บุรีรัมย์, ระเบิดความมันต้อนรับสนามแรกของฤดูกาล กับรายการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย Fanatec GT World Challenge Asia 2023 โดยปีนี้ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันสนามแรกของปี ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จ. บุรีรัมย์ สำหรับสนามแรกเริ่มต้นกันตั้งแต่รอบการซ้อมท่ามกลางสายฝน ที่ทำให้ทั้งทีม Engineer และนักแข่งต้องทำการบ้านอย่างหนักเพื่อรับมือกับการลงสนามแบบ Wet Race ซึ่งหลังจากหมดเวลาซ้อม รถ Porsche หมายเลข 911 สามารถทำเวลาได้เร็วสุดที่ 1.36.017 ห่างจากหัวแถวอยู่ 0.864 ก่อนเข้าสู่บรรยากาศการ Qualify ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 รอบ เริ่มต้นด้วย เต๊อะ วุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ ที่ลงสนาม Qualify ก่อน และสามารถทำเวลาเร็วสุดได้ที่ 1.35.662 ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 2 ของกลุ่มแรก ต่อด้วย อเลซซิโอ พิคาริเอลโล (Alessio Picariello) ที่ลงสนามทำความเร็วต่อในรอบที่ 2 ซึ่งสามารถทำเวลาดีที่สุดที่ 1.34.022 ขึ้นเป็นผู้นำของกลุ่ม และจากลำดับผล Qualify นี้ทำให้ใน Race ที่ 1เต๊อะ วุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ จะออกสตาร์ทจากอันดับที่ 2 และ อเลซซิโอ พิคาริเอลโล (Alessio Picariello) จะออกสตาร์ทเป็นคันแรกใน Race ที่ 2 นั่นเอง
เมื่อการแข่งขันใน Race ที่ 1 เริ่มขึ้น ก่อนออกสตาร์ทเพียงไม่กี่นาทีพายุฝนก็กระหน่ำจนทำให้การแข่งขันต้องล่าช้าออกไปกว่า 1 ชั่วโมง เมื่อพายุผ่านไป เสียงเครื่องยนต์ของสุดยอดทัพรถแข่งพร้อมกันคำรามกระหึ่มสนามช้างฯ โดย วุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ จากทีม AAS Motorsport by Absolute Racing ระเบิดความมัน พารถ Porsche 911 GT3R หมายเลข 911 ออกจาก Grid Start ที่ 2 เป็นมือแรก โชว์ฟอร์มการขับแข่งไว้ลายเจ้าภาพได้อย่างเหนือชั้น และสามารถรักษาอันดับที่ 2 Overall ไว้ได้ตลอดครึ่งแรกของการแข่งขัน ก่อนส่งไม้ต่อให้กับ อเลสซิโอ พิคาริเอลโล (Alessio Picariello) ลงวาดลวดลายความเร็วต่อเนื่องในครึ่งหลัง ซึ่งงานนี้ต้องดวลความแรงสุดโหดกับนักแข่งระดับ Platinum ทำให้จบ Race ที่ 1 ทั้งคู่สามารถพารถหมายเลข 911 เข้ารับธงหมากรุก และขึ้นโพเดี้ยมแรกของฤดูกาลเป็น อันดับที่ 2 Overall และ เป็นที่ 2 ในรุ่น Pro-Am
ต่อกันใน Race ที่ 2 ที่ปิดท้ายรายการแข่งด้วยอุณหภูมิที่ร้อนแรง หลังจาก อเลสซิโอ พิคาริเอลโล (Alessio Picariello) จากทีม AAS Motorsport by Absolute ควบรถแข่ง Porsche หมายเลข 911 ออกจาก Grid Start รั้งอันดับหัวแถวของทัพสุดยอดรถแข่ง และสามารถรักษาอันดับที่ 1 ไว้ได้ตลอดการแข่งขันในครึ่ง ก่อนเข้า Pit เปลี่ยนมือให้ เต๊อะ วุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ รับช่วงต่อ ซึ่งต้องแบกความท้าทายด้วยเวลา Extra ใน Pit Stop ที่เพิ่มขึ้นจากสนามแรกอีก 10 วินาที ก่อนเหยียบเร่งความเร็วเต็มสปีดออกไปสู้ต่อในครึ่งหลัง ที่ต้องรวบรวมสมาธิและปล่อยพลังไล่กวดขึ้นจากอันดับที่ 6 ซึ่งตลอดระยะเวลาการแข่งขัน Safety Car และธงเหลืองต่างออกมาทักทายอยู่เป็นระยะๆ เพราะสนามนี้บู๊กันสนั่นแบบไม่มีใครยอมใคร จนทำให้การแข่งขันต้องจบลงก่อนเวลาอย่างน่าเสียดายเนื่องจากอุบัติเหตุในสนามจนต้องตีธงแดง (Red Flag) ยุติการแข่งขัน ส่งผลให้ เต๊อะ วุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ และ อเลสซิโอ พิคาริเอลโล (Alessio Picariello) สามารถขึ้นรับถ้วยรางวัลในอันดับที่ 3 ทั้ง Overall ของรายการ และของรุ่น Pro-Am เก็บคะแนนสะสมรวมของรายการ และคะแนนรวมในรุ่น Pro-Am ขึ้นเป็นอันดับที่ 1 ประเดิมสนามโฮมเรซ