1988-1989 ตราบปัจจุบัน..หากมิตรสหาย วัย สว. เอ๊ย !..วัย Mod-Modernized ..เคยมีโอกาสชมผลงานชิ้นเอกที่ไม่เหมือนใครนี้ด้วยตัวเอง..อย่าลืมชู 3 นิ้ว ว ว ..เจ๊ย ย ย ย ..ตะโกนคำภาษาอิตาลีโบราณดัง ๆ ให้ชัดเจนว่า Ji Ot To – Caspita..ISHI Ishi ishi..HA Ha ha a a a )))
ณ ช่วงเปลี่ยนทศวรรษที่ ’80s พบกับยุค 90 อัน ..วงการยานยนต์ยุ่นถือเป็น Tsunami of The Japanese Supercars แนวล้ำหน้า Avant Garde อวกาศ ชิ้นงานออกแบบยุคต้นบนโปรแกรม Autocad อันเป็นผลมาจาก CG ที่ยกระดับขึ้น น น น
อนึ่งยังเป็นผลมาจากก้าวกระโดดของเศรษฐกิจโลก ด้วยปริมาณการเติบโตของ Supercars ได้รับความนิยมแพร่หลาย โดยรถยนต์ที่มีการกำหนดเทรนด์ที่น่าทึ่งเช่น Ferrari F40, Porsche 959 หรือ Cizeta Moroder V16T ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นต้นปกระแส Dream Cars ระดับท็อปคลาส (ซึ่งยุคปัจจุบัน เราจะไม่พบกับนิยาม Dream Cars อีกต่อไป )))
ซูเปอร์คาร์ ณ ระดับ Tsunami
ในขณะที่ทั้ง อิตาลี-เยอรมัน ต่างได้รับการยกย่องจากทั่วโลกสำหรับโมเดลที่พวกเขาต้องการมาก และในขณะที่ USA แจ้งเกิดด้วย Chrysler Corp + Lamboghini Diablo ขึ้น Top สุด.. ขณะเดียวกันกับ Tsunami จากตะวันออกไกลสายญี่ปุ่น ได้ยกตัวโหมกระหน่ำ า า ซูเปอร์คาร์ระดับโลก ก ก ..
Giotto Caspita..เป็นซูเปอร์คาร์ตามมาตรฐาน World Supercars ที่พร้อมแจ้งเกิด ด้วย Japanes DNA บริสุทธิ์ ..ใช่ฮะ Woke Classic Ep.นี้ฉันกำลังพูดถึงสิ่งอื่นใดมิได้..นอกจากซูเปอร์คาร์ญี่ปุ่นที่ถูกลืม – (EXCLUSIVE)..Jiotto Caspita..HA Ha ha a a a )))
ด้วย Motto “ผู้ชายที่โดดเด่น” จากชุดชั้นใน Wacoal )))
เป็นปี 1988 เมื่อความคิดของสองนักสร้างสรรค์ มาสุมหัวกันเพื่อพัฒนาและสร้างซูเปอร์คาร์ ณ ระดับ Tsunami จากญี่ปุ่น..คนแรกคือ Yoshikata Tsukamoto – โยชิกาตะ สึคาโมโตะ ประธาน บริษัท วาโก้คอร์ป – ผู้ผลิตเครื่องแต่งกายสตรี ชุดชั้นใน WAGOAL !!!.. คนที่สอง – คุณมิโนรุ ฮายาชิ – ประธาน บริษัท Dome – โดเมะ จำกัด – ผู้พัฒนาและผลิตรถแข่งสัญชาติญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จ (ดังที่ Woke Classics Ep #1987 DOME Zero P1/P2 ..ซามูไรสะท้านไตรภพ Ep เก่าๆเคยนำเสนอไปแล้ว)))
1987-1988 เคียงคู่กับ DOME Concept เราจะพบกับ Jiottoi Caspita คุณสึกาโมโตะในเวลานั้นต้องการขยายธุรกิจของเขาไปสู่ แฟชั่นสุภาพบุรษ Men’s Wares ..ด้วย Motto “ผู้ชายที่โดดเด่น” ตามที่ Wacoal วาดไว้
และหลังจากมีการพูดคุยกันมากมายเกี่ยวกับทิศทาง “สองผู้ชายที่โดดเด่น” Yoshikata Tsukamoto – CEO Wagoal กับ Hayashi เจ้าสำนัก Dome ทั้งคู่จึงลงตัวในความคิดที่จะสร้างซูเปอร์คาร์ที่ดีที่สุดในโลก ก ก ก .. รถที่เร็วกว่า Supercars Licent ..รถซูเปอร์คาร์ตามกฎหมายรายอื่น ๆ ฯลฯ. รถที่จะทะลวงขีดจำกัดขอบเขตระหว่างรถแข่ง + รถสมรรถนะ = Super – Hyperformance (ณ. ยุคที่นิยาม Hypercars ยังมิอุบัติขึ้น น น น !?@#$%)
WAcoal Sports CAr Project-WASCAP
โครงการชุดชั้นในชาย ย ย ..เอ๊ย ! ซูเปอร์ไฮเปอร์นี้เรียกว่า WASCAP (WAcoal Sports CAr Project) เพื่อแนวคิดสำหรับซูเปอร์คาร์อนาคต หลังจากนั้นก็มีการตัดสินใจพัฒนารถซูเปอร์สปอร์ต บนพื้นฐานความสำเร็จของ Dome ในด้านรถแข่ง 24 Hrs Le Mans ..แม้ว่าตั้งแต่เริ่มแรกคุณ Hayashi รู้ว่า WASCAP จะเป็นโครงการที่ยากมาก แต่ก็มีการให้ไฟเขียวสำหรับการพัฒนาซูเปอร์คาร์ในอุดมคติบนเงวินทุนมหาศาลจาก Wagoal Sports
1988 กำเนิด Tsunami.. Giotto Caspita
กรกฎาคม 1988 เมื่อ Jiotto Inc. ก่อตั้งโดย Wacoal Corp + Dome จากนั้นงานวิจัยในขณะที่การออกแบบและการออกแบบเป็นของบริษัทใหม่ – Jiotto Design ซึ่งเป็น บริษัท อิสระเพียงแห่งเดียว สตูดิโอออกแบบของญี่ปุ่นในเวลานั้น. แผนกของแบรนด์ Jiotto ซึ่งตั้งอยู่ในเกียวโตก่อตั้งโดย Wacoal (60%) และ Dome (40%) ประธานคือ Dome – Mr Hayashi ขณะที่รองประธานและหัวหน้าฝ่ายออกแบบคือ Mr Kunihisa Ito ในเวลานั้น Jiotto Design เป็นสตูดิโอออกแบบอิสระแห่งเดียวของญี่ปุ่น
CASPITA..เจนจัดสูงกว่า Italian + German Supercars
Dome ในฐานะผู้นำในการพัฒนาออกแบบโครงสร้างแข่งรถและซูเปอร์คาร์ในอุดมคติของญี่ปุ่นกำหนดค่าว่า CASPITA ควรมีพื้นฐานจากรถแข่ง Prototype Group C ที่ดุดันห้าวหาญกว่า Italian + German Supercars
ครบถ้วนสำหรับขับขี่บนถนนสาธารณะ เส้นสายที่เพรียวบางตามหลักอากาศพลศาสตร์ได้รับการเน้นอย่างดีในภาพร่างแรกของรถที่นำเสนอ ลักษณะที่สังเกตได้คือปีกหลังซึ่งคิดได้ดีว่าจะไหลเข้าสู่ส่วนท้ายของลำตัว นอกจากนั้น Dome ยังใช้อุโมงค์ลมของสถาบัน JARI (Japan Automobile Research Institute ) ..ทั้งหมดนี้เน้น Mid-Ship โครงสร้างเครื่องยนต์กลางลำ ที่มีส่วนหน้าสั้นและ Cockpit ห้องนักบินเคลื่อนที่ไปข้างหน้าให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และโซนด้านหลังจะถูกยึดครองด้วยขุมพลัง V12 สูบ เน้นความแตกต่างที่จากที่เคยใน Supercars ในโลกยุคนั้น เน้นจุดเด่นด้านหน้า, เน้นรูปทรงดุจชุดชั้นใน Wagoal อกใหญ่ เอวคอด บั้นท้าย Sexy ขนาดใหญ่ + Spoiler – แพนปีกหลังดุจหางหงส์ + ช่องระบายอากาศด้านข้างขนาดใหญ่ยังเป็นรายละเอียดที่โดดเด่นมีความใกล้เคียงกับรถแข่ง Grp C มากที่สุด
1989 Upgrade ..การปรับแต่งเพิ่มเติมก้าวไปอีกขั้น
ขั้นตอนต่อไปสำหรับเวอร์ชันที่พร้อมใช้งานจริง การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดอย่างหนึ่งถูกนำไปใช้กับส่วนหน้าของรถ มีการเพิ่มช่องระบายอากาศขนาดใหญ่เพื่อให้แน่ใจว่ามีอากาศที่จำเป็นสำหรับหม้อน้ำ แสดงให้เห็นว่าเวอร์ชันที่ใกล้เคียงที่สุดในการขายจริง ง ง
1989 การ Upgrade ปรับเปลี่ยนครั้งนี้คือไฟหน้าและด้านหลังซึ่งได้รับการปรับปรุงใหม่ให้มองถนนรอบด้านได้ดีกว่า 1988 โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถคันนี้ได้รับสปอยเลอร์หลังที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ยกขึ้นลง 19 cm
แนวคิดการตกแต่งภายในที่ใช้งานได้จริงบนท้องถนน แต่ค่อนข้างซับซ้อนเหมือนรถแข่ง มาตรวัดความเร็ว ,วัดรอบ LED ติดตั้งอยู่ตรงกลางหลังพวงมาลัยแบบก้านคู่, ขณะที่สวิตช์ที่จำเป็นทั้งหมดรวมอยู่ในคอนโซลกลางและแผงหน้าปัด + จอแสดงผล LCD ขนาดเล็กติดตั้งสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อเพลิงและแรงดันน้ำมัน ครบถ้วนรถสมรรถนะสูงตัวจริง สำหรับการขับบนท้องถนน น น น )))
เทคโนโลยี “แซนวิช”
ส่วนที่สำคัญของ Super -Hyperformance คือ Monocoque -เฟรมโมโนค็อค ชิ้นเดียวตลอดคัน ( *ผลิตโดย บริษัท มิตซูบิชิเรยอน – by Mitsubishi Rayon Co. ) โครงสร้างนี้ใช้เทคโนโลยี “แซนวิช” โดยวางอลูมิเนียมไว้ระหว่าง CFRP (พลาสติกเสริมคาร์บอนไฟเบอร์) แล้วจึงเป็น“ อบ” ในหม้อนึ่ง ง ง ง ..เพื่อให้แข็งแกร่งจริงแต่น้ำหนักเบา กระบวนการนี้ทำซ้ำมากกว่า 15 ครั้งซึ่งหมายความว่าการผลิต Monocoque เดียวใช้เวลานานกว่า 2 เดือน )))
ขุมพลัง Subaru – MM + Italy Motori + Mclaren F1
Dome เรียกใช้ “มือที่สาม” Subaru ก้าวเข้ามาในโครงการของซูเปอร์คาร์สัญชาติญี่ปุ่นคันนี้ ด้วยเครื่องยนต์ F1 ของ Subaru – MM ที่ออกแบบแต่มิได้ลงสนาม ม ม .. ที่พัฒนาร่วมกับ บริษัท Motori Moderni ของอิตาลีผู้ผลิต Cizeta Moroder V16T ที่ถูกลดลงเหลือ 450 bhp + แรงบิด 363 นิวตัน-เมตร ขุมพลังที่โดดเด่นในแนวนอน Boxer ขนาด 3.5 ลิตร Flat-12 ที่ออกแบบโดย Carlo Chitti (มือวาง Ferrari – F1 Team ) .. ได้รับการติดตั้งเข้ากับโครงสร้าง Sandwich-คาร์บอนคอมโพสิตของ Dome ถ่ายโอนพลังไปยังล้อหลัง ผ่านกระปุกเกียร์ 6 Speed ที่สร้างโดย บริษัท อเมริกัน Weismann ซึ่งในเวลานั้นรับใช้ทีม McLaren F1 ด้วย พลังจำนวนมหาศาลนี้เชื่อมต่อกับถนนผ่านยางขนาดใหญ่ – 245 / 40ZR17 ที่ด้านหน้าและแม้แต่ 335 / 35ZR17 ที่ด้านหลัง สูงจากพื้น 7 – 13 cm จากผิวถนน ( ที่มิใช้ Track !?@#$%)
ทุกส่วนประกอบและมวลรวมทั้งหมดละเอียดถี่ถ้วนเหมาะสมสำหรับโลกที่จะได้เห็น Road Cars ..รถยนต์ญี่ปุ่นที่พิเศษที่สุดเพื่อท้องถนน
CASPITA = WOW w w w ..
ซูเปอร์คาร์ตัวจริง ณ ปลายยุค ’80s นี้ได้รับชื่อ “Caspita” มาจากคำอุทานภาษาอิตาลีที่มีความหมายว่า “WOW w w w w การสร้างสรรค์ที่ดี” ที่ชาวอิตาลีใช้เพื่อแสดงความประหลาดใจที่ไม่คาดไม่ถึง ง ง )))
การเปิดตัวครั้งแรกที่น่าประหลาดใจในงาน *โตเกียวมอเตอร์โชว์ครั้งที่ 28 มีนามว่า “Jiotto Caspita” ร่างผงาดแนวคิดที่น่าทึ่งเทียบกันกับ #Mitsubishi HSR-II, #Isuzu 4200R หรือแม้แต่ #Ferrari Mythos by Pininfarina
Jiotto Caspita เผยความเป็น Supercar..Tsunami – ซูเปอร์สปอร์ตของญี่ปุ่นอย่างภาคภูมิใจผงาดขึ้นเป็นดาวเด่นของ 28th. Tokyo Show พร้อมแท่นแสดงเครื่องยนต์ F1 Subaru -Motori Moderni ที่ชาวยุ่นเองยังไม่รู้เลยว่า Subaru แอบผลิตเครื่อง F1 และบัดนี้ลงติดตั้งใน Caspita เป็น “ซูเปอร์คาร์สึนามิ” คันยิ่งใหญ่ขนาดความยาว 4534 mm. + Boxer เครื่องยนต์สูบนอน Flat- 12 สูบได้งดงาม ด้วยฐานล้อ 2700 mm. กว้าง 1996 mm. และความสูง 1136 mm. เป็น 4 ล้อที่กล้าหาญที่ดูสง่างามยิ่งขึ้นเมื่อเปิดประตูปีกนกนางนวลทั้งสองดุจเปิดออก..ชุดชั้นใน !?!..HA Ha ha a a a )))
1990..ผลิตจริง ง ง ง
Caspita ได้รับความยกย่องอย่างแท้จริง ..ด้วยอนาคตที่สดใสที่รออยู่ข้างหน้า สำหรับทีมออกแบบ Jiotto Design พร้อม 3-4-5 พันธมิตรใหม่ เพียงรอคอยสัญญาเพื่อแผนการผลิต
เริ่มต้นทีมงานได้เสนอป้ายราคาโดยประมาณ ¥ 100.000.000 หรือ $USD 700,000 ( ราว Bht 22,000,000 บาท) (*ปัจจุบัน = $ USD 1,300,000 ปัจจุบัน ( ราว Bht 40 ล้านบาท ณ ปัจจุบัน ) ซึ่งยังเป็นที่ทราบกันอย่างชัดเจนว่าการขาย Caspita จะไม่สามารถทำกำไรได้มาก
นอกจากนั้นทีมงานยังตั้งใจที่จะได้รับการรับรองจากยุโรป และมอบความไว้วางใจในการผลิต Caspita โดยผู้ผลิตรถแข่งในยุโรปที่มีความสามารถสูง ซึ่งมีมุมมองที่จะขายรถไปทั่วโลก เพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว Jiotto Design ได้วางแผนที่จะผลิตต้นแบบ Caspita ในฤดูใบไม้ผลิปี 1990 แต่โครงการยังไม่อาจเกิด
อย่างไรก็ตาม Jiotto Design มีความตั้งใจที่จะส่งเสริมการขาย โดยให้นำ Giotto Caspitaของพวกเขาลงวิ่งจริง @ 24hrs Le Mans ในปี 1992 หรือ 1993 แต่สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้น น น น
1992-1993 CASPITA Switch-Off..เอวังฯ
เข็มเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว Subaru ในฐานะเจ้าของขุมพลัง Subari -MM Boxer F1-Flat 12 ไม่ค่อยพอใจกับผลลัพธ์จากความล่าช้าที่ควรได้ ดังนั้นพวกเขาจึง Switch-Off ดึงปลั๊กในโครงการ Jiotto Design ถูกทิ้งไว้โดยไม่มีซัพพลายเออร์เครื่องยนต์จริง นี่หมายถึงความสิ้นหวังที่ยาวนาน
ปัจจุบัน ภาพยิ่งใหญ่แห่ง Supercars Tsunami ยังมีตัวเป็นๆ #1988 Concept I ให้ญี่ปุ่นและโลก “Super-Hyperformance”.. ให้สาธารชนได้ชื่นชมระลึกถึง @ Fukui Car Museum ..ในขณะที่ตัว Concept II ต้นแบบที่สองอยู่ในความครอบครองของ บริษัท Dome สำหรับคันที่ 2 ของ Caspita Dome Team – ทีมญี่ปุ่นเลือกเครื่องยนต์แข่ง Judd – V10 โดย บริษัท English Developments Ltd. เมื่อเปรียบเทียบกับ Subaru-MM ..Judd สามารถให้ 585 bhp @ 10,750 rpm + แรงบิดสูงสุด 385 Nm @ 10,500 rpm
อย่างไรก็ตาม Jiotto Design ไม่เคยอ้างสิทธิ์หรือยืนยันตัวเลขโครงการ และข้อบาดหมางจากโครงการที่อาจกลายเป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงของตะวันออกไกลอย่างแท้จริง จากความฝันอันสูงสุดของ สองบูชิโด..ผู้ชายที่โดดเด่นอย่างแท้จริง ซึ่งปัจจุบัน ประวิติศาสตร์ยานยนต์ยุ่น น น ..ยังไม่เคยปรากฏว่า Japan Supercars คันใดแบรนด์ใด..จะก้าวไปไกลกว่ารถต้นแบบ Jiotto Caspia I-II ทั้งสองรุ่นนี้ ที่สรรค์สร้างโดยทีมงาน Dome + Wagoal -WASCAP (WAcoal Sports CAr Project) .. ผู้มีความกระตือรือร้นที่ทุ่มเทความพยายามความคิดความเชื่อและการทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่น เป็นที่ประจักษ์ในแผนที่โลกของซูเปอร์คาร์ ด้วย Jiotto Caspita ที่ไม่เคยถูกลืมเลือน น น )))
(Sorce : © www.allcarindex.com ) Photographs : Kindly provided by Mr Kunihisa Ito and Mr Hiroshi Fushida, Dome Co. Ltd.
1989 Jiotto Caspita (I-II) Specs
Manufacturer – DOME Co. Ltd.
Model years – 1989–1990
Designer – Jiotto Design Studio by Minoru Hayashi
Class – Sports car (Super)
Doors – Gullwing
Engine – 3.5 L Subaru – MM / Motori Moderni 1235 F12 (I)
3.5 L Judd GV 72-degree V10 ( II)
Gear – M/T 6-Speed Wiesmann-USA
Wheelbase – 2,700 mm
LxWxH – 4,534 – 4,595 x 1,996 x 1,135 mm
Weight – 1988 : 1,100kg – 1989 1,240 kg