วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ประกาศเตรียมความพร้อมเปิดโชว์รูมแห่งใหม่ – วอลโว่ พัฒนาการ – และศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานครบวงจร VOLVO CERTIFIED DAMAGE REPAIR CENTRE (VCDR) แห่งที่ 4 ซึ่งจะบริหารงานโดย บริษัท จีที ออโต้ จำกัด เพื่อขยายพื้นที่บริการให้ครอบคลุมยิ่งขึ้นสำหรับลูกค้าวอลโว่ในพื้นที่รามคำแหง พัฒนาการ หัวหมาก พระราม 9 และเพชรบุรี โดยโชว์รูมแห่งใหม่นี้คาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการได้ในเดือนเมษายน 2025 เป็นต้นไป
โชว์รูมรูปแบบใหม่ครบวงจร วอลโว่ พัฒนาการ ให้บริการบนพื้นที่ขนาด 1,200 ตารางเมตร ซึ่งได้รับการออกแบบตามมาตรฐาน Volvo Retail Standard อันประกอบด้วย โชว์รูมเพื่อการขาย ที่ได้รับการออกแบบให้ถ่ายทอดอัตลักษณ์ของแบรนด์วอลโว่ผ่านความเรียบง่ายที่ตอบโจทย์การใช้งานตามแบบสแกนดิเนเวียนดีไซน์ ผสานการตกแต่งที่เน้นความโปร่งสบาย เป็นธรรมชาติผ่านวัสดุที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมพนักงานที่ปรึกษาด้านการขายที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์อันครบครันแก่ลูกค้าผู้สนใจประกอบการตัดสินใจซื้อรถ
นอกจากนี้ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ยังประกาศความพร้อมในการขยายศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีมาตรฐานครบวงจร แห่งที่ 4 ในกรุงเทพมหานคร เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการเข้ารับบริการ บนพื้นที่ขนาด 1,200 ตารางเมตร เพื่อให้บริการซ่อมตัวถังและสีที่มีมาตรฐานซึ่งได้รับการรับรองจากวอลโว่ในด้านคุณภาพ รวมถึงความปลอดภัยต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและพนักงานผู้ปฏิบัติงาน อาทิ การใช้เทคโนโลยีสีสูตรน้ำ (Water based paint) ที่เป็นมาตรฐานของวอลโว่ เพื่อลดปริมาณสารพิษที่ปนเปื้อนในอากาศและแหล่งน้ำ, การติดตั้งแผ่นกรองอากาศ 3 ชั้น ภายในห้องพ่นสี เพื่อกรองและดักอนุภาคขนาดเล็กของฝุ่น และกลิ่นของสีไม่ให้ปนเปื้อนกับอากาศภายนอก พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพให้ผลลัพธ์ของสีเรียบเนียนยิ่งขึ้น, การอบสีรอบตัวถังด้วยหัวเป่าลมพลังเจ็ท กับเทคโนโลยี Dent Jet System จาก PIVAB ตามมาตรฐานสวีเดน เพื่อสีที่แห้งเร็วขึ้น จึงทำให้ระยะเวลาการรอของลูกค้าลดลง, การใช้เทคโนโลยีการเคลื่อนย้ายรถด้วยระบบรางมาตรฐานในทุก ๆ การกระบวนการซ่อมสีเพื่อความรวดเร็วในการปฎิบัติ และสามารถส่งมอบรถกลับถึงลูกค้าได้โดยเร็ว พร้อมคุณภาพ และประสิทธิภาพหลังซ่อมที่ดีเยี่ยมเหมือนวันแรกที่ออกจากโรงงานผลิต ศูนย์บริการซ่อมตัวถังและสีแห่งใหม่นี้จะดำเนินการภายใต้คอนเซ็ปต์ Lean Management เช่นเดียวกัน ซึ่งจะส่งผลให้สามารถรองรับการให้บริการลูกค้าสำหรับการซ่อมตัวถังและทำสีได้สูงสุดถึง 150 คันต่อเดือน