ในปี 2566 นี้ มีการคาดการของตลาดรวมรถจักรยานยนต์จะเป็น 1.8 ล้านคัน เท่ากับปี 2565 โดยยามาฮ่าได้ตั้งเป้าชิงส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 16.5% หรือประมาณ 295,000 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นอีก 4% เมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา พร้อมเร่งกำลังการผลิต และมุ่งเน้นกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ รวมถึงกลยุทธ์การขายและการตลาด เพื่อที่จะสร้างความแข็งแกร่ง และทำให้ส่วนแบ่งการตลาดเติบโตเพิ่มขึ้น พร้อมยกระดับกลยุทธ์ Branding Direction สู่ความเป็น “Premium Brand” เพื่อสร้าง “Best Customer Experience” ส่งต่อความประทับใจในสินค้าและบริการจนสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์สินค้าจนก่อเกิดเป็น Lifetime Customer ที่สร้างความผูกพันและความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า”
นายภาณุพล กิตติคำรณ รองผู้จัดการใหญ่ด้านการขายและการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวถึง Road To Success ว่า “ในปี 2566 นี้ ยามาฮ่าพร้อมเสริมความแกร่ง ด้วยกลยุทธ์สู่ความสำเร็จและสามารถสร้าง Lifetime Customer ซึ่งจะขอเสริมในส่วนของแนวทางการขายและการตลาดในปี 2566 ด้วยการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าด้วย 6 กลยุทธ์ดังนี้
1.เดินหน้าพัฒนา New YAMAHA SQUARE ตั้งเป้าในการปรับเปลี่ยนโชว์รูมจำหน่ายรถจักรยานยนต์ด้วยดีไซน์ใหม่ และทันสมัยจาก 89 โชว์รูมทั่วประเทศในปี 2565 และในปีนี้เราพร้อมเดินหน้าพัฒนาโชว์รูม New YAMAHA SQUARE เพิ่มขึ้นเป็น 170 สาขาทั่วประเทศภายในปีนี้ เพื่อยกระดับการขาย และการบริการ เพิ่มความประทับใจและความพึงพอใจให้กับลูกค้า
2.เสริมความแกร่งพัฒนาบริการหลังการขายในระดับ Pro Care สร้างความแตกต่างของการบริการ และเพิ่มความเชื่อมั่นของลูกค้าด้วยการวิเคราะห์ปัญหาด้วยเครื่องมือ Yamaha Diagnostic (YDT) ได้ถูกต้องและชัดเจน สามารถเก็บข้อมูลเข้าสู่ระบบ ID Card Reader พร้อมกับการแจ้งเตือนเข้ารับบริการผ่านช่องทาง LINE OA
3.พัฒนากิจกรรม Lifestyle กลุ่ม YAMAHA Club เพิ่มกิจกรรมที่ตอบโจทย์และโดนใจของกลุ่มลูกค้ายามาฮ่าที่หลากหลาย พร้อมสนับสนุน Customer Club ในทุกพื้นที่ และสร้าง Community ที่แข็งแรง เพื่อสร้างความประทับใจ และความผูกพัน ตลอดจนสามารถรับสิทธิพิเศษต่างๆ ได้ผ่านทาง Application YAMAHA SMART REWARD
4.ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า ด้วยการตลาดด้วยรูปแบบ Digital Marketing พัฒนาและสร้าง Online Touchpoint เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารกับลูกค้า ที่ตรงกลุ่มลูกค้า สามารถวิเคราะห์ความต้องการในด้านต่างๆ ของลูกค้าได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย และลูกค้าสามารถติดต่อสื่อสารผ่านระบบ LINE OA พร้อมสามารถลิงก์กับ SMART REWARD และ Y-CONNECT ได้อย่างง่ายดาย
5.เดินหน้าเสริมความมั่นใจสินค้า และกล้ารับประกันสินค้า 5 ปี หรือ 50,000 กม. เดินหน้าสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมาย ในการรับประกันสินค้ามากที่สุดในกลุ่มธุรกิจยานยนต์ด้วยระยะเวลาการรับประกัน ถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร และสำหรับในรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าฟินน์ เรากล้าให้การรับประกัน 5 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง เพิ่มความเชื่อมั่นในการตัดสินในซื้อสินค้าเพื่อที่จะได้รับการบริการที่ดีเยี่ยม
6.เดินหน้าการตลาดเฉพาะกลุ่ม โดยเป็นการใช้กลยุทธ์ให้เหมาะสมในแต่ละเซ็กเมนต์ตรงตามความต้องการ เพื่อเข้าถึงและโดนใจลูกค้า โดยยามาฮ่าเสริมความแข็งแกร่งในกิจกรรมทั้งก่อน และหลังการขายให้ครอบคลุมครบทุกพื้นที่ทั่วประเทศ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มเซ็กเมนต์ ได้แก่
กลุ่มลูกค้ารถสปอร์ต เน้นไปที่การเจาะกลุ่มในแต่ละพื้นที่ พร้อมเสริมเรื่องสินค้าอะไหล่ตกแต่ง รวมทั้งกิจกรรมที่ส่งเสริม และสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า
กลุ่มลูกค้ารถออโตเมติก เน้นการขยายตลาดแนวกว้าง ครอบคลุมทุกจังหวัด โดยเน้นการขยายจากตัวเมืองใหญ่ เสริมด้วยกิจกรรมไลฟ์สไตล์มาร์เก็ตติ้ง และสร้างความเป็น Community ให้ใหญ่ขึ้น
กลุ่มลูกค้ารถครอบครัว ขยายตลาด mass ให้มากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ มีรถจัดแสดงในทุกจุด และเติมเต็มกิจกรรมทั้งหน้าร้านและนอกร้าน โดยร่วมมือกับร้านผู้จำหน่ายทั่วประเทศ