Maserati ก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่แห่งการขายด้วยการผสมผสานโลกออนไลน์และการขายแบบดั้งเดิมเข้าด้วยกัน นำไปสู่ OTO Retail project (‘OTO’ ย่อมาจาก “online to offline” หรือ “offline to online”) โปรเจ็คนี้นำเครื่องมือดิจิตอลมาช่วยอำนวยความสะดวกในการขาย และช่วยให้ดีลเลอร์สามารถทำหน้าที่ได้สะดวกขึ้น ในขณะที่ลูกค้าเองก็สามารถเลือกสินค้าและบริการได้ตามที่ต้องการโดยเลือกได้เองว่าอยากดำเนินการขั้นตอนไหนที่โชว์รูม Maserati และขั้นตอนไหนที่สามารถทำออนไลน์ได้
Bernard Loire Chief Commercial Officer ของ Maserati กล่าวว่า “Maserati มองว่าลูกค้าคือหัวใจของธุรกิจเสมอ เราต้องการต่อยอดภาพลักษณ์ของแบรนด์ในเรื่องนวัตกรรมและประวัติที่ยาวนาน คุณภาพ และความพิเศษ ดังนั้นเราจึงปรับกระบวนการขายของเราให้พัฒนายิ่งขึ้นตามความเปลี่ยนแปลงของลูกค้า อย่างไรก็ตาม อีคอมเมิร์ซนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของ Maserati เพราะเส้นแบ่งระหว่างโลกออนไลน์และโลกแห่งความจริงนั้นเริ่มจางลงเรื่อยๆ Maserati พร้อมที่จะนำเสนอการขายรูปแบบใหม่ ผสมผสานประสบการณ์ของลูกค้าอย่างไร้รอยต่อ ไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
การใช้ช่องทางดิจิตอลไม่ใช่แค่การอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ที่บ้านเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการไปที่ร้านค้าด้วยเช่นกัน ในแง่หนึ่ง การใช้สื่อออนไลน์เข้ามาช่วยก็เติมเต็มการบริการออนไลน์ แต่อีกแง่หนึ่ง พื้นที่การจำหน่ายสินค้าก็กว้างขึ้นและมีบริการที่หลากหลายขึ้นเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น โชว์รูม Maserati ทั่วโลกจะค่อย ๆ เปลี่ยนมาใช้ดีไซน์ใหม่นี้ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป โดยจะมีโชว์รูมใหม่ที่มิลานและเซี่ยงไฮ้ การปรับประสบการณ์ของลูกค้าให้ตอบโจทย์แต่ละคนเป็นเรื่องที่สำคัญมากขึ้น และลูกค้าสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรม Maserati Fuoriserie ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของคอนเซ็ปท์ใหม่นี้ โปรแกรมนี้เปิดตัวเมื่อปี 2020 เป็นโปรแกรมการปรับแต่งบริการตามความต้องการของลูกค้าเพื่อให้ Maserati ทุกคันถ่ายทอดความเป็นเอกลักษณ์ของลูกค้าแต่ละคนได้อย่างชัดเจน