มร.มาซาฮิโกะ มาเอดะ เจ้าหน้าที่บริหารภูมิภาคเอเชีย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับ มร.โยชิกิ โคนิชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และ ดร.จุฬชาติ จงอยู่สุข หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค บริษัท โตโยต้าไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด พร้อมด้วย นายกลินท์ สารสิน ประธานคณะกรรมการ มร.โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ นายสุรภูมิ อุดมวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมด้วย นางชื่นกมล ทัพพะรังสี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมเปิดตัว “ALL NEW HILUX CHAMP” รถกระบะมหาชนขวัญใจคนไทยรุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมการสร้างประสบการณ์ในการซื้อแบบใหม่ให้แก่ลูกค้า ด้วยการนำเสนอโซลูชั่นในการดัดแปลงตัวรถได้หลากหลายรูปแบบ ตอบโจทย์ทุกการใช้งานทั้งในเชิงธุรกิจ และการใช้งานส่วนบุคคล เพื่อให้ทุกโอกาสเป็นไปได้ เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ศกนี้ ที่ TOYOTA ALIVE บางนา
มร. โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัดกล่าวแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า “นับตั้งแต่เปิดตัว IMV รุ่นแรกเมื่อปี พ.ศ. 2547 ได้มีการส่งมอบรถ IMV ให้กับลูกค้าชาวไทยแล้วจำนวนทั้งสิ้นกว่า 2.7 ล้านคัน โดยผู้ใช้จำนวนมากมีประสบการณ์ และความทรงจำที่ดีกับโครงการ IMV ลูกค้าชาวไทยแต่ละคนจึงมีเรื่องราวเป็นของตัวเองด้วยรถ IMV ที่ปรับแต่งตามไลฟ์สไตล์การใช้งานของตน ด้วยเหตุผลนี้รถ IMV จึงได้รับการหล่อหลอมให้เป็น “รถอันเป็นที่รัก” ที่ถักทอ “เรื่องราวต่างๆ ที่น่าจดจำ” เอาไว้อย่างมากมายนอกจากประสบความสำเร็จด้วยการขายภายในประเทศแล้ว เราได้ส่งออกรถในโครงการ IMV กว่า 4 ล้านคัน ไปจำหน่ายยังประเทศอื่นๆ กว่า 120 ประเทศ ด้วยการใช้ชิ้นส่วนการผลิตภายในประเทศ โครงการ IMV จึงสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ และสร้างงานให้แก่คนไทย ผมเชื่อว่าด้วยความไว้วางใจจากลูกค้าชาวไทยในโครงการ IMV และแบรนด์โตโยต้า พร้อมด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลไทย จนโครงการ IMV ถูกขนานนามว่า “รถกระบะมหาชน” และได้สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนไทยกับโตโยต้า ผมจึงขอแสดงความขอบคุณต่อทุกท่านนอกจากนี้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เรามีการตรวจสอบให้แน่ใจว่า รถกระบะ IMV 0 จะสามารถนำความสุข มาสู่คนไทยได้อย่างแท้จริง และนั่นคือเหตุผลที่ทีมงานพัฒนา IMV 0 ใช้เวลาหลายเดือนในการร่วมมือกับผู้แทนจำหน่ายในแต่ละภูมิภาค เพื่อสังเกตไลฟ์สไตล์ และความต้องการของผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นเจ้าของรถกระบะคันนี้”
มร.อากิโอะ โตโยดะ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ได้กล่าวเมื่อเริ่มต้นโครงการ IMV 0 ว่า “โปรเจ็กต์ใหม่นี้ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนรุ่นใหม่ของ IMV เท่านั้น แต่มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้อนาคตของเราดีขึ้น และสดใสยิ่งขึ้นไปพร้อมกับคนไทย” ด้วยคำพูดนี้ทำให้การพัฒนา IMV 0 กลับสู่แนวคิดเดิมของ IMV อีกครั้ง และตั้งชื่อรถรุ่นนี้ว่า “HILUX CHAMP” เพื่อแสดงถึงเจตจำนงค์อันคืนสู่ความยอดเยี่ยมจากจุดกำเนิดของ “HILUX VIGO CHAMP”หลังจากที่ มร.อากิโอะ โตโยดะ ได้นำเสนอแนวคิดของโครงการ IMV 0 เมื่อปีที่ผ่านมา รถต้นแบบ IMV 0 ได้ถูกนำไปใช้เป็น Pace Car ในการแข่งขัน Endurance Race บุรีรัมย์ 25 ชั่วโมง และมีการเปิดตัวในอินโดนีเซีย ต่อด้วยฟิลิปปินส์ จากนั้นจึงนำไปแสดงในงาน Japan Mobility Show เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างล้นหลาม เนื่องจากเป็นรถที่สามารถสร้างอนาคตให้กับโลกได้ และเพื่อเติมเต็มแนวคิด IMV 0 ให้สมบูรณ์ จึงได้มีการร่วมมือกับผู้ประกอบการดัดแปลงรถยนต์ในประเทศจำนวนมาก ซึ่งได้เข้าร่วมงานเปิดตัว อย่างเป็นทางการในวันนี้ด้วย โดยตั้งเป้าที่จะพัฒนารถดัดแปลงต่างๆ ร่วมกัน ตั้งแต่ขั้นตอนการพัฒนารถยนต์จึงเป็นความท้าทายใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ดร.จุฬชาติ จงอยู่สุข หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค บริษัท โตโยต้าไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด กล่าวถึงการพัฒนา “ALL NEW HILUX CHAMP” ว่า “จากการลงพื้นที่สอบถามกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย IMV 0 ประมาณ 130 ราย และ ผู้ประกอบการดัดแปลงรถยนต์หลักๆ 10 บริษัท เพื่อให้เข้าใจลักษณะการใช้งานรวมทั้งความต้องการลูกค้า เมื่อนำผลที่ได้มาเปรียบเทียบกับ HILUX Revo B-cab ซึ่งเป็นรุ่นที่ประสบความสำเร็จ และได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนาน สำหรับลูกค้าที่เคยใช้งาน HILUX Revo B-cab ส่วนใหญ่เน้นไปที่การบรรทุกหนัก พร้อมฟังก์ชั่นสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ รวมถึงขนาดของเครื่องยนต์ที่ใหญ่กว่า เหมาะสมกับการใช้งานในระยะทางไกล ดังนั้น HILUX CHAMP ภายใต้โปรเจกต์IMV 0 หรือ “Innovative International Multi-purpose Vehicle Zero” จึงได้รับการพัฒนา และออกแบบให้แตกต่าง โดยเน้นที่ความเข้าใจลักษณะการใช้งาน และความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก โดยจะเน้นเรื่องกระบะพื้นเรียบเหมาะกับการบรรทุกเบา และการดัดแปลงที่ง่ายกว่า เพื่อให้ตรงกับลักษณะการใช้งาน ธุรกิจของลูกค้า และการติดตั้ง Accessory เพิ่มเติมเพื่อใช้ในกิจกรรมวันว่างอีกด้วย”
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวถึงแผนการตลาดสำหรับรถรุ่นนี้ว่า จุดเด่นของ “HILUX CHAMP” นอกเหนือจากกระบะพื้นเรียบ แบบเปิดได้ 3 ทางแล้ว โครงสร้างรถที่ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “Monozukuri” หรือ “Easy for Conversion” จึงทำให้ “HILUX CHAMP เป็นโซลูชั่นในอุดมคติสำหรับภาคธุรกิจ หรือ Start up นอกจากนี้ยังสามารถนำไปตกแต่ง หรือต่อเติมให้เข้ากับกิจกรรมสันทนาการ ได้หลากหลายไลฟ์สไตล์เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สนองความต้องการของลูกค้าชาวไทยให้ได้มากที่สุด ทีมวิศวกรของเราได้ร่วมทำงาน และรับฟังมุมมองเชิงลึกจากผู้ประกอบการดัดแปลงรถยนต์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ รวมไปถึงปัญหาที่ประสบในปัจจุบัน เพื่อนำมาแก้ไขใน HILUX CHAMP และพัฒนาเป็นโครงสร้างการดัดแปลงที่ง่าย เพื่อให้ผู้ประกอบการดัดแปลงรถยนต์สามารถดัดแปลง HILUX CHAMP ในระยะเวลาที่สั้น และต้นทุนที่ต่ำลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อลูกค้าผู้ใช้งาน ที่จะมีรายได้เพิ่มขึ้นในที่สุดนอกจากนั้น ยังจัดทำเป็นคู่มือการดัดแปลงรถ และส่งไปยังผู้ประกอบการดัดแปลงรถยนต์ทั่วประเทศเพื่อให้ศึกษาถึง HILUX CHAMP ล่วงหน้า ทำให้เราแน่ใจว่าทั้งกระบวนการ และอุปกรณ์ดัดแปลงที่ผู้ประกอบการฯ จะมีความพร้อมสำหรับการเปิดตัวของ HILUX CHAMP โดยขณะนี้มีผู้ประกอบการดัดแปลงรถยนต์มากกว่า 100 แห่งเริ่มเตรียมความพร้อมแล้ว”
นายศุภกร กล่าวเพิ่มเติมด้านช่องทางการขายว่า “ในครั้งนี้ เราอยากให้ลูกค้า HILUX CHAMP ได้พบประสบการณ์การซื้อในรูปแบบใหม่ที่รวมครบจบในที่เดียว เราจึงขอนำเสนอวิธีการขายแบบ One Stop Service ผ่านผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศเพื่อให้บริการแบบครบวงจร โดยเราได้รวบรวมรายชื่อผู้ประกอบการดัดแปลงทั้งในเว็บไซต์เรียกว่า “Conversion Portal” และจัดเตรียมไดเร็กทอรีสำหรับพนักงานขาย ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลผู้ประกอบการดัดแปลงรถยนต์ ข้อมูลผลิตภัณฑ์รถดัดแปลง แพ็คเกจการขาย ราคาประมาณการ และการคำนวณราคาเช่าซื้อ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าได้รับความสะดวกจากการคำนวณต้นทุนการดัดแปลงเบื้องต้น และหลังจากนั้น เมื่อลูกค้าสามารถตัดสินใจเลือกซื้อส่วนดัดแปลงได้แล้ว เรายังสามารถรวมค่าใช้จ่ายของส่วนดัดแปลงนั้นๆ ลงในยอดจัดได้สูงสุดถึง 350,000 บาทอีกด้วย”
นายศุภกร กล่าวถึงการสนับสนุน SME ของไทยว่า “นอกจากการจำหน่ายรถแล้ว เรายังมีแนวคิดในการนำเสนอโซลูชั่นทางธุรกิจแบบครบวงจร เช่น ลูกค้าที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจสามารถซื้อ HILUX CHAMP พร้อมแฟรนไชส์ได้ ในปีหน้าลูกค้าที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจกาแฟเป็นของตัวเอง โตโยต้ามีแฟรนไชส์ “TOGETA” ที่มาพร้อมกับ HILUX CHAMP นอกจากนี้ เรากำลังศึกษาการร่วมมือกันระหว่าง แบรนด์ แฟรนไชส์ ชั้นนำ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า ในการเลือกธุรกิจของตัวเองได้กว้างขึ้น มีตัวเลือกมากขึ้นโดยมุ่งเน้นการสนับสนุนแฟรนไชส์ท้องถิ่น ในการขยายธุรกิจ ผ่านเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า ร่วมมือกับแบรนด์แฟรนไชส์ชั้นนำในการทำแพ็คเกจ “Ready to start business” สำหรับลูกค้า HILUX CHAMP ซึ่งในปีหน้าพนักงานขายของเราจะสามารถนำเสนอการให้บริการแบบครบวงจรที่พร้อมทางเลือกในการเริ่มต้นธุรกิจได้หลากหลาย ไม่เพียงแต่ลูกค้าบุคคลเท่านั้น HILUX CHAMP พร้อมตอบความต้องการของลูกค้าในรูปแบบบริษัท ด้วยการอำนวยความสะดวกในการดัดแปลงรถให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า อย่างเช่นต้นแบบของรถกาแฟอเมซอน ที่พัฒนาร่วมกับ PTTOR และพันธมิตร MKC จากทั้งผลิตภัณฑ์ HILUX CHAMP เองรวมไปถึงกิจกรรมทั้งหมดจะเห็นได้ว่า โตโยต้าไม่ได้ต้องการเป็นเพียงแค่ผู้จำหน่ายรถ แต่เราอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโอกาสให้แก่คนไทยในการเริ่มต้น และต่อยอดธุรกิจ พร้อมทั้งเคียงข้างความสำเร็จของลูกค้าคนไทยทุกๆคน จึงเป็นที่มาของสโลแกน ALL NEW HILUX CHAMP ให้ทุกโอกาสเป็นไปได้”