ท่ามกลางการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกนั้น Chery Automobile ได้แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและความสามารถในการแข่งขันของแบรนด์ในตลาดโลก ผ่านการเปิดตัวแบรนด์ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก พร้อมโชว์ยอดขายรถยนต์ที่มีสมรรถนะโดดเด่นในปี 2567 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ทะลุ 2,603,916 คัน เพิ่มขึ้น 38.4% โดยเดือนธันวาคม มียอดขายสูงถึง 298,505 คัน ส่งผลให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตและมีอัตราการเติบโตของแบรนด์อยู่ที่ 10 – 20% โดยรายได้ล่าสุดในปีที่ผ่านมากว่า 2,256 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 705,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 50% มียอดการส่งออกแตะ 1,144,588 คัน เพิ่มขึ้น 21.4% และยังครองตำแหน่งผู้ส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลอันดับหนึ่งของจีนเป็นเวลา 22 ปีติดต่อกัน มียอดขายรถพลังงานใหม่ (NEV) จำนวน 583,569 คัน เพิ่มขึ้น 232.7% ซึ่งในเดือนธันวาคมมียอดขายรถพลังงานใหม่ ทะลุ 100,000 คัน เพิ่มขึ้น 31.9% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ถือเป็นแบรนด์รถยนต์ที่เติบโตที่สุดในกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน และในปีที่ผ่านมา Chery Automobile ยังคว้าตำแหน่งแบรนด์ในประเทศที่มีอันดับสูงสุดอีกครั้งในรายงาน China Initial Quality Study (IQS) ประจำปี 2024 ของ J.D. Power ด้วยการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด Chery Automobile จึงสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง และกำหนดมาตรฐานใหม่สำหรับรถยนต์ “Made in China”
ในขณะที่ แบรนด์ OMODA & JAECOO ในปี 2567 ที่ได้เปิดตัวใน 33 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก แบรนด์รถยนต์ภายใต้ Chery Automobile ที่มียอดขายในเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้นกว่า 23,560 คัน คิดเป็น 72% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน นับเป็นแบรนด์ที่มียอดขายเกิน 20,000 คันต่อเดือน ติดต่อกันถึง 8 เดือน และมียอดขายต่อปีสูงถึง 248,605 คัน เพิ่มขึ้น 54% เมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากนี้ OMODA & JAECOO มีลูกค้าทั่วโลก จำนวน 410,136 คนทั่วโลก ในประเทศตุรกี มียอดขายในปีที่ผ่านมา 16,064 คัน เพิ่มขึ้น 23.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน ประเทศสเปนมียอดขาย 9,988 คัน ภายในเวลาเพียง 10 เดือนหลังจากเปิดตัว และสำหรับประเทศไทยได้มีการส่งมอบรถให้ลูกค้าตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4 ของปี 2567 ที่ผ่านมา
ความสำเร็จในการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานใหม่ ถือเป็นผลงานการพัฒนาที่โดดเด่นของ Chery Automobile นับตั้งแต่การเปิดตัวระบบส่งกำลัง Qpower แบรนด์ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถทางเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมในการพัฒนาเทคโนโลยี PHEV ในขณะเดียวกัน Chery Automobile ได้พัฒนาระบบ Infinite Electric Hybrid DHT ที่จะเพิ่มกำลังขับขี่และจัดการพลังงานอัจฉริยะให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่เหมาะสมในแต่ละสภาพการขับขี่ที่หลากหลาย ซึ่งทำให้ระบบส่งกำลังบรรลุเป้าหมายประสิทธิภาพการจัดการพลังงานสูงสุดถึง 98.5% นอกจากนี้ เครื่องยนต์ไฮบริดแบบพิเศษมีประสิทธิภาพเชิงความร้อนของเครื่องยนต์ (Thermal Efficiency) อยู่ที่ 44.5% และเมื่อจับคู่กับแบตเตอรี่ไฮบริดสมรรถนะสูงที่มีความหนาแน่นของพลังงาน 105Wh/kg. จะช่วยเพิ่มระยะทางการขับขี่และสมรรถนะของรถได้อย่างมาก ซึ่งถือว่าเป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีครั้งสำคัญ
ด้าน OMODA & JAECOO ในปีที่ผ่านมาได้เปิดตัวในยุโรปด้วยรถยนต์ OMODA C5 ซึ่งเป็นรุ่นรถสันดาปในสเปน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ตามมาด้วยการเปิดโรงงานแห่งแรกในยุโรปในบาร์เซโลนา ประเทศสเปน การเปิดตัวแบรนด์อย่างเป็นทางการในประเทศโปแลนด์ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา การเปิดตัว OMODA & JAECOO ในอิตาลี สหราชอาณาจักร และฮังการี และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย การเปิดฐานการผลิตรถยนต์ของแบรนด์ที่ทันสมัยในมาเลเซียและอินโดนีเซีย ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา OMODA C5 EV ที่ผลิตในอินโดนีเซียครั้งแรกได้ส่งออกไปยังเวียดนาม และในเดือนธันวาคม OMODA & JAECOO ได้จัดตั้งคลังสินค้าชิ้นส่วนยานยนต์และศูนย์โลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดสำหรับแบรนด์รถยนต์จีนในตะวันออกกลาง อย่างไรก็ตาม แบรนด์ยังมุ่งเดินหน้าขยายการบริการทั่วโลกและสร้างเครือข่ายการจัดจำหน่ายชิ้นส่วนให้ครอบคลุม 5 ภูมิภาคหลักทั่วโลก
นอกจากนี้ ในปี 2567 ที่ผ่านมา Chery Automobile ได้บรรลุข้อตกลงจัดตั้งโรงงานร่วมทุนแห่งแรกในยุโรป โดยเกิดจากความร่วมมือกับ EV MOTORS ของสเปน ช่วยให้แบรนด์ EBRO ในตำนานของสเปนกลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง ประกอบกับความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ในการผลิต TIGGO 2 กว่า 1 ล้านคัน แสดงถึงการยอมรับและความไว้วางใจทั่วโลกในรถยนต์รุ่นนี้ และในการประชุม Global User Ecosystem Conference เดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ได้เฉลิมฉลองการผลิตรถยนต์คันที่ 15 ล้าน จากโรงงาน 5 แห่งทั่วโลกและเมื่อมองไปข้างหน้าในปี 2568 OMODA & JAECOO ภายใต้ Chery Automobile จะเดินหน้าเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ และนำเสนอความก้าวหน้าของเทคโนโลยียนตรกรรมพลังงานใหม่ โดยแบรนด์ OMODA จะมุ่งมั่นสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ครอสโอเวอร์ที่ตอบสนองทุก ๆ ไลฟ์สไตล์การขับขี่ของทุกคนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ในขณะเดียวกัน แบรนด์ JAECOO มุ่งสานต่อวิสัยทัศน์การเป็นแบรนด์รถยนต์ออฟโรดอันดับหนึ่ง ที่จะสร้างประสบการณ์การขับขี่แบบที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วยเทคโนโลยีพลังงานใหม่และสมรรถนะการขับขี่ออฟโรดที่ยอดเยี่ยมต่อไป