ในงาน UP DAY ประจำปี 2566 U POWER ผู้บุกเบิกด้านโครงพื้นรถแบบเรียบ (skateboard chassis) ได้เปิดตัวโครงพื้นรถแบบเรียบชนิดไฟฟ้าที่ผลิตได้ในปริมาณมากเป็นครั้งแรกของจีน ซึ่งช่วยให้สามารถปรับแต่งยานยนต์ไฟฟ้า (EV) อัจฉริยะได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง ในขณะเดียวกัน ยังมีการประกาศสองหมุดหมายสำคัญทางธุรกิจ ประการแรก รถ UP VAN จะส่งมอบให้แก่ลูกค้าที่ได้สั่งซื้อภายในปลายปีนี้ และประการที่สอง U POWER จะร่วมมือกับ fblife.com ชุมชนออนไลน์ของผู้ชื่นชอบรถวิบาก (off-road) เพื่อสร้างซีรีส์ยานยนต์ไฟฟ้าชนิดวิบาก
รถ UP VAN ผลิตภัณฑ์แรกที่สร้างบน UP Super Board ได้ดำเนินการทดสอบช่วงฤดูหนาวเสร็จสิ้นแล้ว โดยมีความปลอดภัยและความอัจฉริยะเทียบเท่ากับรถยนต์โดยสาร และมาพร้อมกับพื้นที่บรรทุกมากกว่าและสมรรถนะสูงกว่าผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ในประเภทเดียวกันถึง 15% น้ำหนักรถเปล่าของรถรุ่นดังกล่าวนี้ยังลดลงอย่างมากอีกด้วย
U POWER เป็นบริษัทรถ EV อัจฉริยะเชิงนวัตกรรมที่สร้างรถยนต์อเนกประสงค์สำหรับทุกคน UP Super Board เวอร์ชันอัปเกรดจากรุ่นเมื่อปีที่แล้ว จะช่วยให้ผู้ผลิตยานยนต์สามารถสร้างรถ EV อัจฉริยะสุดล้ำตั้งแต่แรกได้อย่างเร็วที่สุดใน 12 เดือน
UP Super Board นี้สร้างขึ้นจาก UP CCCA (สถาปัตยกรรมการสื่อสาร, การประมวลผล และการควบคุม) และ UP VMC (การควบคุมการเคลื่อนที่ของยานยนต์) โดยเป็นระบบปฏิบัติการที่บูรณาการทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์สำหรับรถ EV อัจฉริยะ
UP CCCA เป็นระบบอัจฉริยะในยานยนต์ ประกอบด้วย UP Hub และ UP HPVC (คอมพิวเตอร์ยานยนต์สมรรถนะสูง) พร้อมมอบขีดความสามารถระดับโลก เช่น การส่งข้อมูลปริมาณมหาศาลแบบเรียลไทม์ การประมวลผลความเร็วสูง และการควบคุมการเคลื่อนที่อย่างคล่องแคล่วสำหรับยานยนต์ทั้งคัน โดย UP Hub แพลตฟอร์มจำลองต้นแบบชนิดเกตเวย์แบบแบ่งโซน มาพร้อมกับอินเทอร์เฟซการสื่อสารจำนวนมากซึ่งครอบคลุมออปชันภายในยานยนต์ที่เป็นกระแสหลักทั้งหมด และรองรับบัส PCleแบนด์วิดท์สูงเกรดยานยนต์ UP Hub สร้างเครือข่ายการสื่อสารแบบวงแหวนเพื่อให้เกิดการส่งข้อมูลที่รวดเร็วจากกล้องความละเอียด 8 เมกะพิกเซล 8 ตัวพร้อมกัน พร้อมด้วยระบบสำรอง ขณะที่ UP HPVC เป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ภายในยานยนต์แบบเปิดตัวแรกของอุตสาหกรรม ซึ่งมาพร้อมกับพลังการประมวลผลที่ยืดหยุ่นและพัฒนาขึ้นภายใต้การทำงานร่วมกับคู่ค้าอย่างเอ็นวิเดีย (NVIDIA) และเรนีซาส (Renesas) ทั้ง UP Hub และ UP HPVC สามารถเสียบปลั๊กและต่อเรียงกันได้เพื่อรองรับการขับขี่แบบอัตโนมัติในระดับสูงของรถรุ่นต่าง ๆ
UP VMC ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทฯ พร้อมด้วยระบบเบรกไฟฟ้า ระบบพวงมาลัยไฟฟ้า และระบบช่วงล่างไฟฟ้า เอื้อให้เกิดการควบคุมแบบบูรณาการสำหรับการเคลื่อนที่ของโครงพื้นรถเป็นครั้งแรก ซึ่งหมายถึงการกำหนดค่า การพัฒนา และการประมวลผลอย่างมีเอกภาพ ส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพในการพัฒนาที่เพิ่มขึ้นและประหยัดต้นทุนได้อย่างมากสำหรับการพัฒนาการควบคุมการเคลื่อนที่ของยานยนต์ นอกจากนี้ ยังทำให้รถทุกคันมีระดับการควบคุมเท่า ๆ กัน ทำให้ผู้ผลิตยานยนต์ทำการปรับเปลี่ยนรถรุ่นต่าง ๆ ได้และผู้ใช้สามารถปรับการควบคุมรถให้สอดรับกับสถานการณ์ต่าง ๆ เทคโนโลยีดังกล่าวนี้ทำให้ยานยนต์สามารถอัปเดตได้อยู่เสมอด้วยระบบ OTA ระดับยานยนต์ ทั้งนี้ ด้วยโครงพื้นรถแบบเรียบชนิดไฟฟ้า UP Super Board การปรับจูนโครงพื้นรถจะมิใช่เรื่องเฉพาะสำหรับผู้ผลิตยานยนต์อีกต่อไป และรถทุกคันสามารถมีสไตล์การขับขี่เฉพาะตัวที่แตกต่างได้