เป็นการเดินทางไกลด้วยมาสด้า บีที-50 รุ่น ดับเบิ้ล แค็ป ไฮ-เรเซอร์ปิกอัพสี่ประตูขับสองยกสูงที่ดูเรียบหรู สบาย สไตล์ SUV ในกิจกรรมมาสด้าปันสุข ซึ่งจุดหมายของการเดินทางครั้งนี้อยู่ที่โรงเรียนสอนคนตาบอดจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมกับแวะเยี่ยมโชว์รูมมาสด้า มิตรแท้ ออโตโมบิลสุราษฎร์ธานีด้วย
การเดินทางครั้งนี้ได้เจอกับสายฝนที่โปรยปรายตลอดเส้นทางเมื่อเข้าสู่ประตูภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการเดินทางกับรถกระบะ4ประตูมาสด้า บีที-50 รุ่น ดับเบิ้ล แค็ป ไฮ-เรเซอร์ด้วยดีไซน์ภายนอก ที่มาพร้อมกระจังหน้า และ Signature Wing ขนาดใหญ่ไม่ต้านลมทำให้ไม่ต้องเกร็งกับการควบคุมรถ
ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ ไฟหน้าสูงและต่ำเป็นแบบหลอด LED มีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ แบบ LED ให้ลำแสงสีขาวสว่างช่วยให้มองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อขับขี่ในเวลากลางคืนและช่วยประหยัดพลังงาน และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน แบบ LED Signature กระจังหน้า Signature Wing
ซึ่งรถประเภทนี้ยังคงได้รับความนิยมของคนต่างจังหวัดอยู่ นอกจากนั้นยังมีโครงสร้างตัวถังที่ผลิตขึ้นจากเหล็กกล้าทนแรงดึงสูง (High Tensile Steel) ที่ให้ความแข็งแกร่งกว่าเหล็กธรรมดา และให้ความปลอดภัยยิ่งขึ้น พร้อมช่วยลดการสั่นสะเทือนและเสียงรบกวนจากภายนอก
มองด้านหน้าจะเห็นดีเอ็นเอของความเป็นมาสด้าอย่างชัดเจน แต่พอดูด้านหลังกลับไม่ต่างไปจากคู่แฝดอย่างอีซูซุที่มาสด้าจ้างผลิตจะมีแต่โลโก้ครงฝาท้ายที่บ่งบอกว่านี่คือมาสด้า
ความอเนกประสงค์ของรถกระบะสี่ประตูคือจุดขาย ได้พื้นที่ใช้สอยภายในแบบรถเก๋ง ด้านหลังก็มีกระบะบรรทุกของ อีกทั้งยังมีราวหลังคาติดมาให้กับรถรุ่นนี้ที่มาพร้อมกับความสะดวกสบาย และการใช้งานที่อเนกประสงค์ ให้สมรรถนะแรง ทรงพลัง เติมความสปอร์ตที่พร้อมจะออกไปสนุกกับการใช้ชีวิต ทุกด้านได้เต็มที่ในแบบที่ต้องการ
การเดินทางไกลไม่เหนื่อยด้วยระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบอิสระปีกนกคู่ (Double-Wishbone) และชุดแหนบ (Leaf Spring) ทำให้ช่วงล่างของรถปิกอัพมาสด้า BT-50 สามารถให้การควบคุมรถอย่างมีเสถียรภาพและขับขี่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ซึ่งในรุ่น ขับสองยกสูง ยังได้มีการเสริมตัวยึดด้านหน้ากันโคลง เพื่อเพิ่มความสมดุลให้กับตัวรถมากขึ้นพร้อมรับทุกสถานการณ์
รถรุ่นนี้ยังถูกออกแบบมาเพื่อให้มีสมรรถนะและความสามารถในการลุยน้ำได้สูงสุดถึง 800 มิลลิเมตร ทำให้ขับลุยผ่านน้ำไปได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยถึงเจอฝนตกมากน้อยแค่ไหนก็ยังสบายใจได้ มาพร้อมล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ดิสก์เบรกหน้าสำหรับรถปิกอัพ มาสด้า BT-50 มีทั้งหมด 2 ขนาด ได้แก่ ขนาด 17 และ 15 นิ้ว ในขณะที่ด้านหลังใช้ดรัมเบรกขนาด 15 นิ้ว ซึ่งจากการปรับตั้งทำให้สามารถหยุดล้อได้อย่างยอดเยี่ยม และการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของหม้อลมเบรก ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการควบคุมเบรก
ตอนเสียภาษีประจำปีก็ยังเป็นข้อได้เปรียบของรถรุ่นนี้เพราะต้องเสียภาษีอัตราเดียวกับพวกรถยนต์นั่งกับเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 ลิตรที่มาพร้อมระบบหัวฉีดน้ำมันคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น ซึ่งทำงานร่วมกับ VGS เทอร์โบขนาดใหญ่ ที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิค ให้ประสิทธิภาพเต็มพลัง ให้กำลังสูงสุด 150 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-2,600 รอบ/นาที ประหยัดน้ำมันสูงสุด 16.1 กม./ลิตร มาพร้อมระบบควบคุมการฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ทำงานอย่างแม่นยำ จึงทำให้ตอบสนองต่อการขับขี่ได้ดีในทุกรูปแบบ ประหยัดน้ำมัน มากยิ่งขึ้น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ธรรมดา 6 สปีดสนองความต้องการสำหรับการเลือกใช้งานระบบเกียร์ธรรมดา ซึ่งรถปิกอัพ มาสด้า BT-50 ได้พัฒนาให้ดีขึ้น โดยเพิ่มความแข็งแรงของคันเกียร์เพื่อให้การเปลี่ยนเกียร์ราบลื่น มั่นคง และกระชับมากยิ่งขึ้น ออกตัวแรงเต็มสมรรถนะ ด้วยอัตราการเร่งที่ต่อเนื่อง ช่วงเข้าเกียร์อาจจะฝืดๆหน่อยแต่ก็ให้กำลังฉุดลากสูงในทุกช่วงความเร็ว พร้อมไฟแจ้งเตือนการเปลี่ยนเกียร์ในรอบเครื่องยนต์ และความเร็วที่เหมาะสม สามารถควบคุมการส่งกำลังได้ดีในทุกช่วงความเร็ว
การเดินทางไกลเครื่องยนต์กับเกียร์จะทำงานสัมพันธ์กันเมื่อไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อย ช่วงเกียร์1-3จะมีอัตราทดชิด ส่วน4-6จะลากได้ยาวหน่อย ช่วงลดความเร็วหากรอบเครื่องยนต์หล่นลงมาไม่ตำกว่า1,500รอบ/นาทีก็ใช้เกียร์6ส่งขึ้นได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาลดเกียร์เพราะแรงบิดจะดีช่วง1,800-2,600 รอบ/นาที ความเร็วระดับ160กม./ชม.นั้นทำได้ไม่ยาก
ในรถรุ่นนี้จะได้ห้องโดยสารโทนสีเข้ม ให้ความสะดวกสบายและเพลิดเพลินตลอดเส้นทางหน้าจอแบบสัมผัส ขนาด 9 นิ้ว รองรับระบบ Android Auto™ พร้อมระบบนำทาง ที่รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง Apple CarPlay® แบบไร้สาย และ Android Auto™ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย-ขวา แบบ Dual Zone ระบบเสียงรอบทิศทาง พร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง และกุญแจรีโมทอัจฉริยะ พร้อมระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยรีโมท
พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแท้ปรับได้ 4 ทิศทาง หน้าจอแสดงผลการขับขี่ MID แบบTFT ขนาด 4.2 นิ้ว
เบาะนั่งแบบผสมสีน้ำตาล ตรงกลางเป็นหนังแท้เจาะรูระบายความร้อน ข้างๆจะเป็นหนังเทียม ฝั่งคนขับใช้ปรับด้วยไฟฟ้าเป็นเบาะที่ออกแบบมาได้ดีนั่งนานๆไม่ปวดล้า
เบาะหลังมีหมอนรองศีรษะสำหรับ 3 ตำแหน่งพร้อมที่วางแขนพับเก็บได้ พื้นที่วางขามีเยอะแต่เสียดายที่วางพนักพิงชันไปหน่อย หากเอนได้มากกว่านี้ก็จะได้ความรู้สึกเหมือนรถเก๋งมากขึ้น