ไทยฮอนด้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ฮอนด้าในประเทศไทย ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สานต่อกิจกรรม “สพฐ.–ไทยฮอนด้า วิ่ง 31 ขา สามัคคี” ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 20 เพื่อเฟ้นหาสุดยอดทีมเยาวชนที่สามารถรวมพลังแห่งความสามัคคีและฝึกฝนจนสามารถวิ่งเข้าเส้นชัยได้ด้วยความเร็วสูงสุด โดยรอบชิงแชมป์ประเทศไทยประจำปีการศึกษา 2567 จัดขึ้นในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 ณ สนามกีฬากองทัพอากาศ (ธูปะเตมีย์)
ดร.อารักษ์ พรประภา ประธานบริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวถึงการแข่งขันในครั้งนี้ว่า “กีฬาวิ่ง 31 ขา ไม่เพียงแต่ส่งเสริมเยาวชนให้มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงเท่านั้น แต่ยังปลูกฝังทักษะการทำงานเป็นทีม ความเสียสละ ความมุ่งมั่น และการมีน้ำใจนักกีฬา ซึ่งล้วนเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยให้เด็ก ๆ เติบโตขึ้นเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของประเทศ ไทยฮอนด้าภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ และขอแสดงความยินดีกับทุกทีมที่แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมในด้านพลังกาย พลังใจ และความสามัคคี การแข่งขันครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการไทยฮอนด้าเพื่อสังคมไทย ที่มีเป้าหมายในการพัฒนาเยาวชนผ่านกิจกรรมกีฬา โดยเสริมสร้างทั้งร่างกาย จิตใจ ความคิด และทักษะการทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการก้าวไปเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ทรงคุณค่าของประเทศ ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการจนถึงปัจจุบัน ไทยฮอนด้าได้จัดกิจกรรม สพฐ.–ไทยฮอนด้า วิ่ง 31 ขา สามัคคี ต่อเนื่องมาจนถึงปีที่ 20 มีเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันแล้วกว่า 490,000 คน และยังคงได้รับความสนใจจากโรงเรียนทั่วประเทศเพิ่มขึ้นทุกปี โดยรอบชิงแชมป์ประเทศไทยในวันนี้ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อันจะเป็นเกียรติประวัติและความภาคภูมิใจของเยาวชนสืบไป”
สำหรับการแข่งขันวิ่ง 31 ขา สามัคคี ในปีนี้ มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันกว่า 200 ทีม โดยคณะกรรมการได้คัดเลือกนักกีฬาเป็นรายจังหวัด ที่ทำเวลาดีที่สุดจำนวน 20 ทีม จาก 4 ภาค ทั่วประเทศ โดยกติกาการแข่งขันเบื้องต้น ดังนี้ แต่ละทีมต้องประกอบด้วยนักกีฬาตัวจริง 30 คน โดยมีหัวหน้าทีม 1 คน พร้อมนักกีฬาสำรอง 4 คน และครูผู้ฝึกซ้อม 1-3 คน นักกีฬาทั้ง 30 คนต้องผูกขาติดกันและร่วมกันวิ่งเข้าเส้นชัยในระยะทาง 50 เมตร โดยอาศัยพลังของความสามัคคี การสื่อสาร การทำงานเป็นทีม ที่มีผลมาจากการฝึกฝนที่เข้มข้นอย่างต่อเนื่อง สรุปผลการแข่งขันรอบชิงแชมป์ประเทศไทยในปีนี้
อันดับ 1: โรงเรียนบ้านริมใต้ จังหวัดเชียงใหม่ สนับสนุนโดย บริษัท นัติมอเตอร์ จำกัด ทำเวลา 8.64 วินาที
อันดับ 2: โรงเรียนบ้านละหานทราย (คุรุราษฎร์บำรุงวิทยา) จังหวัดบุรีรัมย์ สนับสนุนโดย บริษัท บุรีรัมย์ยนตรการ จำกัด ทำเวลา 8.83 วินาที
อันดับ 3: โรงเรียนอามานะศักดิ์ (A) จังหวัดปัตตานี สนับสนุนโดย บริษัท อริยะมอเตอร์ จำกัด ทำเวลา 8.91 วินาที