เป็นมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ของค่าย Royal Enfield และก็เป็นรุ่นแรกที่ขายในเมืองไทยในสไตล์ครูเซอร์ไบค์ขนาดกลาง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีขนาดใหญ่ โดย Super Meteor 650 คือรถครูเซอร์ที่รวมการควบคุมฟังก์ชั่นให้เข้ากับศาสตร์แห่งการขับขี่ที่ผ่อนคลาย ให้ความมั่นคงบนท้องถนน พร้อมเพลิดเพลินในการขับขี่ได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นทางตรงทอดยาว หรือจะเป็นเส้นทางที่คดเคี้ยวที่สุดที่ต้องการการเปลี่ยนทิศทางอย่างรวดเร็ว
เป็นจุดขายของมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ๆของค่ายนี้ที่จะใช้การออกแบบเฟรมให้เป็นรูป3เหลี่ยมซึ่งเฟรมและสวิงอาร์ม Super Meteor 650 จะถูกสร้างขึ้นที่ศูนย์เทคโนโลยีแห่งสหราชอาณาจักรโดยร่วมมือกับ Harris Performance ในการออกแบบเพราะเป็นชิ้นส่วนที่ออกแบบและผลิตใหม่ทั้งหมด เพื่อให้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำเพื่อความมั่นคงในความเร็วสูงโดยไม่ทิ้งความคล่องตัวไป ชิ้นส่วนถูกสร้างจากเหล็กที่มีการตีขึ้นรูปที่เหมาะสม มีการหล่อ การกดและการอัดขึ้นรูป
แชสซีมีการออกแบบให้รวมกับการยึดหัวโช้กใหม่เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง โดยเปลี่ยนมาใช้โช้กแบบกลับหัว USD ขนาด 43 มม. มีระยะยุบ 120 มม. ส่งผลให้สามารถซับแรงกระแทกได้ดีขึ้นโดยเฉพาะถนนลาดยาง
ส่วนโช้กหลังระดับพรีเมียมพร้อมพรีโหลดปรับความแข็งอ่อนได้5สเต็ปมีระยะยุบตัว 101 มม. ช่วยเสริมเฟรมที่ออกแบบมาใหม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ Super Meteor 650 มีการทรงตัวได้อย่างดี ปลอดภัยเมื่อขับขี่บนถนนโล่ง รวมถึงการบังคับเลี้ยวหนักๆ ตลอดทุกทางโค้งที่ความเร็วระดับ 170 กม./ชม.การทรงตัวของรถยังนิ่งอยู่
เครื่องยนต์ของ Super Meteor 650 ก็คงจะคุ้นเคยกันดีจากที่วางอยู่ในอินเตอร์เซ็ปเตอร์และคอนติเนนตัล จีที แต่ต่างกันตรงฝาครอบวาล์วและฝาครอบเครื่องจะเป็นสีดำ เป็นเครื่องยนต์ที่ตอบสนองทุกแรงบิด มีความคล่องตัวและนุ่มนวล และโดยเฉพาะสไตล์เรโทรสุดเท่ที่ผสมผสานเอกลักษณ์ของ Royal Enfield ที่จะช่วยให้การขับขี่น่าจดจำยิ่งขึ้น เป็นเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง 4 จังหวะ SOHC ระบายความร้อนด้วยอากาศพร้อมออยล์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 47 แรงม้า ที่ 7,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด52.3นิวตันเมตรที่ 5,650 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์6สปีดให้อัตราเร่งที่ทันใจพอสมควร
Super Meteor 650 มาพร้อมรูปลักษณ์ครูเซอร์พันธุ์แท้ ด้วยตำแหน่งเบาะนั่งที่มีช่วงสะโพกที่กว้างและเอวที่แคบ มีระยะการวางเท้ายื่นไปข้างหน้าได้อย่างเต็มที่ เป็นเบาะทรงใบบัวที่ไม่เมื่อยก้นเวลานั่งนานๆ โดยเฉพาะกับการขับขี่ที่แบะขาออกที่เป็นเอกลักษณ์ในการขับขี่ครูเซอร์ไบค์คันนี้
ตำแหน่งแฮนด์บาร์ที่ยกขึ้นและกว้างขึ้น ถังน้ำมันขนาดใหญ่ความจุ 15.7 ลิตรช่วยเพิ่มระยะการขับขี่ให้ไกลขึ้น มาพร้อมด้วยล้ออัลลอยด์ยางด้านหลัง ขอบ16 นิ้วพร้อมยาง 150/80-16 และด้านหน้าขอบ 19 นิ้วใส่ยาง 100/90-19 ช่วยสร้างความมั่นใจในขณะขับขี่บนทุกท้องถนน
แผงหน้าปัดของมาตรวัดความเร็วแบบอะนาล็อกเข้ากับการทำงานของจอ LCD แจ้งระบบต่างๆ เช่น รอบเครื่องยนต์ ไฟบอกเกียร์ มาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง นาฬิกา และมาตรวัดระยะทาง ก้านคลัตช์และเบรกแบบปรับได้ให้การทำงานที่ราบรื่นพร้อมกับกลิ่นอายสัมผัสแบบย้อนยุค ด้ามจับรูปทรงกระบอกที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ผสานรวมโลโก้ Royal Enfield สวิตช์ลูกบาศก์อลูมิเนียมชุบใหม่ทั้งหมด สวิตช์หมุนที่ไม่เหมือนใคร ทั้งหมดเป็นการวางองค์ประกอบการออกแบบระดับพรีเมียมไว้ในมือของผู้ขับขี่ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์นำทางแบบTurn-By-Turn ที่เป็นที่รู้จักของ Royal Enfield ในชื่อ Royal Enfield Tripper ซึ่งเชื่อมโยงกับสมาร์ทโฟนของผู้ขับขี่ผ่าน Bluetooth มีช่องเสียบ USB แบบแยกส่วนอยู่ใต้แผงด้านซ้าย ไฟหน้า LED ที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันถ่ายทอดเสน่ห์แบบยุคเก่า ขณะที่ยังคงคุณประโยชน์ทั้งหมดของเทคโนโลยี LED
นอกจากนี้ Super Meteor 650 ยังมีอุปกรณ์เสริมสำหรับรถจักรยานยนต์ รวมถึงกลุ่มเครื่องแต่งกาย เสื้อยืด Super Meteor หมวกกันน็อค กระเป๋า และอุปกรณ์เสริมแต่งรถอีกมากมายโดยราคาของ Super Meteor 650 เริ่มต้นที่ 269,000 บาท สำหรับรุ่น Astral, ราคา 274,000 บาท สำหรับรุ่น Interstellar และ ราคา 284,000 บาท สำหรับ Celestial ตัวท๊อปสุดที่มาพร้อมกับชิลด์หน้า สีทูโทน และพนักพิงหลังสำหรับผู้โดยสาร