บริษัท อีวี มี พลัส จำกัด ผู้ให้บริการยานยนต์ไฟฟ้า (EV) บนแพลตฟอร์มดิจิทัลแบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เดินหน้าแตกไลน์ธุรกิจจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อทดแทนแท็กซี่ที่ปลดระวางปีหน้า เปิดตัว ‘AION ES’ (ไอออน อีเอส) ยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ เจาะกลุ่มผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ บุคคลทั่วไป และผู้ขับแท็กซี่ เพื่อรุกตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่อย่างเต็มรูปแบบและพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างยั่งยืน สนองนโยบายภาครัฐในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ หรือ Net Zero โดยในวันนี้ (27 พ.ย. 2566) อีวี มี พลัส ได้เซ็นสัญญาลงนามความร่วมมือในการให้บริการ ‘AION ES’ อย่างครบวงจร ร่วมกับบริษัท ไอออน บริษัท โกลด์ อินทิเกรท และฟิต ออโต้ ที่ห้องประชุมชั้น 17 อาคารเอส โอเอซิส
‘AION ES Model เพื่อการขนส่งสาธารณะ’ ทางเลือกใหม่ของยานยนต์ไฟฟ้าที่ดีกว่า โดย อีวี มี พลัส ได้จับมือกับ AION ในการนำรถ EV ‘AION ES Model เพื่อการขนส่งสาธารณะ มาตอบโจทย์การใช้งานของผู้ขับขี่แท็กซี่ในเมืองไทยอย่างลงตัว มาพร้อมบริการหลังการขายครบวงจร ด้วยการผนึกความร่วมมือกับ FIT Auto เพื่อให้บริการซ่อมบำรุง และจับมือศูนย์บริการแท็กซี่ในท้องถิ่น ร่วมกับอู่แท็กซี่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในการให้บริการซ่อมบำรุงหนักสำหรับรถรุ่นนี้ นอกจากนี้ อีวี มี พลัส ได้ทำการศึกษา และเล็งเห็นถึงโอกาสในการนำ ระบบ Smart Taxi มาติดตั้ง ทั้งมิเตอร์ ระบบ GPS และป้ายไฟแท็กซี่ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่อัจฉริยะปลอดภัย และสร้างความสะดวกสบายให้กับทั้งผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร พร้อมกันนี้ อีวี มี พลัส ยังมอบสิทธิพิเศษในการ ขยายระยะเวลาการรับประกันแบตเตอร์รี่ (Extended Battery Warranty) กับรถรุ่นนี้ โดยเฉพาะ พร้อมทั้งยังมีสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า “Charge hub” เพื่อรองรับการชาร์จไฟให้แก่ทั้ง Taxi EV และ รถ EV อื่นๆ ภายใต้ความร่วมมือและการร่วมทุนระหว่างบริษัท โกลด์ อินทิเกรท และบริษัท ไอออน เอเนอร์จี
การใช้รถยนต์ที่เป็นพลังงานสะอาดยังไม่แพร่หลายในปัจจุบัน โดยเฉพาะในภาคการบริการขนส่งสาธารณะอย่างรถแท็กซี่ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตามกฎหมาย 9 ปี และมีจำนวนปลดระวางเฉลี่ยปีละ 6,000คัน อีวี มี พลัส จึงได้มีการศึกษากลุ่มผู้ใช้งานรถแท็กซี่ในโครงการพบว่า รถแท็กซี่ส่วนใหญ่มีการปล่อยก๊าซเฉลี่ยปีละ 6 ตัน ต่อคัน และปัจจุบันมีรถแท็กซี่ที่จดทะเบียนในระบบขนส่งกว่า 85,000 คัน ทำให้ภาคส่วนนี้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากกว่าปีละ 500,000 ตัน นอกจากนี้ ต้นทุนค่าพลังงานของผู้ใช้รถแท็กซี่ยังมีอัตราสูง โดยต้นทุน NGV ประมาณกิโลเมตรละ 1.2 บาท และต้นทุน LPG ประมาณกิโลเมตรละ 1.8 บาท ทั้งนี้ หากมองต้นทุนค่าไฟของ EV แล้วอยู่ที่กิโลเมตรละ 0.75-1 บาท ซึ่งมีราคาถูกกว่าพลังงานอื่น ๆ
‘AION ES Model เพื่อการขนส่งสาธารณะ’ เป็น EV ซีดาน 4 ประตู 5 ที่นั่ง โดดเด่นในเรื่องการดีไซน์สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย ตกแต่งด้วยโทนสีดำและเบาะหนังสีดำประหยัดพลังงาน พร้อมห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายอย่างจุใจ มีขนาดตัวถัง ยาว 4,810 มิลลิเมตร กว้าง 1,880 มิลลิเมตร สูง 1,545 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้อ 2,750 มิลลิเมตร ใช้แบตเตอรี่ Lithium-ion ขับเคลื่อนล้อหน้า กำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 225 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถวิ่งได้ไกลหลังจากชาร์จเต็มทำระยะทางสูงสุด 442 กิโลเมตร รองรับการชาร์จไฟกระแสสลับ AC รองรับสูงสุด 6.6 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จไฟ 0-100% ภายใน 6 ชั่วโมง และชาร์จไฟกระแสตรง DC รองรับสูงสุด 75 กิโลวัตต์ ชาร์จจาก 0-80% ภายใน 40 นาที พร้อมระบบความปลอดภัยอย่างครบวงจร รวมทั้งระบบ Cruise Controlราคา MSRP รวม VAT 850,000 บาทสำหรับลูกค้าทั่วไปราคาแท็กซี่เฉพาะ EVme 2,000 คันแรก929,900บาท
สำหรับผู้ประกอบการ ผู้ขับแท็กซี่ และผู้ที่สนใจสามารถติดตามการเปิดราคาพิเศษในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2023 ร่วมสัมผัส ‘AION ES Model เพื่อการขนส่งสาธารณะ’ พร้อมจองรถได้ที่ บูธ อีวี มี พลัส ณ อิมแพคชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี และยลโฉม ‘AION ES Model เพื่อการขนส่งสาธารณะ’ ได้ที่บูธ AION ระหว่างวันที่ 30 พ.ย. – 11 ธ.ค. 2566 พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดรับสมัครพันธมิตรในการให้บริการหลังการขาย สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจนำรถ Taxi ไปดำเนินธุรกิจต่อไป