ปอร์เช่ได้ฉลองการเริ่มต้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเป็นทางการ ณ โรงงานผลิตในรัฐซัคเซิน (Saxony) ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปอร์เช่ได้ลงทุนราว 600 ล้านยูโร เพื่อขยายโรงงานการผลิตมาคันน์ระบบไฟฟ้า พร้อมเพิ่มสายการประกอบตัวถังรถยนต์แบบใหม่ภายในโรงงานแห่งนี้ ปัจจุบันมีการเร่งการผลิตมาคันน์รุ่นใหม่เป็นสำคัญ โรงงานแห่งนี้ได้รับการออกแบบให้มีความยืดหยุ่นสูงสุดในอนาคต โดยสามารถรองรับการผลิตรถยนต์ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนทั้งน้ำมันเบนซิน ระบบไฮบริด และพลังงานไฟฟ้าในสายการผลิตเดียว
การเฉลิมฉลองในครัง้นี้ได้รับเกียรติจากแขกคนสำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ตัวแทนจากปอร์เช่ เอจี (Porsche AG) ดร. วูล์ฟกัง ปอร์เช่ (Dr. Wolfgang Porsche) ประธานคณะกรรมการกำกับดูแล, โอลิเวอร์ บลูเม่ (Oliver Blume) ประธานคณะกรรมการบริหาร, รวมไปถึงตัวแทนจากแวดวงการเมือง อย่าง ดร. โวลเกอร์ วิสซิง (Dr. Volker Wissing) รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล, ไมเคิล เครตชเมอร์ (Michael Kretschmer) ผู้นำรัฐมนตรีแห่งรัฐซัคเซิน, วินฟรีด เครทช์มันน์ (Winfried Kretschmann) ผู้นำรัฐมนตรีแห่งรัฐบาเดน-เวือร์ทเทมเบิร์ก และ เบิร์กฮาร์ด จุง (Burkhard Jung) นายกเทศมนตรีเมืองไลพ์ซิก ร่วมถึงสมาชิกของสภาความยั่งยืนของปอร์เช่ก็เข้าร่วมด้วย
ที่โรงงานของปอร์เช่ (Porsche) ในรัฐซัคเซิน มีพนักงานถึงกว่า 4,600 คน สำหรับการผลิตรถยนต์รุ่นมาคันน์ (Macan) และ พานาเมร่า (Panamera) นอกจากการเป็นผู้ผลิตรถสปอร์ตชั้นนำแล้ว ปอร์เช่ยังมีส่วนร่วมสนับสนุนสิ่งต่างๆ มากมายในเมืองไลพ์ซิก ทั้งในด้านการศึกษา วัฒนธรรม ประเด็นทางสังคม กีฬา และสิ่งแวดล้อม เบิร์กฮาร์ด จุง (Burkhard Jung) นายกเทศมนตรี กล่าวยกย่องความมุ่งมั่นของผู้ผลิตรถสปอร์ตที่มีต่อภูมิภาคนี้ว่า “เรารู้สึกยินดีและภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่มีปอร์เช่ในเมืองไลพ์ซิก ปอร์เช่ไม่เพียงแค่เป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญเท่านั้น แต่ยังเป็นพันธมิตรที่มุ่งมั่นต่อเมืองแห่งนี้อีกด้วย โดยให้การสนับสนุนด้านวัฒนธรรม กีฬา และโครงการเพื่อสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อประโยชน์ของเยาวชน ตัวอย่างเช่น คอนเสิร์ต ‘Klassik airleben’ ของวง Gewandhaus Orchestra ที่สวน Rosental คงไม่สามารถจัดขึ้นได้ หากปราศจากการสนับสนุนของปอร์เช่”
ภายในกรอบการขยายโรงงานสำหรับการผลิตมาคันน์ (Macan) โรงงานในเมืองไลพ์ซิก (Leipzig) ได้มีการเตรียมยกระดับทักษะและเตรียมความพร้อมด้านอารมณ์ให้แก่พนักงาน เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า (electromobility) และการปฏิบัติการส่วนงานใหม่ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งในงานเปิดตัว โรงงาน เกิร์ด รุปป์ (Gerd Rupp) ผู้จัดการโรงงาน กล่าวเน้นย้ำว่า “แม้ว่ากระบวนการต่างๆ ในปัจจุบันมีความแข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากเทคโนโลยีต่างๆ เช่น เทคโนโลยีเสมือนจริง (augmented reality) แต่พนักงานของเรายังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการวางแผนการเปลี่ยนแปลงนี้ หัวใจสำคัญของโรงงานคือ บุคลากรที่เป็นผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยีเหล่านี้อย่างแข็งขัน”