การออกแบบของ The Kia Carnival SXL Luxury เอ็มพีวี 7 ที่นั่ง ให้ความสำคัญเป็นพิเศษใน 2 ส่วนหลัก โดยส่วนแรก คือ การเป็นรถยนต์เอ็มพีวีที่มีดีไซน์ภายนอกดีเยี่ยม ให้ความรู้สึกเหมือนรถยนต์เอสยูวีระดับพรีเมียม และส่วนที่สอง คือ การมีแพลตฟอร์มและตัวถังที่ใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มเนื้อที่ใช้สอยภายในได้เต็มที่ ส่งผลให้มีพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวางและมีพื้นที่จัดเก็บสัมภาระอย่างเหลือเฟือ
ด้านหน้าโดดเด่นด้วยดีไซน์ ‘Tiger-nose’ พาดตลอดแนวความกว้างของตัวรถ โดยประกอบไปด้วยชุดโคมไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (DRL) แบบ LED และกระจังหน้า ทำให้ The Kia Carnival มีรูปลักษณ์ที่มั่นใจและล้ำสมัยด้วยเส้นสายของไฟส่องสว่างที่สวยโดดเด่นไม่เหมือนใคร การออกแบบภายในซึ่งได้แรงบันดาจใจมาจากแนวคิด ‘Spatial Talents’ แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในด้านคุณภาพและการออกแบบ
ด้วยห้องโดยสารแบบใหม่ที่ออกแบบเป็นอย่างดีเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ให้ทั้งความผ่อนคลาย ไฮเทค และมีสไตล์ เหมาะสำหรับการเดินทางแบบครอบครัว หน้าปัดของรถยนต์ให้มุมมองกว้างแบบพาโนรามา ผสานด้วยเทคโนโลยีข้อมูลความบันเทิงแบบหน้าจอคู่และแผงควบคุมอุณหภูมิแบบสัมผัส (Haptic Touch Panel) นอกจากนี้ระบบยังผสานการเชื่อมต่อ Android Auto™ และ Apple CarPlay™ แบบไร้สาย พร้อมด้วยระบบจดจำเสียงพูดเพื่อการใช้งานที่ราบรื่นไร้รอยต่อ
“The Kia Carnival SXL Luxury รถยนต์เอ็มพีวี 7 ที่นั่ง มีความยาวโดยรวม 5,155 มม. และมีระยะของส่วนยื่นท้ายรถ (Rear Overhang) 1,130 มม. จึงมีพื้นที่มากขึ้นสำหรับที่นั่งผู้โดยสารแถวที่ 3 และพื้นที่จัดเก็บสัมภาระ นอกจากนี้ The Kia Carnival SXL Luxury ยังมีระบบ ‘Premium Relaxation Seat’ ของเกียที่ปรับเอนนอนได้สำหรับผู้โดยสารแถวที่ 2 ตลอดจนพนักพิงหลังและที่พักเท้าแบบปรับด้วยไฟฟ้าเพื่อการนั่งที่สบายแบบผู้โดยสารชั้นธุรกิจ
ในด้านสมถรรนะในการขับขี่รถยนต์รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยีระบบส่งกำลังแบบ ‘Smartstream’ ใหม่ล่าสุดของเกียที่ยกระดับประสิทธิภาพและสมรรถนะให้ดียิ่งขึ้น ทำให้มีกำลังสูงสุด 202 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ที่พร้อมเรียกใช้ได้ในช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์ที่กว้าง ยิ่งไปกว่านั้น The Kia Carnival SXL Luxury ยังผสานมาตรการทางเทคนิคต่างๆ เพื่อช่วยลดแรงเสียดทาน ระบายความร้อน เพิ่มประสิทธิภาพ และลดการปล่อยไอเสีย
ทั้งยังมีระบบความปลอดภัยครบครันทั้ง Passive Safety และ Active Safety รวมถึงระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ อาทิ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Control – ESC), ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (Advanced Driver Assistance Systems – ADAS), ระบบป้องกันการชนด้านหน้า (Forward Collision Avoidance Assist – FCA), ระบบช่วยควบคุมให้รถอยู่ในช่องจราจร (Lane Keeping Assist – LKA), ระบบป้องกันการชนจากมุมอับสายตา (Blind Spot Collision Avoidance Assist – BCA), กล้องมองรอบทิศทาง (Surround View Monitor – SVM) และระบบป้องกันการออกจากรถขณะมีรถวิ่งมาด้านข้าง (Safe Exit Assist – SEA)” นายฌ็อง–ดาวิด คริสติญอง อาเรล อธิบายเพิ่มเติม