบวงจร จัดพิธีลงนาม MOU กับ CITY AUTO GROUP ผู้นำธุรกิจค้าปลีกยานยนต์แบบครบวงจร จากประเทศเวียดนาม มุ่งขยายโอกาสการลงทุนเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในปัจจุบัน รวมถึงศึกษาช่องทางในการดำเนินธุรกิจใหม่ พร้อมเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน โดยมี มร. เล ฮิวว์ ฟุบ (Mr. Le Huu Phuc) ผู้แทนการค้าเวียดนามประจำประเทศไทย ให้เกียรติมาร่วมในพิธี
ดร. สัญหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “MGC-ASIA ดำเนินธุรกิจโดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าในหลากหลายอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยเน้นธุรกิจไลฟ์สไตล์โมบิลิตี้แบบครบวงจร ภายใต้ระบบนิเวศทางธุรกิจที่สมบูรณ์แบบ ครอบคลุมทุกความต้องการ ทั้งการจำหน่ายรถยนต์ใหม่และมือสอง, บริการหลังการขาย, รถเช่า, บริการทางการเงิน, ประกันภัย และอื่นๆ ครบทั้งทางบก
ทางน้ำ และทางอากาศ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้ายุคใหม่แบบครบวงจร ส่งผลให้เราได้รับความเชื่อมั่นจากทั้งลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจในประเทศไทย รวมถึงอีกหลายประเทศทั่วโลก ผมรู้สึกยินดี ที่เราได้มีการจัดพิธีลงนาม MOU กับทาง ซิตี้ ออโต้ กรุ๊ป ผู้นำธุรกิจค้าปลีกยานยนต์แบบครบวงจรในเวียดนาม ที่มีความโดดเด่นเชิงนวัตกรรมและการบริการลูกค้าที่เป็นเลิศ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจของ MGC-ASIA และเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญต่อการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนในอนาคต”
การลงนาม MOU ครั้งนี้ แสดงถึงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ที่ออกแบบมาเพื่อนำศักยภาพของทั้งสององค์กร ทั้งด้านธุรกิจไลฟ์สไตล์โมบิลิตี้แบบครบวงจรของ MGC-ASIA และความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจค้าปลีกยานยนต์แบบครบวงจรของ CITY AUTO GROUP ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้จดทะเบียนเป็นสมาชิกในตลาดหลักทรัพย์ของเวียดนาม (HOSE-Ho Chi Minh Stock Exchange) ภายใต้ชื่อ ‘CTF’ มาต่อยอดความแข็งแกร่งทางธุรกิจ พร้อมศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินธุรกิจร่วมกัน ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยมุ่งเน้นประสิทธิภาพของการปฏิบัติงาน, การขยายสู่ตลาดใหม่ และการรังสรรค์นวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในอุตสาหกรรมยานยนต์ของทั้งสองประเทศ ด้วยบริการทั้งก่อนและหลังการขายสำหรับรถใหม่, รถมือสอง, รถเช่า, บริการทางการเงิน และประกันภัย สร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนในอนาคต