นายสุธี สมาธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีสาขาที่เป็นจุดประมูลทั้งหมด 13 แห่งทั่วประเทศ และรังสิต-คลอง8 เป็นสาขาที่มีความสำคัญอันดับ 2 รองจากสำนักงานใหญ่ เนื่องจากอยู่ใกล้กรุงเทพฯ และสามารถรองรับความต้องการซื้อ-ขายรถยนต์มือสองในเขตปริมณฑล ซึ่งมีสัดส่วนการขายประมาณ 25-30% และมีแนวโน้มว่าลูกค้าจะให้ความสนใจซื้อรถยนต์มือสองจากสาขาดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาพื้นที่บริการให้มีศักยภาพทัดเทียมกับสำนักงานใหญ่ ทั้งนี้ การพัฒนาสาขารังสิต-คลอง8 จะส่งผลต่อการขยายตัวของธุรกิจในแง่ของการรองรับลูกค้าทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย เพราะตั้งอยู่ชานเมืองที่ไม่ไกลลูกค้าในกรุงเทพฯ สามารถไปใช้บริการได้ นอกจากจะเป็นการเพิ่มโอกาสการซื้อการขายแล้ว ยังตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญของการลงทุน เนื่องจากมีความได้เปรียบด้านต้นทุนหากเปรียบเทียบกับสำนักงานใหญ่ จึงมั่นใจว่าจะส่งผลต่อการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น
“สาขารังสิต-คลอง 8 มีพื้นที่ทั้งหมด 100 ไร่ ซึ่งถือว่าเป็นลานประมูลรถยนต์และรถจักรยานยนต์มือสองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สามารถรองรับรถยนต์ได้ประมาณ 7,000 คัน และรถจักรยานยนต์ได้ประมาณ 6,000-7,000 คัน ซึ่งถือว่าเป็นสาขาที่มีจุดเด่นด้านพื้นที่บริการ ในอนาคตหลังจากที่มีการพัฒนาและปรับปรุงบริการต่าง ๆ แล้ว สาขารังสิต-คลอง 8 จะมีเซ็กเมนต์ของสินค้าที่มีความหลากหลายขึ้น ทั้งรถยนต์มือสองที่มีปีอายุการใช้งานน้อย รถยนต์ปีกลาง ๆ และรถยนต์ปีเก่า รถยนต์อุบัติเหตุ รถจักรกลทางการเกษตร และรถจักรยานยนต์ บริษัทฯ ต้องการปรับโฉมใหม่ของสาขารังสิต-คลอง8 เพื่อให้ลูกค้าที่มาใช้บริการรับรู้ได้ถึงความทันสมัย สะดวกสบาย ไม่ต่างจากการมาใช้บริการที่สำนักงานใหญ่ แต่จะโดดเด่นกว่าในเรื่องความหลากหลายของสินค้าที่มีครบทุกเซ็กเมนต์และพื้นที่บริการที่ใหญ่กว่า ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เริ่มพัฒนาบางส่วนไปบ้างแล้ว แต่ในปีหน้ามีเป้าหมายที่จะปรับโฉมทั้งหมดของสาขารังสิต-คลอง8 ไม่ว่าจะเป็นลานประมูล จุดต้อนรับและบริการลูกค้า ให้มีความทันสมัยและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าจะพัฒนาเสร็จและพร้อมให้บริการได้อย่างเต็มรูปแบบประมาณเดือนสิงหาคม 2568” นายสุธีกล่าว