Mercedes-Benz GLC ถือเป็นรถเอสยูวีขนาดกลางที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จด้วยยอดขายที่ดีทั่วโลก รถรุ่นนี้คือวิวัฒนาการของรถเอสยูวีขนาดกลางรุ่นแรกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่าง Mercedes-Benz GLK ที่ถูกปรับโฉมและพัฒนาให้ตอบโจทย์กับผู้บริโภคที่ต้องการยนตรกรรมเอสยูวีสุดหรูที่เหมาะกับการขับขี่ทั้งในรูปแบบ On Road และ Off Road โดยปัจจุบัน Mercedes-Benz GLC ในรหัสตัวถัง X254 ถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในรุ่น GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic มาพร้อมแนวคิด “READY FOR IT” ชูความโดดเด่นด้านการออกแบบที่หรูหราและมีสไตล์ นำเสนออีกขั้นของเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ล้ำสมัยเข้ากับยุคแห่งดิจิทัล สู่การเป็นยนตรกรรมสำหรับคนรุ่นใหม่ที่มองหารถเอสยูวีระดับลักชัวรี่ที่มีความเพียบพร้อมในทุกๆ ด้าน
GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic มาพร้อมดีไซน์ตามปรัชญาการออกแบบ Sensual Purity ที่ผสานความสปอร์ตและความหรูหราอย่างลงตัว มอบความสะดวกสบายด้วยมิติตัวถังขนาดความยาว 4,721 มม. ความกว้าง 1,918 มม. ความสูง 1,631 มม. ระยะฐานล้อ 2,888 มม. มีการดีไซน์พื้นที่บรรทุกสัมภาระใหม่แบบ Flat trunk floor ความจุสูงถึง 470 – 1,530 ลิตร ภายนอกตกแต่งด้วยชุดแต่ง AMG bodystyling
โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Star pattern กันชนหน้าดีไซน์ใหม่แบบ A-shape มาพร้อมไฟหน้าความละเอียดสูง 1.3 ล้านพิกเซล ติดตั้งเทคโนโลยียกระดับความปลอดภัยขั้นสูงแบบ DIGITAL LIGHT และ ULTRA RANGE Highbeamที่สามารถส่องสว่างไกลถึง 650 เมตร ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Adaptive Highbeam Assist Plus) และระบบปรับไฟหน้าตามองศาการเลี้ยวรถ (Cornering light) ทำงานผสานกันเพื่อให้ประสิทธิความปลอดภัยสูงสุด นอกจากนี้ยังเสริมความดุดันตามสไตล์รถ SUV ด้วยการตกแต่งด้วยราวหลังคาอลูมิเนียม เสริมบันไดข้างแบบสแตนเลสดีไซน์สปอร์ต รวมถึงล้ออัลลอยแบบ AMG 5-Twin Spoke ขนาด 20 นิ้ว ที่มาพร้อมช่วงล่างแบบ Comfort Suspension ให้การขับขี่ที่นุ่มนวลแบบมีระดับ
GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic ผสานขุมพลังการขับเคลื่อนในรูปแบบรถปลั๊กอินไฮบริดผ่านเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบ แบบ 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ และมอเตอร์ไฟฟ้า Permanently Excited Synchronous Machine มอบกำลังแรงม้ารวมสูงสุด 313 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 550 นิวตันเมตร มาพร้อมระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 6.7 วินาที ในด้านของแหล่งพลังงาน ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-Ion) แรงดันสูงที่มีความจุ 31.2 kWh ช่วยให้สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าได้ไกลมากกว่า 120 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP รองรับการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC Charge) สูงสุด 60 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 10 – 80% เพียง 20 นาที ส่วนการชาร์จแบบกระแสสลับ (AC Charge) รองรับสูงสุด 11 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 0 – 100% ในระยะเวลา 2 ชั่วโมง 45 นาที
ภายในห้องโดยสารตกแต่งแบบ AMG Interior Package ที่มอบ Mood & Tone สไตล์สปอร์ตแต่ยังคงความหรูหราตามแบบฉบับของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ติดตั้งเบาะหนังคู่หน้าแบบ Sport Seats ปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า 10 ทิศทางพร้อม memory seat 3 ตำแหน่ง และระบบดันหลัง 4 ทิศทาง แบบ Lumbar support
ในด้านแผงคอนโซลกลางใช้วัสดุแบบ High-Gloss Black สีดำเงา และ Metal Structure trim คอนโซลหน้าและแผงประตูหุ้มหนัง ARTICO man-made ตกแต่งลวดลายแบบ Nappa โดดเด่นด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันเจเนอเรชั่นที่ 5 ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ พร้อมหุ้มด้วยหนัง Nappa นอกจากนี้ยังมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับด้วยหลังคาพาโนรามิคซันรูฟ เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า ระบบเสียงรอบทิศทางแบบ Burmester® 3D surround sound system ที่ทรงพลังด้วยลำโพง 15 ตำแหน่ง ไฟตกแต่งห้องโดยสารแบบ Premium Ambient Lighting ปรับได้ 64 เฉดสี ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMOTRONIC ระบบฟอกอากาศแบบ ENERGIZING AIR CONTROL ระบบตรวจวัดระดับฝุ่นละออง PM 2.5 ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบ Wireless charging และฟังก์ชันอำนวยความสะดวกอีกหลายรายการที่ถูกติดตั้งมาอย่างครบครัน
GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic เป็นยนตรกรรมผสานระบบการเชื่อมต่อและการสื่อสารที่เหนือระดับในยุคดิจิทัลได้อย่างไร้รอยต่อ โดยมีการดีไซน์การใช้งานในรูปแบบ Digital cockpit เพิ่มความลงตัวในการควบคุมระบบต่างๆ ภายในรถ มาพร้อมการติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Digital Instrument cluster ขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอตรงกลางความละเอียดสูงขนาด 11.9 นิ้ว ควบคุมผ่านระบบสัมผัส ทำงานควบคู่กับ MBUX7 ที่สามารถเรียนรู้ผู้ใช้งานด้วยระบบ AI และปรับระบบการใช้งานให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล รวมถึงการประเมินสถานการณ์ต่างๆ เพื่อสร้างการเชื่อมต่อระหว่างระบบกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารมากยิ่งขึ้น ผสานการทำงานกับระบบ Mercedes me connect ในการเชื่อมต่อกับโลกของอินเทอร์เน็ตอย่างไร้ขีดจำกัด รองรับการสั่งงานด้วยเสียงถึง 27 ภาษา ทั้งยังปลอดภัยด้วยการเข้าใช้งาน User profile แบบ Fingerprint scanner ที่ใช้ลายนิ้วมือยืนยันผู้ใช้งานในตำแหน่งผู้ขับขี่ผ่านการเชื่อมข้อมูลใน Mercedes me PIN บนโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบแผนที่นำทางแบบ Hard-disc navigation แสดงผลแบบ 3 มิติ พร้อมระบบ MBUX Augmented Reality ที่ผสานเทคโนโลยี AR แสดงภาพสัญลักษณ์การนำทางบน Navigation display ที่แสดงภาพถนนจริง ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการนำทางมากยิ่งขึ้น
สำหรับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยของ GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic มีการติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานที่ครบครันตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมด้วยระบบความปลอดภัยแบบ Active Safety อาทิ ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE, ไฟเบรกกระพริบฉุกเฉิน (Adaptive brake light), ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST), ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Blind Spot Assist) พร้อมระบบแจ้งเตือนก่อนออกจากรถแบบ exit warning, ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ, ระบบรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, ระบบรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร, ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง (Tyre pressure loss warning system) นอกจากนี้ยังได้เสริมเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยขั้นสูงเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การขับขี่แบบออฟโรดในทุกเส้นทางด้วยการติดตั้ง OFF-ROAD Engineering Package สำหรับปกป้องตัวถังรูปแบบใหม่ที่แข็งแรงทนทานด้วยโครงสร้างแบบ underbody protection ควบคู่ไปกับหน้าจอแสดงผลที่สามารถรายงานทุกข้อมูลภายนอกตัวรถ
โดยมีกล้องรอบคัน 360° ที่ให้การแสดงผลแบบ Transparent bonnet ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นภาพจริงในจุดอับสายตาบริเวณหน้ารถ
รุ่น GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic
เครื่องยนต์ เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร / 4 สูบแถวเรียง / 4 วาล์วต่อสูบเทอร์โบ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์
ความจุแบตเตอรี่ (kWh) 31.2
แรงม้ารวมสูงสุด (แรงม้า) 313
แรงบิดรวมสูงสุด (นิวตันเมตร) 550
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (วินาที) 6.7
ความเร็วสูงสุด (กม. / ชม.) 218
โดยมีสีตัวถังให้เลือก 6 สี ได้แก่
- สีขาว (Polar White)
- สีน้ำเงิน (Nautic Blue)
- สีเทา (Graphite Grey)
- สีเงิน (Mojave Silver)
- สีเงิน (High-tech Silver)
- และสีดำ (Obsidian Black)