ต้องยอมรับว่าตลาดรถ SUV ในช่วงปลายปีนี้กระเทือนแน่นอนเมื่อค่ายเกรทวอลล์มอเตอร์ได้เปิดตัว HAVAL JOLION ออกมา หลังจาก HAVAL H6 ได้ถูกนำเข้ามาทำตลาดในเมืองไทยก่อนหน้านี้ หากมองเผินๆก็จะคิดว่าแค่รถเอสยูวีคันเล็กแต่พอได้สัมผัสตัวเป็นๆกันก็ได้เจอสิ่งที่ค่ายเกรทวอลล์มอเตอร์ได้ใส่มาให้นั้นแบบจัดเต็มจริงๆ
หากเปรียบเทียบกับ H6 เป็น CR-V ตัว JOLION ก็คงจะเป็น HR-V ดังนั้นราคาที่น่าจะเป็นไปได้ในการเผยตัวเลขวันที่ 25 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ก็น่าจะอยู่ที่ 1 ล้านบวกลบ ซึ่งเป็นคู่ชกของHR-V ที่เปิดตัวกันมาก่อนหน้านี้ในรูปแบบของตัวรถที่ดูใกล้เคียงกัน
แม้ว่าที่ประเทศจีนได้มีการเปิดตัวกันมาก่อนหน้านี้ในรูปแบบของตัวรถที่ดูคล้ายๆกันในวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา แต่รุ่นที่ประกอบในเมืองไทยจะมีกระจังหน้าที่แตกต่างกัน สำหรับไฟหน้าจะเป็นเลข 7 ใช้ไฟหน้า LED ส่วนไฟเลี้ยวจะเป็นขีดแนวนอนอยู่ตรงมุมกันชน รถรุ่นนี้จะได้ไฟหน้าเปิดปิดอัตโนมัติ ไฟส่องนำทางจะทำงานหลังดับเครื่องยนต์ส่วนไฟเดไทม์จะเป็นเส้นอยู่ตรงด้านนอกเป็นรูปตัวแอลซึ่งทางเกรทวอลล์มองว่าน่าจะเหมาะกับตลาดเมืองไทยมากกว่า
JOLION จะเจาะกลุ่มที่มีอายุน้อยลงในตลาด B segment ซึ่งคนใช้จะเป็นคนรุ่นใหม่ไม่ยึดติดกับแบรนด์แต่จะเน้นเรื่องการใช้งานและพวกออฟชั่นมากกว่า โดยได้ทีมออกแบบจากเรนจ์โรเวอร์และแลนด์โรเวอร์ที่มีประสบการณ์ในการออกแบบมากกว่า 29 ปีเป็นคนออกแบบ จึงทำให้ชาว H6 และ JOLION ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว
ไฟท้าย LED อยู่ในแถบไฟท้ายแบบ LED Tail Light พร้อมไฟตัดหมอกและไฟเบรคดวงที่ 3 ตรงใต้ท้องรถจะออกแบบคล้ายๆกับแผ่นปิดใต้ท้องของรถ SUV ทำให้ได้ใจในสไตล์รถลุย
ตัวรถยาว 4,472 มม. มีฐานล้อ 2,702 มม. กว้าง 1,841 มม. สูง 1619 มม. จะได้หลังคาซันรูฟพร้อมม่านหลังคาที่เปิดปิดด้วยไฟฟ้า เสาอากาศเป็นแบบครีบฉลาม มีราวหลังคามาให้ กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวใช้การปรับพับด้วยไฟฟ้าโดยจะพับอัตโนมัติเมื่อมีการล็อครถ
เบาะนั่งมาในแบบสีทูโทนถูกออกแบบมาให้ดูล้ำสมัยหน่อยบางคนอาจจะไม่คุ้นตา ซึ่งเบาะสีขาวแบบนี้อาจจะเปลี่ยนได้ง่ายกว่าเบาะสีเข้ม งานตัดเย็บเบาะนั่งอยู่ในเกณฑ์ดี
แผงหน้าปัดจะมี 2 ชั้นด้านล่างจะเป็นไวนิล ส่วนด้านบนจะเป็นวัสดุนุ่มมือ มีจอกลางขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว เมื่อเชื่อมต่อกับกล้องมองภาพรอบคันก็จะได้ความคมชัดในระดับเดียวกับรถยุโรปพร้อมลำโพง 6ตัว ที่ปรับระดับเสียงอัตโนมัติ โดยจอกลางจะใช้ควบคุมอุปกรณ์ต่างๆด้วย ส่วนจอแสดงผลที่อยู่หลังพวงมาลัยจะมีขนาด 7 นิ้ว ในรถรุ่นนี้ยังมีที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายติดมาให้ด้วย
สำหรับเบาะหลังก็จะมีการเจาะช่องระบายความร้อนช่วงขาและแผ่นหลังมาให้รองรับผู้โดยสาร 3 คน มีที่วางแขนพับเก็บซ่อนเอาไว้ สามารถพับพนักพิงลงมาเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้
พื้นที่เก็บของด้านหลังจุ 279 ลิตร เมื่อต้องการเพิ่มพื้นที่ให้มากขึ้นก็สามารถที่จะพับพนักพิงเบาะหลังลงไปข้างหน้าก็จะได้ความจุเพิ่มเป็น 1,069 ลิตร แต่พื้นเบาะที่ต่อกันยังต่อกันยังไม่เรียบสนิทเท่าไหร่นัก
ของที่ให้มาเกือบเท่ากับตัว H6 แต่ที่น่าสนใจที่สุดก็คือระบบช่วยถอยจอดทั้งในแบบเข้าซองและจอดขนาน ใช้เพียงแค่กดปุ่มเลือกหลังจากนั้นรถก็จะทำงานด้วยตัวเองโดยไม่ต้องไปจับพวงมาลัยคันเร่งหรือเบรค ซึ่งช่องจอดที่มีช่องว่างเหลือไม่มากก็ยังสามารถเข้าไปจอดได้และยังออกจากช่องจอดได้อีกต่างหาก ซึ่งเหมาะมากสำหรับคนที่กลัวเรื่องการเข้าที่จอดรถเป็นแถวต่อกัน
โครงสร้างพื้นฐานของตัวรถจะเป็นเลมอนแพลตฟอร์มซึ่งสามารถยืดขยายให้รองรับกับตัวถังขนาดต่างๆได้ตั้งแต่ A-D segment และสามารถรองรับได้หลายเครื่องยนต์ทำให้สามารถที่จะลดต้นทุนในส่วนนี้ไปได้
JOLION จะได้เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตรมาใช้งานโดยจะเน้นกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้ามากกว่า โดยกำลังที่ได้จากเครื่องยนต์อยู่ที่ 95 แรงม้าแต่จากมอเตอร์ได้มากถึง 156 แรงม้า ซึ่งจะมีกำลังสูงสุดรวมอยู่ที่ 190 แรงม้า ส่วนแรงบิดเครื่องยนต์จะให้มา 125 นิวตันเมตรส่วนมอเตอร์ไฟฟ้าจะให้มา 250 นิวตันเมตร แรงบิดสูงสุดรวมจะอยู่ที่ 375 นิวตันเมตรโดยแบตเตอรี่จะเป็นแบบชาร์จไฟฟ้าได้เร็วทำให้การออกตัวหรือการใช้งานที่เน้นมอเตอร์เป็นหลักจะทำได้ดี ส่วนตีนปลายจะทำได้ 155 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ในรถรุ่นนี้จะใช้เกียร์ไฟฟ้าใช้การบิดหมุนเพื่อนเลือกเกียร์และใช้การกดปุ่มเมื่อต้องการจอด มีโหมดให้เลือกทั้งแบบมาตรฐาน Sport ประหยัดและสลิปเปอรี่ สามารถตั้งค่าโหมดการขับขี่ได้ตามต้องการแต่จะต้องดูแบตเตอรี่ที่เหลือด้วย เวลายกคันเร่งจะรู้สึกถึงอาการหน่วงบ้างแต่ไม่มากเท่ากับพวกรถ EV อัตราบริโภคทำได้ดีการเดินทางไกลทำได้เกิน 17 กิโลเมตรต่อลิตรในการใช้งานทั่วๆไป