ที่งาน GAC Tech Day 2020 เมื่อไม่นานมานี้ GAC Group ได้เปิดเผยความสำเร็จด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีล่าสุด ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีแพลตฟอร์มใหญ่ 2 รายการ และเทคโนโลยีแห่งอนาคต 3 รายการ โดยสิ่งที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมปัจจุบันของ GAC Group คือ Global Platform Modular Architecture (GPMA) ที่รวมพลังงานเชื้อเพลิงแบบดั้งเดิมรวมถึง GAC Electric Platform (GEP) 2.0 และบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ GAC Group ประกาศเทคโนโลยีล่าสุด 3 รายการ ได้แก่ ระบบนิเวศการเชื่อมต่อการขับขี่อัจฉริยะ ADiGO 3.0, รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานเชื้อเพลิงไฮโดรเจนอย่าง Aion LX Fuel Cell และเทคโนโลยีการเตรียมกราฟีน 3DG ซึ่งเทคโนโลยีชั้นนำเหล่านี้จะช่วยให้ GAC Group ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นในอนาคตอันใกล้
ในงานดังกล่าว GAC ได้เปิดตัว Aion LX Fuel Cell ซึ่งเป็นรถยนต์โดยสารที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิงไฮโดรเจนคันแรก ดึงดูดความสนใจจากคนในวงการและสื่อมวลชนได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากประโยชน์หลัก ๆ เช่น เวลาชาร์จแบตที่รวดเร็ว อายุแบตเตอรีที่ยาวนาน และไม่ปล่อยมลพิษ โดยบรรดาผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมได้ยกย่องการเปิดตัวรถยนต์พลังงานเชื้อเพลิงไฮโดรเจนนี้ ว่าจะเป็นโซลูชันที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เป็นที่นิยมสำหรับรถยนต์ที่ไม่ปลดปล่อยคาร์บอน
GAC Group บรรลุข้อได้เปรียบจากความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในเทคโนโลยีเชื้อเพลิงไฮโดรเจนผ่านการเปิดตัว Aion LX Fuel Cell รถยนต์พลังงานเชื้อเพลิงไฮโดรเจนรุ่นนี้พัฒนาบนแพลตฟอร์ม GEP 2.0 มาพร้อมระบบเซลล์พลังงานไฮโดรเจนที่พัฒนาอย่างอิสระโดย GAC Group เช่นกัน
รถยนต์พลังงานเชื้อเพลิงไฮโดรเจนของ GAC แสดงให้เห็นว่าสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของรถยนต์พลังงานทดแทนในปัจจุบันได้ อย่างแรก รถใช้เวลาชาร์จแบตเตอรีเพียง 3-5 นาทีต่อครั้ง ซึ่งน้อยกว่าเวลาชาร์จของรถยนต์ไฟฟ้าทั่วไป อย่างที่สอง ขอบเขตการทำงาน NEDC ของรถมากกว่า 650 กิโลเมตร ซึ่งเป็นมาตรฐานสากล อย่างที่สาม รถยังสามารถแก้ปัญหาการสตาร์ทและการทำงานในอุณหภูมิต่ำที่ -30?C โดยสามารสตาร์ทรถในสภาพอากาศเย็นได้ด้วยการกดปุ่มเดียวโดยไม่มีแหล่งพลังงานความร้อนภายนอกและไม่ส่งผลต่อระยะการขับขี่ และที่สำคัญที่สุด สิ่งที่รถปลดปล่อยออกมามีเพียงน้ำบริสุทธิ์เท่านั้น และตัวกรองสามารถกรองอนุภาคที่อาจสูดเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจได้มากถึง 99% เท่ากับว่ารถรุ่นนี้ไม่เพียงแต่ลดมลพิษ แต่ยังทำให้อากาศโดยรอบบริสุทธิ์ด้วย
Aion LX Fuel Cell ยังอัปเกรดอย่างครอบคลุมเพื่อมอบความปลอดภัยที่เหนือกว่าความคาดหวัง นอกจากระบบนิรภัยระดับห้าดาวของรุ่น Aion LX เดิมแล้ว ยังผ่านการทดสอบความปลอดภัยที่ยาก เช่น การชนจากด้านข้างด้วยความเร็ว 32 กิโลเมตร/ชั่วโมง และการชนจากด้านหลังด้วยความเร็ว 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง