อุตสาหกรรมบริการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน หรือ Ride-hailing ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตในการเดินทางของผู้คนและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวก ความปลอดภัย และการเข้าถึงง่าย เพียงสัมผัสหน้าจอสมาร์ทโฟนไม่กี่ครั้ง ผู้ใช้บริการก็สามารถเรียกใช้บริการรถโดยสารได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยแอปพลิเคชันทำหน้าที่เป็นตัวกลางจับคู่ระหว่างผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ในขณะที่อุตสาหกรรมยังคงเติบโตต่อเนื่อง โบลท์ได้เผยแพร่รายงาน Economic report ล่าสุด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทการเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันที่มีต่อภาคเศรษฐกิจ ภาคแรงงาน และโครงสร้างพื้นฐานของเมือง ซึ่งชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มของอุตสาหกรรม ตลอดจนโอกาสในการสนับสนุนและพัฒนาอย่างยั่งยืน
จากรายงานล่าสุดของ Oliver Wyman Mobility Forum คาดการณ์ว่า ภายในปี 2573 อุตสาหกรรมการเดินทางร่วมกัน (Shared Mobility) จะสร้างโอกาสทางรายได้ให้ผู้ขับขี่ถึง 16 ล้านคนทั่วโลกโดย โดยประเทศไทยถือเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชีย ด้วยการเติบโตของบริการในเมืองใหญ่ อาทิ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต และหาดใหญ่ รวมถึงเมืองรองอย่างเชียงราย และอุดรธานี ที่มีอัตราการเติบโตสูงถึง 90% ปัจจุบันแอปพลิเคชันเหล่านี้สร้างโอกาสทางรายได้ให้กับผู้ขับขี่กว่า 500,000 คนทั่วประเทศ โดยเติบโตในอัตราเฉลี่ย 10% ต่อปี โดย 75% ของผู้ขับขี่มีรายได้เฉลี่ยประมาณ 30,000 บาทต่อเดือน ซึ่งสูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำในประเทศถึง 250% อุตสาหกรรมนี้คาดว่าจะสร้างรายได้รวมกว่า 20,000 ล้านบาท พร้อมรายได้ภาษี 33 ล้านบาทต่อปี และยังสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ผ่านการซื้อรถ การเช่าซื้อ และการบำรุงรักษา มูลค่าประมาณ 55,000 ล้านบาทต่อปี