เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ประกาศยุติการรับคำสั่งจองรุ่น Continental GT V8, Continental GTC V8 และ Flying Spur V8 ในเจเนอเรชันปัจจุบัน โดยภูมิภาคแรกที่จะได้รับมอบโมเดลเครื่องยนต์รุ่น V8 เจเนอเรชันปัจจุบันหลังจากเสร็จสิ้นสายการผลิตสุดท้าย คือ สหราชอาณาจักร ยุโรป และตะวันออกกลาง แอฟริกา อินเดีย ตามมาด้วยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไต้หวัน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
เครื่องยนต์รุ่น V8 จะยังคงมีติดตั้งในรุ่น Bentayga ซึ่งการสิ้นสุดการรับคำสั่งจองสำหรับรุ่น Continental GT และ Flying Spur เครื่องยนต์รุ่น V8 ถือเป็นก้าวสำคัญของกลยุทธ์ Beyond100 ที่ได้ปูทางให้อัครยนตรกรรมทุกรุ่นมาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์แบบไฮบริดภายในปีนี้อย่างที่มีการเปิดตัวในรุ่น Bentayga Hybrid และ Flying Spur Hybrid ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
เครื่องยนต์แบบสันดาปภายในรุ่น V8 มีบทบาทอย่างมากในการเป็นหัวใจสำคัญของอัครยนตรกรรมหลายรุ่นตลอดระยะเวลา 75 ปีที่ผ่านมา เครื่องยนต์แบบ L-Series V8 ตัวแรกได้เปิดตัวในรถยนต์เบนท์ลีย์คลาสสิกรุ่น S2 ในปี 2499 กับพละกำลัง 180 แรงม้า ซึ่งเครื่องยนต์รุ่น V8 เจเนอเรชันปัจจุบันสามารถผลิตพละกำลังได้มากกว่าถึง 3 เท่าตัวด้วยความจุสองในสามของกระบอกสูบ
นับตั้งแต่เปิดตัวเครื่องยนต์รุ่น V8 ขนาด 4.0 ลิตรในปี 2555 เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ได้มีการผลิตรุ่น Continental GT, GTC และ Flying Spur กับขุมพลังเครื่องยนต์รุ่น V8 มามากกว่า 53,000 คัน ซึ่งอัครยนตรกรรมทั้งหมดได้ถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยช่างฝีมือ ณ โรงงาน เมืองครูว์ ประเทศอังกฤษ Continental GT/GTC V8 และ Flying Spur V8 สายการผลิตสุดท้ายมีให้ครอบครองเฉพาะในออสเตรเลีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และเวียดนาม ซึ่งการผลิตจะแล้วเสร็จและจะมีการส่งมอบขั้นสุดท้ายในเดือนมิถุนายนนี้