เป็นอีกครั้งที่ทางฟอร์ด ประเทศไทย ได้เนรมิตรสนามทดสอบออฟโรดสุดโหดเพื่อทดสอบและพิสูจน์สมรรถนะของ “ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์” สุดยอดรถกระบะสมรรถนะสูงสำหรับคอออฟโรดตัวจริง ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Ford Ranger Raptor Unbeatable Experience’ ให้ได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่อัน ‘#ดุดันไม่เกรงใจใคร’ บนเส้นทางออฟโรดที่พร้อมโชว์สมรรถนะและฟีเจอร์อันโดดเด่นของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำในเซ็กเมนต์รถกระบะ ณ Ford Ranger Off-road Track อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี
หลังจากได้รับฟังการบรรยายข้อมูลของสถานีการขับขี่ในสนามออฟโรดทั้ง 9 สถานี ที่มีอุปสรรคและความท้าทายในสนามแห่งนี้เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสถึงความสนุก ตื่นเต้นเร้าใจ และเข้าถึงสมรรถนะอันทรงพลัง และความชาญฉลาดของเทคโนโลยีที่มีอยู่ในรถฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เพื่อเอาใจคนรักการขับขี่ออฟโรด ที่พร้อมท้าทายทุก รูปแบบด้วยฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร
เริ่มต้นความเร้าใจในสถานีแรก เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้ทำความคุ้นเคยกับฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ในการขับรถขึ้นลงเนินชันประมาณ 21 องศา ด้วยเกียร์ต่ำขับเคลื่อน 4ล้อ (4L) โดยใช้กล้องรอบคัน 360 องศาเป็นตัวช่วย รวมถึงหน้าจอสถานะออฟโรด ที่จะช่วยให้สามารถมองเห็นสถานะของตัวรถ และอุปสรรครอบคันได้อย่างชัดเจน
ต่อเนื่องด้วยสถานีที่สองที่ยังคงใช้ระบบขับเคลื่อนเดิมเพิ่มความเข้มข้นของการขับขี่ขึ้นลงเนินชันกว่า 25 องศา จึงได้ทดลองใช้ระบบควบคุมความเร็วสำหรับการขับขี่ออฟโรด หรือ Trail Control ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีในฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เพียงรุ่นเดียวในตลาดรถกระบะ ระบบจะช่วยควบคุมความเร็วขณะขับขี่บนเส้นทางออฟโรด ผู้ขับขี่เพียงแค่ควบคุมพวงมาลัยเท่านั้นเอง ทำให้สามารถผ่านเส้นทางการขับขี่อันท้าทายทั้งในระหว่างขึ้นและลงเนินชันไปได้อย่างง่ายดาย
มาต่อกันด้วยการขับผ่านสะพานแคบที่ใช้กล้องรอบคัน 360 องศา รวมถึงหน้าจอออฟโรดที่สามารถมองเห็นเส้นแนวล้อเพื่อช่วยกะระยะและเสริมความมั่นใจให้ผู้ขับขี่ในระหว่างขับผ่านอุปสรรคบนทางออฟโรดที่มีช่องทางเดินแคบๆได้เป็นอย่างดี
จากนั้นก็จะได้ทดลองใช้โหมดการขับขี่ที่ออกแบบมาให้ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ฝ่าฟันได้ทุกสภาพพื้นที่ โดยเริ่มจากการไต่เนินหินด้วยการใช้โหมดหินและเปิดดิฟล็อกแบบไฟฟ้าเพื่อควบคุมการทรงตัวของรถให้ไต่เนินและผ่านอุปสรรค โดยระบบนี้จะถูกติดตั้งอยู่ในรุ่นเบนซิน 3.0 ลิตร
ไปต่อที่สถานีที่จะพิสูจน์ความเป็นสุดยอดรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง กับบททดสอบความ ‘#ดุดันไม่เกรงใจใคร’ ด้วยการขับขี่ในโหมดบาฮา พร้อมการใช้เกียร์สูงขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) ขับผ่านเนินกระโดดติดต่อกันเพื่อพิสูจน์ศักยภาพของช่วงล่างที่เหนือกว่าใครของช็อคอัพฟอร์กอันเลื่องชื่อทำให้สามารถควบคุมรถได้อย่างเชื่องมือ
แล้วเข้าสู่เส้นทางคดเคี้ยวด้วยการขับแบบสลาลอม นอกจากผู้ขับขี่จะสัมผัสถึงความเร้าใจตามแบบฉบับของคอออฟโรดโดยเฉพาะเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตรที่เรียกกำลังออกมาใช้งานได้รวดเร็วอีกทั้งฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ ยังโชว์ให้เห็นถึงสุดยอดของระบบกันสะเทือนของโช้คอัพ FOXTM ที่ช่วยดูดซับแรงกระแทกจากการขับขี่ความเร็วสูง และช่วยในการทรงตัวและการควบคุมรถให้ดียิ่งขึ้น
หลังจากนั้นจึงเปลี่ยนการขับขี่เป็นโหมดทรายโดยทดลองขับขี่ไปผ่านแอ่งทรายที่มีความร่วนสูง โดยระบบจะปรับอัตราการส่งกำลัง อัตราการทดเกียร์ และการทรงตัว เพื่อรักษาสมดุลการเคลื่อนที่ของตัวรถได้มากขึ้น จากนั้นเปลี่ยนกลับมาเป็นการขับขี่ด้วยโหมดบาฮาเพื่อสัมผัสกับความนุ่มนวลแต่มั่นคงของโช้คอัพ FOXTM อีกครั้งบนเส้นทางขรุขระหลุมบ่อ
ส่งท้ายความดุดันให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสถึงความสนุกสนานกับเอกลักษณ์ของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ กับการขับขี่บนทางตรงด้วยความเร็วสูงในโหมดบาฮา ด้วยขุมพลังของเครื่องยนต์ อัตราเร่ง ช่วงล่าง และรอบเครื่องยนต์ที่ปรับจูนกันได้อย่างลงตัว ถ่ายทอดดีเอ็นเอของฟอร์ด เพอร์ฟอร์มานซ์ สู่คอออฟโรดตัวจริง
ในการพิสูจน์สมรรถนะของรถในพื้นที่สมบุกสมบันต่างๆ นั้นได้สัมผัสประสิทธิภาพของโช้คอัพ FOXTM ขนาด 2.5 นิ้ว ทั้งแบบ Internal Bypass ของรุ่นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร และแบบ Live Valve Internal Bypass ของรุ่นเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร ที่ให้ทั้งความนุ่มนวลบนถนนเรียบและความแข็งแรงในการขับขี่บนสภาพพื้นผิวออฟโรดที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์โดยเฉพาะ
ด้วยการออกแบบตัวรถที่ดูบึกบึน ทั้งโครงด้านข้าง และซุ้มล้อขนาดใหญ่ จนถึงตัวถังที่มีระยะต่ำสุดจากพื้น (Ground Clearance) 272 มม. จึงพร้อมสำหรับการลุยในทุกพื้นที่อีกทั้งฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ยังออกแบบมา ให้มีทั้งความเป็นเอกลักษณ์สไตล์ Raptor และยกระดับให้พร้อมสำหรับทุกการผจญภัยไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้า F-O-R-D ที่โดดเด่นสะดุดตา ไฟหน้ารูปตัว C แบบเมทริกซ์ แอลอีดีอัจฉริยะ แผ่นโลหะกันกระแทกใต้ท้องรถชนิดพิเศษ Raptor
ภายในใช้ เบาะหนัง และหนังสังเคราะห์ เฉพาะแบบ Raptor ที่ให้ความสะดวกสบายเหนือระดับด้วยห้องโดยสารที่บรรจุแผงหน้าปัดที่มีหน้าจอแสดงผลจอสีแบบสัมผัส Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว และหน้าจอแสดงผลบนหน้าปัดแบบสีขนาด 12.4 นิ้ว เติมเต็มให้ฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เป็นรถที่ตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของรถที่มีใจรักในกิจกรรมสมบุกสมบันอันสมบูรณ์แบบในทุกๆด้าน