บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ประกาศความสำเร็จอีกครั้งด้วยผลการดำเนินงานในภาพรวมประจำปี พ.ศ. 2566 ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมยอดจดทะเบียนที่แข็งแกร่งทั้งในกลุ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและกลุ่ม Luxury Class ตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดรถยนต์พรีเมียมของประเทศไทยติดต่อกันเป็นปีที่ 4 ทั้งนี้ ความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลมาจากแนวทางในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่อนาคตแห่งยนตรกรรมที่ยั่งยืน ด้วยการลงทุนในนวัตกรรมยานยนต์ที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับประสบการณ์การขับขี่ที่ล้ำสมัยให้แก่ลูกค้าชาวไทย พร้อมนำเสนอการบริการที่เหนือระดับและการดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกมิติ โดยรถยนต์ทั้งสองแบรนด์มียอดจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 15,477 คัน เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อนหน้า แบ่งเป็นบีเอ็มดับเบิลยู 14,128 คัน และมินิ 1,349 คัน
นอกจากนี้ ในปี พ.ศ. 2566 บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระดับโลก ด้วยยอดขายบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และโรลส์รอยซ์ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ คิดเป็นยอดส่งมอบรวม 2,555,341 คันทั่วโลก เติบโตขึ้น 6.5% โดยรถยนต์ในกลุ่มพลังงานไฟฟ้า 100% มียอดขายเติบโตขึ้นถึง 74.4% จากปี พ.ศ. 2565 คิดเป็นยอดส่งมอบทั่วโลกรวม 376,183 คัน สะท้อนถึงความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ตอบรับเทรนด์พลังงานสะอาดที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ซึ่งทางบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป มองว่าเทรนด์ความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ในหมู่ผู้ใช้งานจะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไป และคาดการณ์ว่าจะทำยอดขายได้กว่า 500,000 คัน ในปี พ.ศ. 2567 นี้ ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่โดดเด่นในปี พ.ศ. 2566 ตอกย้ำบทบาทของบริษัทในฐานะผู้บุกเบิกด้านยานยนต์ไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญ