สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์มือสองไว้ใช้งานสักคัน CARS24 ขอแนะนำรถยนต์ระดับ Best Sellers ทั้ง 6 รุ่น โดยทุกรุ่นได้รับการการันตีคุณภาพและราคาคุ้มค่า พร้อมสามารถเลือกซื้อได้ทุกที่ทุกเวลา
- Toyota Hilux Revoเปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 โดยรุ่นโฉมล่าสุดปี 2020 ออกแบบด้านหน้าตัวรถใหม่ พร้อมกับการจูนเครื่องยนต์ใหม่ให้มีพละกำลังแรงขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ ด้านท้ายรถยังมีการเปลี่ยนดีไซน์ไฟท้ายใหม่ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของไฟหน้า Bi-Beam LED, กระจังหน้า, กันชนหน้า, ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว และไฟท้ายดีไซน์ใหม่ ส่วนภายในห้องโดยสาร Dashboard จะใช้ดีไซน์เดิม แต่มีการเปลี่ยนชิ้นส่วนต่าง ๆ เล็กน้อย เช่น ชุดมาตรวัด, หน้าจอเครื่องเสียงระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว, วัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสารดีไซน์ใหม่ และ ระบบเครื่องเสียงรองรับ Apple CarPlay™ และ Android Auto™ นอกเหนือจากงานดีไซน์ที่ปรับเปลี่ยนไปแล้ว ส่วนสำคัญที่มีการปรับเปลี่ยนเป็นครั้งแรกนับจากการเปิดตัว Toyota Hilux REVO คือเครื่องยนต์ ซึ่งมีการจูนเพิ่มพละกำลังในเครื่องยนต์ดีเซล 2.8 ลิตร VN เทอร์โบ รหัส 1GD-FTV Super Power เพิ่มพละกำลัง เป็น 204 แรงม้า 500 นิวตันเมตร (เพิ่มจากเดิม 27 แรงม้า 50 นิวตันเมตร) และยังติดตั้งระบบ Toyota SAFETY SENSE มาให้ใน Toyota Hilux REVO รุ่น ROCCO
- Mazda 2 เปิดตัวในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2015 จนถึงปี 2019 ได้ปรับโฉมใหม่ Minor change มีให้เลือกทั้งแบบ Hatchback 5 ประตู และ Sedan 4 ประตู มาพร้อม MZD Connect ที่มีพร้อมในทุกรุ่น (ยกเว้นรุ่น Standard) จอทัชสกรีน Center Display ขนาด 7 นิ้ว จะถูกจัดวางในตำแหน่งศูนย์กลางบนคอนโซลหน้ารถ พร้อมให้คุณติดตามข่าวสารและความบันเทิงด้วยการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจากในรถ โดยในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 1,500 ซีซี มาพร้อมเทอร์โบแปรผันอินเตอร์คูลเลอร์ ให้อัตราเร่งด้วยแรงบิดสูงถึง 250 นิวตันเมตร พร้อมหัวฉีดโซลีนอยด์ ที่ฉีดน้ำมันได้แม่นยำ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านมาตรฐาน Euro 5 ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ต่ำเพียง 100 กรัม/กม. ประหยัดน้ำมันถึง 26.3 กม./ลิตร นอกจากนี้ ยังมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย i-ACTIVSENSE อาทิ ระบบเตือนจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง พร้อมไฟกะพริบเตือนที่กระจกมองข้าง ABS 4 ล้อ พร้อม EBD ช่วยกระจายแรงเบรก DSC : Dynamic Stability Control ช่วยควบคุมเสถียรภาพและการทรงตัวของรถ HLA : Hill Launch Assist ช่วยการออกตัวของรถขณะอยู่บนทางลาดชัน TCS : Traction Control System ช่วยป้องกันรถลื่นไถล และระบบ i-ELOOP ระบบเปลี่ยนพลังงานที่สูญเสียจากการลดความเร็วเป็นพลังงานไฟฟ้า และเก็บไว้ในอุปกรณ์เก็บประจุไฟฟ้า เพื่อนำไปใช้เลี้ยงระบบไฟฟ้าของอุปกรณ์ภายในรถ มาพร้อม i-Stop ระบบประหยัดน้ำมันที่สั่งให้เครื่องยนต์หยุดการทำงานชั่วคราวเมื่อรถจอดนิ่ง
- Isuzu D-Max เปิดตัวครั้งแรกในปี 2022 รุ่นที่เราแนะนำเป็นโฉมใหม่ Model Change ที่ออกมาในปี 2019 ดีไซน์ภายนอกมีมิติใหญ่และบึกบึน ให้ความรู้สึกทรงพลังและแข็งแกร่ง แต่ยังคงเส้นสายของความพลิ้วไหว ช่วยให้รถดูมีความปราดเปรียว สปอร์ต รวมถึงยังเป็นรถรุ่นที่ช่วยในเรื่องการประหยัดน้ำมันอีกด้วย ในด้านเครื่องยนต์ของ isuzu D-Max มี 2 แบบ คือ เครื่องยนต์อีซูซุ 3.0 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์ รุ่น 4JJ3-TCX เป็นเทคโนโลยีดีเซลล่าสุดที่มีความสมบูรณ์แบบ ให้กำลังสูงสุดที่ 190 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/ นาที มีแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบ/นาที มาพร้อม E-VGS TURBO เทอร์โบแปรผันปรับไฟฟ้า แรงจัดตั้งแต่รอบต่ำ แต่มีการตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ทำให้มีสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมทั้งแรงม้า และแรงบิดสูงสุดในรถระดับเดียวกัน ภายในมีการดีไซน์ให้มีความกว้างขวางในทุกมิติ คอนโซลหน้ามีการเล่นระดับแบบ Sharp Horizontal Layers ใช้วัสดุเกรดพรีเมียมดูดีทั้งห้องโดยสาร Smart MID ที่มีขนาดใหญ่ 4.2 นิ้ว มีแผงควบคุมระบบปรับอากาศ Piano Touch ตัวของพวงมาลัยก็สามารถที่จะปรับระดับได้ 4 ทิศทาง แบบ Tilt & Telescopic เบาะนั่งคู่หน้ามาพร้อมกับเทคโนโลยี AVEC (Anti Vibration Elastic Comfort) ที่จะเข้ามาช่วยซับแรงสั่นสะเทือน ช่วยลดความเมื่อยล้า มาพร้อมระบบปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางในตำแหน่งที่นั่งคน
- Toyota Yaris สำหรับรุ่นปี 2019 มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย คือรุ่น L ที่เน้นความสปอร์ต รุ่น LE เต็มที่ด้วยออปชัน และรุ่น XLE ที่เน้นความลงตัวระหว่างความหรูหราและสปอร์ต ไฟหน้า LED เสริมความโฉบเฉี่ยวด้วยไฟตัดหมอก ติดตั้งกระจังหน้าลายรังผึ้ง เสริมความสปอร์ตให้ลงตัวด้วยลิ้นสปอยเลอร์ด้านหลังแบบใหม่ ทุกรุ่นมีเสาอากาศแบบ Shark Fin สีเดียวกับตัวรถ และกระจกมองข้างปรับไฟฟ้า ขณะที่รุ่น LE และ XLE เพิ่มระบบไล่ฝ้า และไฟเลี้ยวแบบ LED มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ ภายในห้องโดยสารถูกตกแต่งด้วยสีดำเปียโนแบล็คและโครเมียม เบาะนั่งคู่หน้าและพวงมาลัยหุ้มด้วยวัสดุหนัง เช่นเดียวกับหัวเกียร์และด้ามเบรคมือ ส่วนบาะนั่งด้านหลังที่ปรับ-พับได้แบบ 60/ 40 มีหน้าจอมัลติมีเดียระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ที่จดจำเสียง พร้อมรองรับ AM/ FM มีช่องเชื่อมต่อ AUX, USB และ iPod สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์ด้วย Bluetooth และ SiriusXM โดยมีระบบความปลอดภัยมาตรฐาน ได้แก่ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Dynamic Stability Control) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System) ระบบความปลอดภัยก่อนการชนด้วยความเร็วต่ำ (Low-Speed Pre-Collision System) ระบบที่จะตัดการทำงานของคันเร่ง (Brake Over-Ride System) ระบบควบคุมความเร็ว (Cruise Control) ระบบควบคุมแรงดึง (Traction Control System) เป็นต้น
- Toyota Corolla Altisสำหรับรุ่นที่เราแนะนำเป็นรุ่นปี 2016 ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินแบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC Dual VVT-iความจุกระบอกสูบ 1,598 ซีซี แรงม้าสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 154 นิวตัน-เมตร สามารถรองรับการใช้งานน้ำมันแก๊สโซฮอล E85 ได้ ภายนอกได้เพิ่มอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานให้ครอบคลุม โดยยังคงไว้ซึ่งดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของ โคโรลล่า อัลติส ได้แก่ ไฟหน้าแบบ LED โปรเจคเตอร์ พร้อม ไฟ LED Day Time Running Lights, ไฟตัดหมอกหน้า, มือจับประตูด้านนอกแบบ Grip-type, กระจกข้างพับเก็บอัตโนมัติแบบใหม่ เป็นต้น ส่วนห้องโดยสารภายในออกแบบสวยงาม พร้อมเสริมฟังก์ชันต่างๆ ให้เหนือกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน ได้แก่ มาตรวัดเรืองแสง Optitronพร้อมจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบใหม่, แป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift, ระบบกรองอากาศในห้องโดยสาร nanoeเบาะหลังปรับเอนได้ ปรับเปลี่ยนระดับได้ตามความต้องการ เพิ่มความสบายและผ่อนคลายสูงสุดตลอดการเดินทาง (เพิ่มเติมในรุ่น 1.8V Navi) รวมไปถึงการบรรจุระบบความปลอดภัยให้มีมาตรฐานในระดับสากล ทุกรุ่นย่อย ได้แก่ โครงสร้างนิรภัย GOA, ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS), ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC), ระบบกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบเสริมแรงเบรก (BA) เป็นต้น
- Toyota Yaris Ativเป็นรถรุ่นที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 มี 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น Entry, รุ่น Mid และรุ่น High รูปลักษณ์ภายนอก เน้นดีไซน์ทรงสปอร์ต โดยในรุ่นเริ่มต้นมาพร้อมกับไฟหน้าแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ กระจังหน้าด้านบนสีดำเงา ตกแต่งด้วยโครเมียม กระจังหน้าด้านล่างสีดำเงา ตกแต่งด้วยแถบสีแดง วัสดุตกแต่งไฟตัดหมอกสีดำ ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding เสาอากาศแบบสั้น กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ ในรุ่น Mid จะมีเพิ่มเติมจากรุ่น Entry ดังนี้ แผ่นกันความร้อนใต้ฝากระโปรง ที่ปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลาและปรับตั้งเวลาได้ กระจกมองข้างสีดำเงาพร้อมไฟเลี้ยว กระบังลมหน้าแบบกันเสียงรบกวน และในรุ่น High ซึ่งเป็นตัวท็อปจะมีอุปกรณ์เพิ่มเติม ได้แก่ ไฟหน้าแบบ Projector ระบบควบคุมการเปิด–ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมระบบ Follow Me Home กระจังหน้าด้านบนสีดำเงา ตกแต่งด้วยโครเมียมรมดำ ไฟท้ายแบบ LED Light Guiding แบบรมดำ มือเปิดประตูด้านบนอกแบบโครเมียม นอกจากนี้ ระบบความปลอดภัยเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ได้แก่ ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ระบบเซ็นทรัลล็อก ระบบละลายฝ้ากระจกหลัง ระบบเบรก ABS / EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบควบคุมการทรงตัว VSC ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC ที่เพิ่มให้ในรุ่น Mid ได้แก่ กล้องมองหลัง ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer / ระบบเตือนการโจรกรรม TDS ในรุ่น High จะมีไฟส่องสว่างกลางวันแบบ LED