โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ยินดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเปิดตัว Rolls-Royce Arcadia Droptailผลงานใหม่ล่าสุดที่ได้รับการสั่งทำขึ้นเป็นพิเศษ ให้ความรู้สึกเงียบสงบผสมผสานกับความสง่างามอย่างมีเอกลักษณ์ ชูความเรียบง่าย และความงามด้วยวัสดุจากธรรมชาติ ในขณะเดียวกันก็บ่งบอกถึงสไตล์ส่วนตัวของผู้เป็นเจ้าของอย่างชัดเจน Arcadia Droptailได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษสำหรับเจ้าของที่มีความสนใจในด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ แสดงให้เห็นถึงความชอบและมาตรฐานของผู้เป็นเจ้าของในด้านความหรูหรา แต่ยังคงเน้นความเรียบง่ายและความสง่างามเหนือบรรยาย การออกแบบ Arcadia Droptailสะท้อนถึงรสนิยมอันประณีตของผู้เป็นเจ้าของ และความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า ในการขจัดความซับซ้อนที่ไม่จำเป็น เพื่อเผยให้เห็นถึงแก่นแท้ของความหรูหราอย่างแท้จริง
Rolls-Royce Arcadia Droptailได้รับการตั้งชื่อตามสถานที่ในเทพนิยายกรีกโบราณที่ถูกกล่าวขานว่าเป็น ‘สวรรค์บนดิน’ โดยแผ่นดินที่ชื่อว่า Arcadia ในตำนานเป็นสถานที่ที่เงียบสงบและงดงามตามธรรมชาติ ด้วยแรงบันดาลใจจากสถานที่ดังกล่าว Arcadia Droptailจึงได้รับการออกแบบให้มีสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ ผสานความเรียบง่ายโดยใช้วัสดุคุณภาพสูงที่มีมิติและผิวสัมผัสลุ่มลึก ทำหน้าที่เป็นสถานที่สำหรับการผ่อนคลาย เพื่อหลีกหนีจากความเครียดและความซับซ้อนวุ่นวายในชีวิตการทำงาน การออกแบบร่วมสมัยของตัวถังแบบ Roadster ดึงดูดความสนใจ และตรงตามรสนิยมของลูกค้าผู้สั่งผลิตรถคันนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะรูปลักษณ์ที่โดดเด่น แบนเตี้ย ให้ความรู้สึกมั่นคง การออกแบบห้องโดยสารที่ให้ความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ ยังสามารถสังเกตเห็นได้ทันทีถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบที่ได้รับจากการเดินเรือ โดยจะเห็นได้จาก ‘sail cowls’ หรือฝาครอบส่วนท้ายของ Droptailซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับของเรือยอทช์ เพิ่มความหรูหราให้กับรูปลักษณ์ของรถ และดึงดูดทุกสายตาไปยังผู้ที่อยู่ภายในห้องโดยสาร
เพื่อเติมเต็มความปรารถนาของลูกค้า ที่ชื่นชอบเอกลักษณ์ของ Droptailนักออกแบบของ Rolls-Royce Coachbuild ได้พัฒนาโทนสีที่ให้ความสงบและเป็นธรรมชาติ สำหรับรูปลักษณ์ภายนอก ลูกค้าต้องการตัวรถสีขาวเหนือกาลเวลาดูชัดเจนตั้งแต่แรกเห็น แต่ยังคงเผยให้เห็นรายละเอียดอื่น ๆ ที่น่าสนใจภายใต้แสงธรรมชาติ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ นักออกแบบจึงใช้สีขาวล้วน ผสมกับอะลูมิเนียมและอนุภาคของกระจก เพื่อสร้างเอฟเฟกต์แวววาวเมื่อมีแสงตกกระทบที่ตัวรถ ช่วยให้สีรถดูมีมิติ นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญของ โรลส์-รอยซ์ ยังได้พัฒนาสีเงินเมทัลลิกที่มีอนุภาคอะลูมิเนียมขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อให้ตัดกับสีขาวอย่างเหมาะเจาะ ทั้งในเรื่องของสีและความเข้ม ทำให้มีพื้นผิวและรูปลักษณ์ที่เด่นสะดุดตามากขึ้น ตามคำขอของลูกค้า
การเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ทำให้ Arcadia แตกต่างจากรถ Droptailอีกสามคันในซีรีส์นี้ คือ คาร์บอนไฟเบอร์ที่ใช้กับส่วนล่างของตัวถังจะถูกพ่นทับด้วยสีเงินอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ช่วยเสริมรูปลักษณ์ให้โฉบเฉี่ยว ดูปราดเปรียวและกระฉับกระเฉงยิ่งขึ้นนอกจากนั้น เพื่อเพิ่มความเปล่งประกายของยนตรกรรม โรลส์-รอยซ์ สุดคลาสสิก ที่ลูกค้าชื่นชอบ กระจังหน้าพร้อมตราสัญลักษณ์ที่มีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์ และล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้ว ล้วนผ่านการขัดให้วาววับดุจกระจกแม้สีภายนอกของ Arcadia Droptailจะมีรายละเอียดอันซับซ้อนละเอียดอ่อน แต่จุดประสงค์หลักคือการแสดงให้เห็นถึงรูปทรงและสัดส่วนที่โดดเด่นของตัวรถ ลูกค้ารู้สึกประทับใจเป็นพิเศษกับพื้นผิวที่เรียบลื่นของ Droptailและการออกแบบพื้นผิวที่มีส่วนเว้าเข้าด้านใน สร้างเงา เพิ่มมิติความลึกและความน่าสนใจให้กับพื้นผิว คุณสมบัติเหล่านี้ยิ่งโดดเด่นมากขึ้นด้วยสีของตัวรถที่กลมกลืนไปกับธรรมชาติ สร้างเงาอย่างชัดเจนเมื่อสะท้อนกับแสงอาทิตย์ เน้นให้เห็นถึงองค์ประกอบการออกแบบอันละเอียดอ่อนของ Droptailมากยิ่งขึ้น
ขณะที่การออกแบบภายนอกของ Rolls-Royce Arcadia Droptailจะเน้นไปที่รูปลักษณ์โดยรวมของรถ ห้องโดยสารก็ได้รับการปรับแต่งให้สะท้อนถึงความชอบและรสนิยมส่วนบุคคล มีรูปแบบเฉพาะตัว เพื่อให้ตรงกับสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของลูกค้า เหมือนกับที่ลูกค้าตั้งใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดอย่างพิถีพิถัน ให้กับบ้านและสถานที่ทำงานของตน การเลือกสีและวัสดุสำหรับ Arcadia Droptailได้รับการวางแผนมาโดยเฉพาะ เมื่อมองเห็นแล้วสามารถระบุได้ทันทีว่ารถคันนี้เป็นของใคร เปรียบเสมือนเป็นลายเซ็นประจำตัวของผู้ครอบครอง กระบวนการพัฒนาและตกแต่งด้วยไม้ภายในห้องโดยสารของ Arcadia Droptailนับเป็นส่วนสำคัญในการออกแบบและเป็นความต้องการของลูกค้า ซึ่งมีความคาดหวังที่ชัดเจนเกี่ยวกับรูปลักษณ์และความรู้สึก โดยให้ความใส่ใจกับรายละเอียดอย่างใกล้ชิด เช่น พื้นผิว ลายไม้ สี และคุณภาพ นอกจากนี้ ลูกค้ายังได้แบ่งปันตัวอย่างของงานสถาปัตยกรรม รูปแบบการตกแต่งที่พักอาศัย รวมถึงรถคลาสสิกที่ชอบ เพื่อช่วยให้นักออกแบบและผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุของ โรลส์-รอยซ์เข้าใจถึงวิสัยทัศน์ของตน
ไม้ Santos Straight Grain (ซานโตส ลายตรง) ได้รับเลือกให้นำมาใช้ในงานออกแบบครั้งนี้ ด้วยเนื้อสัมผัสที่หรูหราและรูปลักษณ์ที่น่าสนใจ มีลายไม้ที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เข้ากันได้อย่างลงตัวผ่านความละเมียดละไมในการออกแบบการนำไม้เนื้อแข็งความหนาแน่นสูงมาตกแต่งห้องโดยสารของ Droptailนับเป็นความท้าทายครั้งสำคัญ สำหรับช่างฝีมือของ โรลส์-รอยซ์ ไม้ Santos Straight Grain มีเนื้อละเอียดมาก สามารถฉีกขาดหรือแตกร้าวได้ง่าย หากไม่ระมัดระวังในระหว่างกระบวนการการตัด (เกิดรอยแตกขนานไปกับเส้นลายไม้) หรือระหว่างกระบวนการทำให้แห้ง แม้การทำงานกับวัสดุที่บอบบางจะเป็นเรื่องยาก แต่ไม้ Santos Straight Grain ก็ถูกนำมาตกแต่งในหลายส่วนของ Droptailรวมถึงส่วนท้ายที่ได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ เพื่อสมรรถนะที่ดียิ่งขึ้น โดยใช้แผงไม้จัดเรียงไม้ทำมุม 55 องศา อย่างแม่นยำ และเพื่อให้แน่ใจว่าการตกแต่งด้วยไม้มีความสมบูรณ์แบบ สำหรับรูปทรงที่ซับซ้อน ช่างฝีมือของ โรลส์-รอยซ์ ใช้ไม้ทั้งหมด 233 ชิ้นใน Arcadia Droptailโดย 76 ชิ้นถูกใช้กับส่วนท้ายของรถ
เนื่องจาก Arcadia Droptailจะถูกนำไปใช้งานในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงพื้นที่ในเขตร้อน จึงได้รับการดูแลเป็นพิเศษเพื่อปกป้องพื้นผิวไม้ภายนอก ในตอนแรก เทคนิคการเคลือบพื้นผิวที่ใช้กับเรือยอทช์ได้ถูกนำมาพิจารณา แต่ถูกปฏิเสธ เนื่องจากวิธีนี้จำเป็นต้องบำรุงรักษาบ่อยครั้ง แทนที่จะใช้สารเคลือบที่ใช้กันทั่วไปบนเรือยอชท์สุดหรู แลคเกอร์แบบพิเศษได้ถูกสร้างขึ้นสำหรับ Arcadia Droptailโดยเฉพาะ การเคลือบไม้ด้วยแลกเกอร์นี้เพียงครั้งเดียวสามารถปกป้องพื้นผิวไม้ตลอดอายุการใช้งานเพื่อให้มั่นใจว่าแลคเกอร์ทำหน้าที่ในการปกป้องได้เป็นอย่างดี ผู้เชี่ยวชาญของ โรลส์-รอยซ์ ได้ทำการทดสอบพิเศษ
โดยเก็บตัวอย่างแผงไม้ที่ผ่านกระบวนการเลียนแบบสภาพอากาศสุดขั้วแบบต่างๆ รวมไปถึงการพ่นน้ำใส่ตัวไม้เป็นช่วงๆ ปล่อยให้แห้งในที่มืด จากนั้นจึงให้สัมผัสกับความร้อนและแสงสว่างมีการทดสอบด้วยกระบวนการนี้กับ 18 ตัวอย่างที่แตกต่างกัน ใช้เวลาในการทดสอบกว่า 1,000 ชั่วโมง ก่อนที่ผู้เชี่ยวชาญของ โรลส์-รอยซ์ จะพึงพอใจกับอายุการใช้งานของไม้และสารเคลือบ โดยรวมแล้วทีมงานใช้เวลากว่า 8,000 ชั่วโมง ในการพัฒนาชิ้นไม้และสารเคลือบป้องกันเพื่อ อายุการใช้งานที่ยาวนานและยั่งยืน
หนังแท้ถูกสั่งทำขึ้นเป็นพิเศษ ประกอบไปด้วยสีพิเศษสองเฉดสี ที่ได้รับการตั้งชื่อตามลูกค้า และสงวนไว้เพื่อใช้สำหรับผู้ครอบครอง สีหลักคือ สีขาวอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับสีตัวถัง ในขณะที่อีกสีหนึ่งคือสีแทน (tan) สั่งทำขึ้นเป็นพิเศษและเข้ากันได้อย่างลงตัวกับไม้ที่เลือกใช้การตกแต่งด้วยไม้อย่างประณีตงดงามปรากฏให้เห็นในรถรุ่น Droptailทั้งสี่คัน ซึ่งเป็นการตกแต่งด้วยไม้ชิ้นเดียวขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในรถยนต์ โรลส์-รอยซ์ โดยใน Arcadia Droptailแผ่นไม้นี้ทำจากไม้ชนิดเดียวกับแผงไม้บนส่วนท้ายของรถ มีลวดลายที่เข้ากันและทำมุม 55 องศา เช่นเดียวกัน ลวดลายบนแผ่นไม้ดำเนินต่อเนื่องอย่างไร้รอยต่อไปยังขอบประตู สร้างรูปลักษณ์ที่กลมกลืนทั่วห้องโดยสาร มีการใช้ซอฟต์แวร์ออกแบบ (CAD) เพื่อคำนวณว่าจะวางไม้แต่ละชิ้นไว้ในตำแหน่งใด แม้ว่าจะดูเหมือนว่าทำมาจากแผงไม้ 2 ชิ้นที่เหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้วแผงไม้นี้มีองค์ประกอบย่อยถึง 40 ส่วน แต่ละส่วนได้รับการวางแผนอย่างรอบคอบด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ก่อนจะติดตั้งกับรถในการติดตั้งไม้ลงบนส่วนโค้งในห้องโดยสารของ Droptailวิศวกรของ โรลส์-รอยซ์ ต้องสร้างฐานรองรับ สำหรับส่วนประกอบบางชิ้น โดยรูปทรงของแผงหน้าปัด ขอบประตู และที่วางแขนตรงกลางจะต้องมีความแข็งแรงเพื่อให้ชิ้นไม้มีความมั่นคงเมื่อประกอบเข้าด้วยกัน วิศวกรใช้เทคนิคการซ้อนชั้นคาร์บอนไฟเบอร์ที่ใช้กับรถแข่งฟอร์มูล่าวัน เพื่อสร้างฐานที่แข็งแกร่ง สามารถรองรับส่วนประกอบที่เป็นไม้ ให้ยึดกับฐานได้อย่างมั่นคง แม้ขณะรถเคลื่อนด้วยความเร็วสูง หรือขับบนเส้นทางขรุขระ
บนแผงหน้าปัดที่ประกอบขึ้นจากไม้ มีนาฬิกาที่สั่งทำขึ้นเป็นพิเศษฝังอยู่ ผลิตโดยนักออกแบบและช่างฝีมือของ โรลส์-รอยซ์ นี่คือ นาฬิกาที่มีความซับซ้อนที่สุด เท่าที่ โรลส์-รอยซ์ เคยสร้าง โดยใช้เวลาถึงห้าเดือนในการประกอบ หลังผ่านกระบวนการวางแผนและออกแบบนานกว่าสองปีนาฬิกาถูกออกแบบโดยใช้เทคนิคกิโยเช (Guilloché) เรขาคณิตบนพื้นผิวโลหะพร้อมหน้าตัด 119 ด้าน การออกแบบผลงานชิ้นนี้ นับเป็นการเชิดชูประวัติศาสตร์อันยาวนานของอโรลส์-รอยซ์ เนื่องจากลูกค้าได้ยลโฉมรถยนต์คันนี้ในปี ค.ศ. 2023 ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ซึ่งตรงกับการเฉลิมฉลองครบรอบ 119 ปีของโรลส์-รอยซ์ หน้าปัดนาฬิกาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมีเข็มนาฬิกาที่มีความแวววาว โดยมีตัวบอกตำแหน่งชั่วโมง หรือหลักชั่วโมง 12 ตำแหน่ง แต่ละตัวมีความหนาเพียง 0.1 มม. และเพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาอ่านได้โดยง่าย ผู้เชี่ยวชาญได้เพิ่มขีดขนาดเล็กไว้ที่ตำแหน่งชั่วโมงทั้ง 12 จุด แล้วทำการลงสีมาร์กเกอร์แต่ละชิ้นด้วยมืออย่างระมัดระวัง โดยใช้กล้องแบบพิเศษที่สามารถขยายภาพได้สูงสุดถึง 100 เท่าแม้จะมีการใช้เทคนิคขั้นสูงที่พบได้ในการผลิตนาฬิกาที่มีคุณภาพระดับสูงสุด แต่ โรลส์-รอยซ์ ยังคงใช้มาตรฐานที่เข้มงวดในการทดสอบ และทำให้แน่ใจว่าทุกส่วนทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยเหตุนี้ ผู้เชี่ยวชาญของ โรลส์-รอยซ์ จึงต้องใช้วัสดุและเทคนิคที่หลากหลาย เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานระดับสูงสุด ตัวอย่างเช่น แทนที่จะใช้วิธีการทั่วไปอย่างการอโนไดซ์หลักนาทีบนหน้าปัดนาฬิกา ทีมงานเลือกใช้การเคลือบเซรามิก เนื่องจากมีความเสถียรและคงความงามได้ยาวนาน มีการใช้เลเซอร์เพื่อกำจัดเศษของสารเคลือบ เผยให้เห็นอะลูมิเนียมมันวาวที่อยู่ด้านล่าง ทุกส่วนของนาฬิการวมถึงอักษรย่อตัว ‘R’ คู่ ผลิตจากสเตนเลสสตีล และขัดเงาด้วยมือก่อนนำมาประกอบเข้ากับตัวเรือนการออกแบบและสไตล์ที่ใช้ในนาฬิกา ถูกนำไปใช้กับแผงหน้าปัดของรถด้วยเช่นกัน ใช้วัสดุ เทคนิค และวิธีการสร้างแบบเดียวกัน ดังนั้น ตัวนาฬิกาและแผงหน้าปัดรถยนต์จึงมีรูปลักษณ์และการใช้งานที่คล้ายคลึงกัน ตัวอย่างเช่น ทั้งนาฬิกาและแผงหน้าปัดมีลวดลายที่ใช้เทคนิคกิโยเช (Guilloché) รวมถึงชิ้นส่วนที่เป็นโลหะขัดเงา และมีส่วนที่ใช้สีขาวซึ่งเข้ากับโทนสีของรถแสดงออกถึงไลฟ์สไตล์ที่เป็นสากล
เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้ครอบครองที่มีการเดินทางไปทั่วโลก รถรุ่นนี้จึงถูกผลิตขึ้นโดยมีพวงมาลัยอยู่ทางซ้ายเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งานในต่างประเทศ ลูกค้าให้ความสำคัญกับความเป็นสากลในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จนทีม Coachbuild Collective ได้จัดให้มีการสัมผัสประสบการณ์การใช้รถในสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกก่อนที่จะลงมือผลิตรถคันนี้ โดยใช้ระบบ VR แบบพิเศษที่เรียกว่า ‘holodeck (โฮโลเด็ค)’ เพื่อจำลองสถานการณ์ ลูกค้าเพียงต้องสวมแว่น VR แบบพิเศษเพื่อดูว่ารถจะมีลักษณะเป็นอย่างไรเมื่ออยู่ในสถานที่ต่างๆ ทั่วโลกลูกค้า โรลส์-รอยซ์ แต่ละท่านมีความต้องการที่แตกต่างกันไป และเข้าใจดีถึงสิ่งที่ตนต้องการ ความปรารถนาของลูกค้าท่านนี้ชัดเจนตั้งแต่แรกเริ่ม อย่างไรก็ตาม การแปลงความชอบส่วนบุคคลที่มีรายละเอียดซับซ้อนเหล่านี้ ให้กลายมาเป็นงานออกแบบที่ใช้งานได้จริง ต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก กระบวนการสร้างสรรค์แบบ Coachbuildใช้เวลากว่าสี่ปี และต้องอาศัยความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างลูกค้าและ โรลส์-รอยซ์ ในการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ทรงคุณค่านักออกแบบที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ Coachbuildใช้เวลาหลายเดือนในการศึกษาอย่างรอบคอบ และทำความเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าในด้านต่างๆ ของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความชอบในเรื่องเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เฟอร์นิเจอร์ อาหาร และสถานที่ท่องเที่ยว จากการวิเคราะห์ความชอบและประสบการณ์ของลูกค้า ผู้ออกแบบได้สร้างสรรค์สไตล์ที่สะท้อนถึงสิ่งเหล่านี้ โดยได้รับการพัฒนาด้วยความเชี่ยวชาญของทีมงานออกแบบ ผสมผสานกับความเข้าใจและการตัดสินใจอย่างมืออาชีพ เพื่อสร้างสุนทรียศาสตร์ที่แท้จริงสำหรับลูกค้า ซึ่งสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บุตรสาวของลูกค้า ได้เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการออกแบบครั้งนี้ เมื่อการออกแบบขั้นสุดท้ายเสร็จสิ้น ตัวแบบได้ถูกนำเสนอต่อครอบครัวของลูกค้า โดยทุกคนเห็นพ้องว่าการออกแบบสะท้อนถึงสไตล์และบุคลิกภาพของลูกค้าได้เป็นอย่างดีลูกค้ารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ความชอบและเอกลักษณ์ของตนถูกสะท้อนออกมาให้เห็นในการออกแบบ กระบวนการเหล่านี้ทำให้ค้นพบว่าลูกค้ามีสไตล์ที่ทันสมัยมากกว่าที่คิด เน้นความเรียบง่าย เลือกใช้วัสดุที่เป็นธรรมชาติ และให้ความใส่ใจในรายละเอียด โดยการออกแบบ Arcadia Droptailได้กลายมาเป็นต้นแบบสำหรับโครงการในอนาคต ระหว่างลูกค้ากับสถาปนิกและแบรนด์อื่นๆ
การออกแบบของ Rolls-Royce Droptailแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมของลูกค้า วิสัยทัศน์ที่ชัดเจน และความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับ โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส ลักษณะที่สำคัญของ Rolls-Royce Droptailคือ การออกแบบ ที่หรูหราแต่ยังคงไว้ซึ่งความเรียบง่าย รวมถึงความสามารถอันยอดเยี่ยมของทีมนักออกแบบ Rolls-Royce Coachbuild ในการทำความเข้าใจ และสะท้อนให้เห็นถึงสไตล์และตัวตนของบุคคล ผ่านการออกแบบที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด