เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยโฉม Ultra Performance V8 Hybrid เครื่องยนต์สมรรถนะสูงรุ่นใหม่ล่าสุด ขุมพลังที่ทรงสมรรถนะที่สุดของแบรนด์ที่จะมาสืบทอดบัลลังก์เครื่องยนต์รุ่น W12 โดยขุมพลังสมรรถนะสูงรุ่นดังกล่าวสามารถผลิตแรงม้าได้มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา พร้อมด้วยระบบไดนามิกและการตอบสนองที่ดีเยี่ยม ถือเป็นเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของเบนท์ลีย์ มอบสมรรถนะขั้นสูงสุดให้กับอัครยนตรกรรมระดับซุปเปอร์คาร์เจเนอเรชันใหม่
การใช้ ‘Ultra Performance Hybrid’ กับระบบส่งกำลังรุ่นใหม่เป็นไปตามธรรมเนียมอันยาวนานของเบนท์ลีย์ในการพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปสมรรถนะสูงด้วยเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ สำหรับการใช้ระบบแบบซูเปอร์ชาร์จในช่วงทศวรรษปี 1920 ได้ถือเป็นยุคแรกๆ จนถึงการใช้ระบบแบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ตั้งแต่ช่วงปี 1980 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเบนท์ลีย์ก็ได้ก้าวไปอีกขั้นด้วยการเพิ่มสมรรถนะที่มากยิ่งขึ้นผ่านการใช้ระบบ ‘อิเล็กโทรชาร์จ’ กับระบบไฮบริดที่ทรงพลังเพื่อสร้างระบบส่งกำลังที่ล้ำสมัยและทรงสมรรถนะที่สุดในประวัติศาสตร์ 105 ปีของเบนท์ลีย์ โดยระบบใหม่นี้สร้างขึ้นจากระบบส่งกำลังไฮบริดเดิม แต่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้นในแง่ของสมรรถนะและประสิทธิภาพด้วยพละกำลังที่มากกว่า 750 แรงม้า และพิสัยการเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนที่มากขึ้นกว่า 80 กิโลเมตร ซึ่งมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและให้พละกำลังที่มากกว่าเครื่องยนต์รุ่น W12 ที่ได้รับการพัฒนาในรุ่น Flying Spur และ Continental GT Speed อย่างน้อย 91 แรงม้า
สำหรับเครื่องยนต์รุ่น W12 เทอร์โบคู่ ขนาด 6.0 ลิตร โรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์สมีแผนจะยุติการผลิตในฤดูร้อนปีนี้ พร้อมด้วยขุมพลังกว่า 105,000 เครื่องที่ผลิตขึ้นในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา โดยจะมี Ultra Performance Hybrid ระบบส่งกำลังสมรรถนะสูงรุ่นใหม่พร้อมจะเข้ามาแทนที่เครื่องยนต์รุ่น W12 และสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับอัครยนตรกรรมเบนท์ลีย์พลังงานไฟฟ้าที่ดีที่สุดของโลกด้วยพละกำลังและแรงบิดที่เหนือกว่า และอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต่ำกว่า 50 กรัม ต่อ กิโลเมตร (WLTP)