สำหรับการออกแบบ OMODA 5 EV นั้นมีชื่อเฉพสะที่เรียกว่า การออกแบบ Art in Motion ที่แสดงให้เห็นว่าผู้นำเทรนด์แฟชั่นอยู่ในระดับแนวหน้าของแฟชั่นและแสดงถึงความต้องการเฉพาะบุคคลที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า LED รูปตัว T, ไฟท้าย LED แบบทะลุมิติ X-STYLE, กระจังหน้าแบบปิดด้วยไฟฟ้าล้วน, ล้อแบบสปอร์ตขนาด 18 นิ้ว และดีไซน์อื่นๆ หรือหน้าจอขนาด 24.6 นิ้วที่ออกแบบอย่างไร้รอยต่อและเบาะนั่งแบบสปอร์ตแบบบูรณาการพร้อมฟังก์ชั่นระบายอากาศ ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงแฟชั่นที่เป็นเอกลักษณ์อันเป็นบุคลิกเฉพาะตัวของ OMODA
ภายใน OMODA 5 EV มีระบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทางสำหรับการขับหลัก ระบบปรับไฟฟ้า 4 ทิศทางแบบ Co-pilot และติดตั้งระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบดูอัลโซนพร้อมแผ่นกรองอากาศฟอกอากาศ PM2.5 พร้อมเครื่องเสียงยี่ห้อ Sony คุณจะรู้สึกได้ถึงความเงียบสงบโดยไม่ต้องกังวลเมื่อคุณอยู่ในที่เงียบๆ และคุณยังสามารถเพลิดเพลินกับคอนเสิร์ตระดับไฮเอนด์ได้ในขณะขับรถ ในทุกการเดินทาง OMODA EV มุ่งเน้นให้ผู้ใช้รู้สึกถึงความหรูหราขณะเคลื่อนไหว
OMODA 5 EV ไม่เพียงแต่มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย แต่ยังเป็น SUV สไตล์ครอสโอเวอร์อัจฉริยะอีกด้วย ระดับการขับขี่อัตโนมัติของ OMODA 5 EV ยังสูงถึง L2+ ระบบ ADAS 4.0 มีฟังก์ชัน ADAS มากถึง 18 ฟังก์ชัน โดยเฉพาะ DMS (Driver Monitoring Systems) ซึ่งสามารถตรวจจับสภาวะความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ได้ ในขณะเดียวกัน กล้อง 360° HD ยังช่วยให้ผู้ขับขี่ขับรถได้สะดวกและสบายยิ่งขึ้น
ในการเริ่มต้นครั้งใหม่ของ Chery ในตลาดประเทศไทย ทาง Chery ได้เตรียมตัวเข้าสู่ตลาดประเทศไทยอย่างรัดกุม ถึงแม้จะมีหลายเสียงจากผู้บริโภคถึงความเข้ามาล่าช้า แต่ Chery ไม่ได้คาดหวังว่าจะนำโมเดล BEV เข้ามาแข่งขันกับคู่แข่งแบรนด์จีนเท่านั้น แต่จะมีโมเดลทางเลือกอีกมากมายที่จะเข้ามาทำตลาด รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์กับผู้บริโภค ให้เกิดความรักในแบรนด์ ดังคำกล่าวของคุณ Shawn Xu ที่ได้กล่าวไว้ว่า “The last one is the best one” นั้น Chery จะไม่ทำให้คนไทยผิดหวังอย่างแน่นอน