มีการปรับให้ Honda Accord Generation ที่ 10 มีความก้าวหน้าขึ้นชั้นความทันสมัยที่ไม่ต่างไปจากพวกรถยุโรปหรูราคาแพง แต่นี่เป็นรถยนต์เอเชียที่สามารถจับต้องได้ในราคาที่ไม่ไกลเกินเอื้อม โดยรุ่นที่ได้ลองขับในครั้งนี้เป็นรุ่น E:HEV ELพลัสราคาจะอยู่ที่ 1,639,000 บาท
ส่วนรุ่นที่มีราคาสูงกว่ารุ่น E:HEV Plus ก็คือรุ่น E:HEV TECH ที่จะมีระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้าซึ่งจะทำให้ผู้ขับขี่ได้เห็นตัวเลขแสดงอยู่ทางด้านหน้าโดยไม่ต้องละสายตาไปมองที่มาตรวัดช่วยให้มีสมาธิในการขับขี่มากขึ้น
สิ่งที่ต่างออกไปอีกก็จะมีหลังคาซันรูฟที่ใช้การเปิดปิดด้วยระบบวันทัช มีระบบช่วยจอดอัจฉริยะพร้อมระบบช่วยเบรก มีเซ็นเซอร์กะระยะหน้าสี่จุดและหลัง 4 จุด รวมไปถึงสปอยเลอร์หลัง โดยต้องควักเงินเพิ่มมากกว่ารุ่น E:HEV พลัสอยู่ที่ 106, 000 บาทแลกกับสิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นมา
หลักๆของรถรุ่นนี้คือการเปลี่ยนชื่อรุ่น Hybrid เป็น E:HEV ที่มีเอกลักษณ์ตรงโลโก้มีการตกแต่งกรอบสีฟ้าพร้อมสัญลักษณ์ E:HEV และที่เพิ่มขึ้นมาก็คืออากาศในห้องโดยสารจะบริสุทธิ์ขึ้นด้วยเครื่องฟอกอากาศพลาสม่า คลัสเตอร์ เหมาะกับยุคที่เชื้อโควิคแพร่หลายในยุคนี้
ที่บ่งบอกถึงการเป็นรถไฮบริดยุคใหม่ของค่ายฮอนด้าก็คือความนุ่มนวลในการตอบสนองของขุมพลังขับเคลื่อน โดยหลักๆแล้วจะเน้นการขับเคลื่อนจากมอเตอร์ไฟฟ้ามากกว่า ซึ่งใน Accord Hybrid จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ตัวแรกจะทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า อีกตัวนึงก็จะทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อที่ให้กำลังสูงสุดถึง 184 แรงม้า
เมื่อต้องการกำลังเพิ่มเครื่องยนต์จะเข้ามาช่วยเป็นเครื่องยนต์ขนาด 1993 ซีซี 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC i-VTEC ที่ให้กำลังสูงสุด 145 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 175 นิวตันเมตรที่ 3,500 รอบต่อนาที โดยขุมพลังที่มีมาให้จะให้กำลังรวมสูงสุดถึง 215 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 315 นิวตันเมตร
ระบบส่งกำลังจะถูกเชื่อมต่อกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า E- CVT โดยมีแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออนที่สามารถเก็บประจุไฟฟ้าและช่วยให้การชาร์จไฟมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยขนาดกะทัดรัดน้ำหนักเบาจึงทำให้ไม่เกะกะพื้นที่และไม่ต้องทำให้รถต้องแบกน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาก
ในการขับขี่จะมี 3 โหมดให้ใช้งานโดยโหมดหลักที่ทำงานหลังจากสตาร์ทรถก็คือโหมด Hybrid ที่ประสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่เพื่อประสานการขับเคลื่อนทำให้เกิดแรงบิดสูงสุดอย่างรวดเร็ว มีอัตราเร่งที่ตอบสนองทันใจให้ความรู้สึกของอัตราเร่งที่ไต่ขึ้นแบบนุ่มนวลไม่กระชากแต่ความเร็วจะพุ่งไปอย่างต่อเนื่อง เมื่อยกเท้าออกจากคันเร่งเครื่องยนต์จะหยุดทำงานมีการชาร์จไฟกลับอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับการขับขี่ที่ต้องเรียกพลังเร่งความเร็วจะให้อัตราเร่งที่นุ่มนวลแต่ทรงพลัง
ถ้าแบตเตอรี่มีกำลังไฟมากพอก็สามารถใช้โหมดการขับขี่ด้วยไฟฟ้าได้ ระบบนี้จะใช้การขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว เมื่อยกเท้าออกจากคันเร่งระบบก็จะทำการชาร์จไฟกลับไปเก็บไว้ที่แบตเตอรี่ เป็นระบบที่ให้สมรรถนะในการขับขี่ดีเยี่ยมให้ความเงียบในการขับเคลื่อนแบบเดียวกับรถไฟฟ้าล้วนจึงเหมาะกับการขับขี่ในเมือง โดยสามารถเลือกบทนี้ได้จากปุ่มกดตรงคอนโซลกลางเกียร์
ในการเดินทางไกลที่ใช้ความเร็วสูงแบบคงที่ก็จะมีโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ที่ใช้พลังการขับเคลื่อนจากเครื่องยนต์ล้วนๆโดยมีชุดล็อคคลัชที่อยู่ตรงเกียร์ E-CVTทำการเชื่อมต่อกำลังของเครื่องยนต์ไปยังล้อโดยตรง ช่วยให้มีประสิทธิภาพสูงแรงเสียดทานต่ำ เป็นระบบที่ลดข้อด้อยของเครื่องยนต์ไฮบริดที่กินน้ำมันเยอะตอนใช้ความเร็วสูงๆได้เป็นอย่างดี
ในการขับเคลื่อนยังมีโหมดย่อยอย่างอีคอนโหมดให้เลือกใช้เพื่อปรับการทำงานของเครื่องยนต์และเกียร์ให้ทำงานสัมพันธ์กันรวมไปถึงการปรับทำงานของระบบปรับอากาศและการหมุนเวียนของอากาศในห้องโดยสารให้เหมาะสมเพื่อให้พลังงานที่คุ้มค่า แต่ถ้าอยากได้ความแรงก็สามารถที่จะกดปุ่ม Sport Mode ทำให้เข้าสู่ความเร้าใจในการขับขี่แบบสปอร์ตได้
Accord รุ่นนี้จะได้แผงคอนโซลที่หุ้มด้วยวัสดุบุนุ่มพร้อมเสริมด้วยลายไม้ที่เข้ากันได้ดี ตรงจอกลางมีขนาด 8 นิ้วแบบลอยตัวทำให้โดดเด่นขึ้นมาพร้อมเพิ่มปุ่มปรับแบบหมุนเพื่อให้การใช้งานทำได้ง่าย ส่วนจอแสดงผลจะเป็นTFT ขนาด 7 นิ้วโดยมีมาตรวัดความเร็วมาให้ อีกวงนึงก็จะเป็นการแสดงผลของกลุ่มพลังในการขับขี่พร้อมข้อมูลที่แสดงเอาไว้ตรงจอ
พวงมาลัยหุ้มหนังจับได้ถนัดมือมีส่วนเว้ารับกับนิ้วหัวแม่มืออัดแน่นไปด้วยปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย การบังคับควบคุมทำได้แม่นยำดีไม่หนักหรือเบามือจนเกินไปในการบังคับเลี้ยว สิ่งที่เจอตลอดการขับขี่ก็คือเสียงเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลนแต่ก็จะมีระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถมาช่วยด้วยอาการสั่นที่พวงมาลัย เมื่อล้อชนกับเส้นแบ่งช่องจราจรรถก็จะมีการเบี่ยงกลับมาในช่องเดินรถอย่างนุ่มนวล แต่ถ้าองศาของรถเบี่ยงเบนมากเกินไปตัวรถก็จะออกจากช่องทางเดินรถไปได้
ในรถรุ่นนี้จะได้เบาะนั่งหุ้มหนังพร้อมเจาะช่องเป็นรูเล็กๆเพื่อระบายความร้อน ในฝั่งคนขับจะใช้การปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทางพร้อมระบบความจำ 2 ตำแหน่ง ส่วนเบาะผู้โดยสารตอนหน้าก็จะใช้การปรับด้วยไฟฟ้า 4 ตำแหน่ง
เบาะนั่งตอนหลังสามารถพับได้โดยมีช่องเชื่อมต่อไปยังห้องเก็บของโดยมีกุญแจล็อคเอาไว้เพื่อความปลอดภัย หลังจากดึงพนักวางแขนที่อยู่ตรงกลางลงมาก็จะได้ที่วางแก้วน้ำเพิ่มอีก 2 ใบ
แม้ว่าจะเป็นรถยนต์ไฮบริดที่ต้องมีแบตเตอรี่เพิ่มเข้ามาแต่ Honda ก็ออกแบบการจัดวางได้ดีทำให้ห้องเก็บของตอนท้ายสามารถจุได้ถึง 573 ลิตร แต่จะไม่มียางอะไหล่มาให้โดยจะมีปั๊มลมมาให้แทนก็ไม่ถือว่าขี้เหร่นักเพราะการใช้งานของรถในเมืองเป็นหลักโอกาสที่จะเกิดยางแตกยางแบนมีน้อยอยู่แล้วการติดตั้งปั๊มลมมาให้ก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว