บริษัท รถไฟฟ้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ EVT ซึ่งเป็นผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่ายรถโดยสารขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้ารายแรกในประเทศไทยมาเป็นเวลากว่า 30 ปี เดินหน้าเจรจาพันธมิตรคู่ค้าที่มีความสนใจร่วมพัฒนาการบริการและการตลาดรถโดยสารไฟฟ้าและรถไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ โดยตั้งเป้าหมายในการขยายเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของตลาดที่มีแนวโน้มการเติบโตตามแรงกระตุ้นของรัฐบาลและกระแสเรียกร้องให้ภาคธุรกิจเข้ามามีส่วนร่วมต่อการรักษาสิ่งแวดล้อม
นายกฤศ โกษานันตชัย กรรมการผู้จัดการ EVT เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เริ่มเจรจากับพันธมิตรธุรกิจที่สนใจจะร่วมพัฒนาการตลาดและบริการรถโดยสารไฟฟ้าและรถไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ โดยตั้งเป้าหมายในการแต่งตั้งพันธมิตรให้เป็นตัวแทนด้านการขายและบริการของ EVT ภูมิภาคละ 1 รายเพื่อดำเนินการและรับผิดชอบด้านการขายและการบริการหลังการขาย โดยพันธมิตรที่ได้รับการแต่งตั้งจะต้องมีความรู้ความชำนาญด้านการขายและบริการรถโดยสารไฟฟ้าและรถไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ อีกทั้งจะต้องมีสถานที่สำหรับการติดตั้งอุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับให้บริการ โดย EVT จะถ่ายทอดเทคโนโลยีในตัวรถ EVT ให้แก่พันธมิตรเพื่อประสิทธิภาพในการให้บริการและการทำตลาดในแต่ละภูมิภาค
เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ได้ออกมาตรการให้บริษัทหรือนิติบุคคลที่เข้าร่วมโครงการซื้อรถโดยสารหรือรถบรรทุกไฟฟ้ามาใช้งานโดยไม่มีกำหนดเพดานราคาขั้นสูง โดยกรณีซื้อรถที่ผลิต/ประกอบในประเทศ สามารถนำมาหักค่าใช้จ่าย ได้ 2 เท่า และในกรณีนำเข้ารถสำเร็จรูปจากต่างประเทศ สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ 1.5 เท่า โดยมาตรการนี้จะมี ผลใช้บังคับจนถึงสิ้นปี 2568 การออกมาตรการสนับสนุนการใช้รถโดยสารไฟฟ้าและรถบรรทุกไฟฟ้าครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดจากมาตรการ EV3 และ EV3.5 ที่เน้นกลุ่มรถยนต์นั่ง รถจักรยานยนต์และรถกระบะเป็นหลัก ซึ่งบอร์ดอีวีคาดว่าการสนับสนุนการใช้รถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ครั้งนี้ จะนำไปสู่การปรับเปลี่ยนรถยนต์เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 10,000 คัน ซึ่งจะมีส่วนผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอีวีของภูมิภาคในรถยนต์ทุกประเภท