นายกาฮูน คิม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮันกุก ไทร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อรองรับการ เติบโตของตลาดและสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) และปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ที่กำลังได้รับความนิยม และมีความแพร่หลายมากขึ้น ในฐานะผู้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมยางรถยนต์ ระดับโลก ที่ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์รถยนต์ชั้นนำระดับโลก ฮันกุก ไทร์ (ประเทศไทย) จึงเลือกยาง ตระกูล iON พรีเมียมคุณภาพสูงที่ออกแบบพิเศษสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) และปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เข้ามา เปิดตัวในประเทศไทยเป็นครั้งแรก จำนวน 2 รุ่น คือ “iON evo” กับ “iON evo AS” สำหรับรถยนต์นั่ง และ “iON evo” กับ “iON evo AS SUV” สำหรับรถยนต์เอนกประสงค์ นอกจากนี้เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าทาง ฮันกุก ไทร์ (ประเทศไทย) ยังได้เปิดตัวยางรถยนต์สันดาปรุ่นใหม่ พร้อมกันถึง 3 รุ่น คือ “Dynapro AT2 Xtreme”, “Dynapro HPX” และ “Ventus Prime4”
ยางตระกูล “iON” รุ่น “iON evo” กับ “iON evo AS” สำหรับรถยนต์นั่ง และ รุ่น “iON evo” กับ “iON evo AS SUV” สำหรับรถยนต์เอนกประสงค์ ได้รับรางวัลการออกแบบระดับโลก “reddot winner award 2023 (Vehicle accessories design)” ได้รับการพัฒนาและออกแบบภายใต้แนวคิดเทคโนโลยี INNOVATIVE หน้ายางออกแบบให้กระจายแรงกดลงพื้นถนนอย่างสม่ำเสมอ ช่วยต้านทานการสึกหรอ เพิ่มอายุการใช้งานได้ยาวนานมากขึ้นถึง 15% มีสมรรถนะในการยึดเกาะถนนสูง สามารถควบคุมการขับขี่ดีเยี่ยม รองรับการหยุดรถโดยฉับพลัน และรองรับกำลังแรงบิดสูง ลดแรงต้านทานการหมุน ทำให้ช่วยประหยัดพลังงานขึ้นสูงสุด 6% ทำให้ขับขี่ได้ระยะทางไกลขึ้น เทคโนโลยีโฟม (วัสดุดูดซับเสียง) ช่วยลดเสียงรบกวนที่สะท้อนจากพื้นถนนสู่ห้องโดยสารสูงสุดถึง 18%
สำหรับคนที่ชื่นชอบประสบการณ์การขับขี่ที่บนถนนเรียบและทางหลวงต้อง “Dynapro” รุ่น “HPX” มาพร้อมกับ ลายดอกยางนุ่ม เงียบ พรีเมียมคุณภาพสูง ด้วยคุณสมบัติและประสิทธิภาพ พัฒนาสารประกอบคอมพาวด์ใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพกระจายแรงกดลงพื้นถนนอย่างสม่ำเสมอ ทำให้สึกหรออย่างสม่ำเสมอ ยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้น 12% ปราศจากเสียงรบกวน ด้วยเทคโนโลยี Knurling การออกแบบร่องผนังยางเป็นนูนซีกๆ และส่วนหน้ายางยังออกแบบจัดเรียง บล็อกดอกยางหลายระดับ ทั้ง 2 อย่างนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพลดเสียงรบกวนเมื่อสัมผัสพื้นถนนได้ดีเยี่ยม ออกแบบร่องดอกยางเล็กละเอียด 3 มิติ (GripKontrol) ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการเบรกบนถนนเปียก เพิ่มขึ้น 15% และยังเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุม เข้าโค้ง บนถนนเปียก เพิ่มขึ้น 7%
อีก 1 รุ่น ภายใต้ตระกูล “Dynapro” คือ รุ่น “AT2 Xtreme” มาพร้อมกับลายดอกยาง All Terrain (A/T) เหมาะ สำหรับคนที่ชื่นชอบประสบการณ์การขับขี่แบบผจญภัย ใช้งานหนัก ลุย บนถนนขรุขระ ลูกรังและยังสามารถ ใช้งานบนถนนทางเรียบ มาพร้อมกับคุณสมบัติและประสิทธิภาพ ออกแบบโดยใช้เทคนิคสกูปแบบไขว้ เพิ่มความแข็งแกร่ง ทนทานสูง พัฒนาบล็อกแก้มยางให้มีความลึกสูงเพื่อปกป้องและป้องกันการเจาะจากสภาพถนนออฟโรด ออกแบบบล็อกดอกยางและร่องหลายทิศทาง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน ส่วนของขอบบล็อกยางเหลี่ยม ให้สมรรถนะการกัด จิก เกาะพื้นถนนขรุขระและลูกรังพัฒนาสารประกอบคอมพาวด์ใหม่ด้วยเทคโนโลยี Max Mileage ทำให้แข็งแกร่ง ทนทานและสามารถกระจายแรงกดสู่พื้นถนนได้อย่าง สม่ำเสมอระหว่างในช่วงเร่งความเร็ว หยุดรถ และการเข้าโค้ง นวัตกรรมขอบบล็อกยางไล่ระดับเป็นเสมือนกำแพงกันเสียงสะท้อนออก ส่วนบริเวณไหล่ยางได้ยังออกแบบ Tie-bars เพื่อช่วยยึดบล็อกดอกยางให้คงที่ แข็งแรง ป้องกัน เสียงรบกวน
ในเวลาเดียวกัน อีกหนึ่งตัวเลือกผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับกลุ่มประเภทรถยนต์นั่งขนาดเล็ก Sedan ขนาดกลาง ใหญ่ และ Crossover ที่ได้รับการพัฒนาจากนวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงของฮันกุก คือ รุ่น “Ventus Prime4” ยางรถยนต์ที่เหมาะกับการขับขี่ที่นุ่ม เงียบ ระดับพรีเมียมกับการเดินทางในชีวิตประจำวันมาพร้อมกับ คุณสมบัติและประสิทธิภาพ พัฒนาสารประกอบคอมพาวด์ใหม่ ช่วยลดแรงต้านทานการหนุม เพิ่มความแข็งแกร่งในการยึดเกาะถนนมากขึ้น 20% ประสิทธิภาพการเบรกโดดเด่นบนถนนเปียก ด้วยเทคโนโลยี Convex Block (บล็อคดอกยางทรงนูน) สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ตามแนวขวางได้อย่างประสิทธิภาพ และยังเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายแรงกดลงพื้นถนนอย่างสม่ำเสมอ เทคโนโลยี Groove Wall Knurling (ร่องผนังนูนซีกๆ) แบบ 3 มิติ ช่วยลดเสียงสะท้อนจากถนน อีกหนึ่งเทคโนโลยี Round Optimisation (เพิ่มประสิทธิภาพการหมุน) คือการออกแบบเพิ่มจำนวน บล็อกดอกยางขึ้น 14% เพื่อช่วยลดแรงกระแทกและเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ให้นุ่มสบายยิ่งขึ้น