เมือง ริมินิ ใจกลางมอเตอร์ วัลเลย์ กลายเป็นเวทีที่ มาเซราติ จัดกิจกรรม ‘โฟลกอเร เดย์’ โดยมีคนวงในของอุตสาหกรรมยานยนต์และสื่อมวลชนชั้นนำ เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในกิจกรรมพิเศษ ที่ตรงกับวันครบรอบ 110 ปีของค่ายตรีศูล นับเป็นการเฉลิมฉลองทั้งในเชิงธุรกิจ และความสำเร็จบนสนามแข่ง ตลอดจนการสรรสร้างยนตรกรรมระดับไอคอนของวงการยานยนต์ และมอเตอร์สปอร์ต นอกจากนี้ โฟลกอเร เดย์ ยังเปรียบเสมือนการก้าวสู่ยุคของยนตรกรรมไฟฟ้าอย่างเป็นทางการผ่าน มาเซราติ สายพันธุ์ โฟลกอเร ที่พร้อมนำเสนอทิศทางของค่ายตรีศูลในอนาคต สู่สาธารณชนทั่วโลก
เส้นทางสู่เทคโนโลยียนตรกรรมไฟฟ้า นวัตกรรม ความหรูหรา และความเป็นเลิศในสไตล์อิตาเลียนของ มาเซราติ เริ่มขึ้นช่วงปีที่ผ่านมา กับการเปิดตัว ‘กรันทูริสโม โฟลกอเร’ (GranTurismo Folgore) ยนตรกรรมไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของค่ายตรีศูล นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัว ‘เกรคาเล่ โฟลกอเร’ (Grecale Folgore) เอสยูวีรุ่นแรกที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน และ ‘กรันคาบริโอ โฟลกอเร’ (GranCabrio Folgore) เวอร์ชั่นเปิดประทุนของยนตรกรรมจีทียอดนิยม อีกทั้งในปี 2568 ก็เตรียมที่จะเปิดตัว ‘เอ็มซี20 โฟลกอเร’ (MC20 Folgore) ที่สุดแห่งซูเปอร์สปอร์ตคาร์ด้วยเช่นกัน
โฟลกอเร เดย์ จัดขึ้นหลังจบการแข่งฟอร์มูล่า อี ที่สนาม มิซาโน เวิลด์ เซอร์กิต มาร์โก ซิมอนเชลลี (Misano World Circuit Marco Simoncelli) ซึ่งเป็นการแข่งรถยนต์ไฟฟ้าที่นั่งเดี่ยว ระดับเวิลด์แชมเปี้ยนชิปครั้งแรกในอิตาลี ซึ่ง มาเซราติ เป็นยนตรกรรมหรูจากอิตาลีแบรนด์เดียวที่เข้าร่วม เริ่มพิธีด้วยการกล่าวต้อนรับสื่อมวลชนโดย มร. ดาวิเด กราสโซ (Davide Grasso) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มาเซราติ พร้อมเล่าถึงช่วงเวลาอันสำคัญของแบรนด์ ในฐานะตัวแทนความหรูหราของอิตาลี รวมถึงสัญลักษณ์แห่งสุดยอดนวัตกรรมและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี รวมทั้งอนาคตที่จะขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า พร้อมกล่าวถึงวิสัยทัศน์ระยะยาว กับการพัฒนายนตรกรรมสายพันธุ์ โฟลกอเร และขอให้ทุกท่านรอชมการเปิดตัวยนตรกรรมไฟฟ้ารุ่นล่าสุด ‘กรันคาบริโอ โฟลกอเร’ ในช่วงค่ำ พร้อมกันนี้ มร. จิโอวานนี เพโรซิโน (GiovanoPerosino) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ยังได้มาบอกเล่าถึงคุณค่าของแบรนด์ และความสำเร็จของยุคโฟลกอเร รวมทั้งเปิดตัวแคมเปญระดับโลก ‘It Turns You On’ จากนั้น มร. เดวิด ดาเนซิน (Davide Danesin) หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมของ มาเซราติ ได้ขึ้นกล่าวถึงการพัฒนาด้านวิศวกรรม ปิดท้ายด้วย มร. เคลาซ์ บุสซ์ (Klaus Busse) หัวหน้าฝ่ายออกแบบ ที่ได้มานำเสนอการพัฒนาด้านดีไซน์ สไตล์ และเทคโนโลยี ของยนตรกรรมค่ายตรีศูล
นอกจากนี้ มาเซราติ ได้แนะนำงาน 3 ไฮไลท์ ของงานนี้ ได้แก่ การเดินทางที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า (Electric Mobility) โปรแกรม มาเซราติ ฟูออริเซรี (Maserati Fuoriserie) ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้ากำหนดรายละเอียดต่างๆ ของรถได้ตามชอบ และ ไทรเดนเต้ (TRIDENTE) เรือสุดหรูที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสประสบการณ์ตรง และเข้าใจแนวทางใหม่ของ มาเซราติ ได้อย่างชัดเจน