การแข่งรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลก ฟอร์มูล่า อี (ABB FIA Formula E World Championship) ฤดูกาลที่ 10เปิดฉากประลองความเร็วในวันที่ 13 มกราคม 2567 ที่เม็กซิโกซิตี้ อี-ปรีซ์ (Mexico City E-Prix)มาเซราติ มีความภาคภูมิใจ ในการเป็นผู้ผลิตยนตรกรรมสุดหรูจากอิตาลีเพียงรายแรกและรายเดียวในปัจจุบัน ที่ได้ส่งรถยนต์ไฟฟ้าลงแข่งในรายการ ที่นับว่ามีนวัตกรรมล้ำสมัยที่สุดของวงการมอเตอร์สปอร์ต
หลังการประกาศรายชื่อนักแข่งในฤดูกาลแข่งปี 2567 ช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา นำโดย ’แม็กซิมิเลียน กุนเธอร์’ และน้องใหม่ ‘เยฮาน ดารูวาลา’ ทีม มาเซราติ เอ็มเอสจี เรสซิ่ง (Maserati MSG Racing) ก็กำลังเตรียมความพร้อมเพื่อเผชิญทุกความท้าทายในการแข่งรถยนต์ไฟฟ้าที่นั่งเดี่ยวระดับโลกปีที่ผ่านมา มาเซราติ เอ็มเอสจี เรสซิ่ง มีคะแนนสะสมอยู่ในระดับท็อปเท็นมาตลอด และจบฤดูกาลอย่างงดงามในอันดับที่ 6 ได้ขึ้นโพเดียมถึง 3 ครั้ง พร้อมคว้าแชมป์ประจำสนามที่จาการ์ตาด้วยฝีมือของแม็กซ์ และอันดับ 3 ที่กรุงโรม นับว่าผลงานของนักแข่งชาวเยอรมันคนนี้ สร้างความประทับใจให้สาวกค่ายตรีศูลได้ตามคาด
ปีนี้จะเป็นปีที่ มาเซราติ ทุ่มเทในการพิชิตเป้าหมายใหม่ที่ท้าทายยิ่งขึ้น รวมถึงการให้ความสำคัญด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี การหวนคืนสู่สนามแข่งไม่เพียงเป็นการตอกย้ำความยิ่งใหญ่ในวงการแข่งรถยนต์ แต่เป็นการบันทึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับยนตรกรรมในสายพันธุ์ ฟอลกอเร (Folgore) ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน พร้อมตั้งเป้าภายในปี 2568 มาเซราติ ทุกสายพันธุ์ จะมีรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนเป็นทางเลือกการเพิ่มสนามใหม่ คือ โตเกียว และ เซี่ยงไฮ้ ส่งผลให้ ฟอร์มูล่า อี ฤดูกาลที่ 10 มีจำนวน 17 สนาม ซึ่งนับว่ามากสุดเท่าที่เคยมี ส่วนการแข่งขันในโรม จะจัดขึ้นที่ มิซาโน อาเดรียติโค เซอร์กิต (Misano Adriatico Circuit)ซึ่งจะกลายเป็นสนามเหย้าของแฟนๆ ค่ายตรีศูลและแฟนพันธุ์แท้มอเตอร์สปอร์ตทั่วโลก