Harley-Davidson สร้างปรากฎการณ์ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ด้วยการเผยโฉมไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ล่าสุดสำหรับปี 2025 โดยมี มาร์ค โอ ฟลาเฮอร์ตี้ กรรมการผู้จัดการ Harley-Davidson สำหรับตลาดเกิดใหม่ในเอเชียและอินเดีย พร้อมด้วยเหล่าสมาชิก Harley-Davidson Freedom Crew ที่เพิ่งได้รับการเปิดตัวในงานนี้เข้าร่วม โดยไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่สุดทรงพลัง ประกอบด้วย รถมอเตอร์ไซค์รุ่น CVO™ Road Glide® ST, CVO™ Road Glide®, CVO™ Street Glide®, Street Glide® Ultra, Sportster® S และ Nightster® Special พร้อมกันนี้ ภายในบูธยังได้นำรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Pan America® 1250 ST มาจัดแสดงให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิด นอกจากไลน์อัพใหม่ปี 2025 แล้ว Harley-Davidson ยังได้นำรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Collector’s Edition ประกอบด้วย รถมอเตอร์ไซค์ Softail® Standard รุ่นปี 2024, Sport Glide รุ่นปี 2024 และ Fat Bob™ รุ่นปี 2024 มาจัดแสดงที่บูธอีกด้วย พร้อมเพิ่มความตื่นตาด้วยการจัดแสดงรถมอเตอร์ไซค์ Low Rider® ST รุ่นปี 2024 เจ้าของรางวัล Thailand Bike of the Year 2025 ในหมวด Best Cruiser Heavyweight พร้อมกันนี้ ภายในบูธยังได้นำคอลเลกชันเครื่องแต่งกาย สินค้าไลฟ์สไตล์ อุปกรณ์ขับขี่ อะไหล่ และอุปกรณ์เสริมมาให้เหล่าแฟน ๆ ได้เลือกซื้อกัน ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถพบกับไลน์อัพรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson รุ่นปี 2025 ภายใต้นิยาม ‘Our Road. Our Rules. Let’s Ride.’ ที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณอิสระและนวัตกรรมได้แล้ว ณ บูธ M5อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายน 2568
นับเป็นปีที่ 26 ของการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson® CVO™ ซึ่งเป็นรถมอเตอร์ไซค์ระดับซูเปอร์พรีเมียมที่ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 3 รุ่น และถือเป็นสุดยอดแห่งสไตล์และดีไซน์ของ Harley-Davidson ซึ่งทุกรุ่นล้วนสะท้อนถึงพลังและความโดดเด่นอย่างมีเอกลักษณ์ โดยไลน์อัพปี 2025 มาพร้อมกับตัวเลือกสีและการตกแต่งใหม่ ได้แก่ สี Poison Berry, สี Raven Fade และ สี Blue Streak ที่ช่วยยกระดับความหรูหราและเพิ่มความพิเศษไปอีกขั้น รถมอเตอร์ไซค์รุ่น CVO Street Glide และ CVO Road Glide มาพร้อมกับการยกระดับดีไซน์ เทคโนโลยี และสมรรถนะ ทั้งนี้รถมอเตอร์ไซค์รุ่น CVO Street Glide และ CVO Road Glide ต่างถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์แบกเกอร์ที่คาดหวังมาตรฐานสูงสุด ทั้งในด้านดีไซน์ เทคโนโลยี และสมรรถนะ โดยรถมอเตอร์ไซค์รุ่น CVO Street Glide มีราคาเริ่มต้นที่ 3,191,000 บาท และรถมอเตอร์ไซค์ CVO Road Glide มีราคาเริ่มต้นที่ 3,246,000 บาท
รถมอเตอร์ไซค์รุ่น CVO Road Glide ST ได้แรงบันดาลใจมาจากรถแข่ง Screamin’ Eagle® Factory Team Road Glide® ซึ่งใช้แข่งขันในรายการ MotoAmerica® Mission Foods King of the Baggers ด้วยการผสานเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight® 121 H.O. เข้ากับชุดอุปกรณ์สมรรถนะสูง พร้อมดีไซน์ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ทำให้ได้รถมอเตอร์ไซค์แบ็กเกอร์ที่ทั้งเร็ว แรง และมีระดับ โดยรถมอเตอร์ไซค์ CVO Road Glide ST เป็นรถมอเตอร์ไซค์สไตล์แบ็กเกอร์ที่ทรงพลังและล้ำสมัยที่สุดเท่าที่ Harley-Davidson เคยผลิตมา ด้วยความโดดเด่นของชุดอุปกรณ์สมรรถนะสูงที่ออกแบบมาเพื่อเหล่านักขับขี่ที่ต้องการความเร้าใจโดยเฉพาะ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 121 H.O. และอัตราทดเกียร์ที่ต่ำ ช่วยเพิ่มแรงบิดช่วงกลางที่ดุดัน พร้อมอัตราเร่งที่ทรงพลังแบบกระชากใจ โดย CVO Road Glide ST มีราคาเริ่มต้นที่ 3,193,000 บาท
รถมอเตอร์ไซค์ Street Glide Ultra รุ่นใหม่ พร้อมยกระดับประสบการณ์การขับขี่ทางไกลไปอีกขั้น ด้วยความสะดวกสบาย เทคโนโลยี ผสานกับสมรรถนะและดีไซน์จากรถมอเตอร์ไซค์ Street Glide รุ่นปี 2024 โดยมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การเดินทางระยะไกลแบบสองที่นั่ง สำหรับนักขับขี่ที่แสวงหาอิสระและการผจญภัย นี่คือรถมอเตอร์ไซค์ Grand American Touring ที่มีสมรรถนะมากที่สุดรุ่นหนึ่งของ Harley-Davidson โดยรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Street Glide Ultra รุ่นปี 2025 มีราคาเริ่มต้นที่ 1,715,000 บาท
ก้าวข้ามจากข้อจำกัดเดิมด้วยรถมอเตอร์สปอร์ตใหม่รุ่นปี 2025 และรุ่น Collector’s Editionรถมอเตอร์ไซค์ Sportster S รุ่นใหม่ ถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ ยิ่งขึ้น ด้วยแรงบิดที่ตอบสนองอย่างรวดเร็วช่วยให้การเร่งทะยานเต็มไปด้วยพลัง มาพร้อมกับระบบกันสะเทือนหน้าและหลังที่ได้รับการพัฒนา พร้อมเพิ่มระยะยุบตัวของโช้คอัพล้อหลังขึ้น 60% โดยไม่กระทบต่อความสูงของเบาะ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในขณะขับขี่บนสภาพถนนที่มีความหลากหลาย ทั้งนี้ ระบบกันสะเทือนหน้าและหลังสามารถปรับได้เต็มรูปแบบ ทั้งแรงกดอัด (compression) และแรงดีดตัว (rebound damping) รวมถึงการตั้งค่าพรีโหลด โดย Sportster S รุ่นปี 2025 มีราคาเริ่มต้นที่ 638,000 บาท
นอกจากนี้ ยังมีรถมอเตอร์ไซค์ Nightster Special รุ่นใหม่ ที่ผสานดีไซน์สปอร์ตสเตอร์สุดคลาสสิกเข้ากับสมรรถนะเครื่องยนต์รอบสูงอันทรบพลังพร้อมระบายความร้อนด้วยของเหลว มาพร้อมกับเทคโนโลยีสุดล้ำสมัยที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เดินทางไปบนท้องถนนได้อย่างมั่นใจ รถมอเตอร์ไซค์ Nightster โดดเด่นด้วยจุดศูนย์ถ่วงต่ำ เทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อผู้ขับขี่ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Revolution® Max 975T V-twin ระบายความร้อนด้วยของเหลว เสริมสมรรถนะด้วย ล้อแบบ cast wheel และไฟ LED ที่ช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพและสไตล์ โดดเด่นด้วยถังน้ำมันสีดำด้านสไตล์วินเทจซึ่งช่วยเสริมความดุดันให้กับโลโก้ และรูปลักษณ์ Sportster ที่สะท้อนกลิ่นอายความคลาสสิก โดยรถมอเตอร์ไซค์ Nightster รุ่นปี 2025 มีราคาเริ่มต้นที่ 527,000 บาท
นอกจากนี้ ภายในบูธ Harley-Davidson ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 ยังจัดแสดงคอลเลกชันเสื้อผ้ารุ่นลิมิเต็ด Dickies x Harley-Davidson โดยคอลเลกชันนี้โดดเด่นด้วยลวดลายกราฟิกสไตล์อเมริกันและดีไซน์ชุดสไตล์เวิร์กแวร์คลาสสิก ผสานคุณภาพระดับตำนานเข้ากับความดุดันที่ได้แรงบันดาลใจจากจิตวิญญาณแห่งความเป็นอิสระ โดยชุดคอลเลกชันนี้จะวางจำหน่ายในร้านค้าทั่วภูมิภาคเอเชียตั้งแต่วันที่ 9 เมษายนเป็นต้นไป พบกับข้อเสนอสุดพิเศษมากมาย! ที่บูธ Harley-Davidson ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ปีนี้ เมื่อซื้อรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Low Rider ST รุ่นปี 2024, Street Glide หรือ Road Glide ภายในงาน รับฟรีชุดระบบเสียง Rockford Fosgate ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ #HDSoundofFreedom สำหรับผู้ที่สนใจเป็นเจ้าของรถมอเตอร์ไซค์ Cruiser Model รุ่นปี 2024 ได้แก่ Street Bob, Breakout 117, Fat Boy และ Heritage Classic รับฟรีอุปกรณ์เสริมมูลค่า 140,000 บาท