บริษัท GAC Group ได้ประกาศโครงการความร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Huawei เพื่อพัฒนา “รถเอสยูวีอัจฉริยะ” โดยมีเป้าหมายในการผลิตในปริมาณมากให้ได้ภายในสิ้นปี 2566 รถเอสยูวีดังกล่าวจะเป็นผลิตภัณฑ์แรกที่ทั้งสองบริษัทร่วมกันผลิตขึ้น โดยเป็นรถเอสยูวีพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบขนาดกลาง-ใหญ่ ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพ พร้อมมอบศักยภาพด้านพลังงานใหม่อันน่าตื่นตาตื่นใจ และระบบขับขี่อัตโนมัติระดับ Level 4
GAC Group อ้าแขนรับและส่งเสริมการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีอันครอบคลุมในยานยนต์ของบริษัท ส่วน Huawei เป็นผู้นำระดับโลกในเทคโนโลยีหลากหลายประเภท ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายได้สร้างสรรค์ยานยนต์อัจฉริยะและแพลตฟอร์มดิจิทัลรุ่นใหม่ โดยรถเอสยูวีดังกล่าวและรถรุ่นอื่นในอนาคตจะใช้แพลตฟอร์มแชสซี GEP.30 ของ GAC และสถาปัตยกรรม CCA (Computing and Communication Architecture) ของ Huawei รวมถึงโซลูชันยานยนต์อัจฉริยะเต็มรูปแบบของ Huawei
นับตั้งแต่ลงนามข้อตกลงความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เมื่อปี 2560 GAC และ Huawei ก็ได้ทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์พลังงานไฟฟ้าอัจฉริยะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เมื่อเดือนกันยายน 2563 ที่กว่างโจว ทั้งสองบริษัทได้ลงนามข้อตกลงเพื่อยกระดับความร่วมมือ โดยมุ่งเน้นไปที่สถาปัตยกรรมการประมวลผลและการสื่อสาร ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการพัฒนายานยนต์ที่เน้นใช้ซอฟต์แวร์ ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ GAC ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการพัฒนายานยนต์พลังงานไฟฟ้าและในภาคส่วนต่าง ๆ เกี่ยวกับเทคโนโลยีพลังงานใหม่ นอกจากนี้ GAC Group ยังทุ่มเทให้กับการวิจัยและพัฒนา โดยลงทุนหลายพันล้านหยวนในศูนย์วิจัยและพัฒนาทั่วโลก
ตลาดยานยนต์พลังงานไฟฟ้าเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งทั่วโลก โดยมีข้อมูลที่คาดการณ์ว่าตลาดยานยนต์พลังงานไฟฟ้าทั่วโลกจะขยายตัวเกือบห้าเท่าในช่วงปี 2559-2570 และมีอัตราการเติบโตต่อปี 20% ทั้งนี้ GAC Group พร้อมรับเทรนด์ดังกล่าวด้วยการสร้างสรรค์ยานยนต์ที่สะอาดขึ้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และดีขึ้น โดย GAC MOTOR ตั้งเป้าผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดภายในปี 2568 การเติบโตอย่างรวดเร็วนี้สะท้อนให้เห็นว่าตลาดยานยนต์ต้องการรถยนต์อัจฉริยะและรถยนต์ที่สร้างสรรค์โดยจีน ด้วยเทคโนโลยีใหม่ กระบวนการใหม่ และวัสดุใหม่ รวมถึงการผลิตอัจฉริยะและการเพิ่มกำลังการผลิตอย่างครอบคลุม GAC และ Huawei ตั้งเป้าว่าจะผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้า 8 รุ่น และหลายซีรีส์ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่รูปแบบใหม่ในราคาที่ถูกลง