EQS 500 4MATIC AMG Premium คือยานยนต์ไฟฟ้าคันแรกจากแบรนด์ Mercedes-EQ ที่ เมอร์เซเดส-เบนซ์พร้อมเปิดไลน์การผลิตภายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยรถยนต์คันนี้รังสรรค์ขึ้นด้วยแพลตฟอร์มของยานยนต์ไฟฟ้าใหม่ในทุกรายละเอียด ทั้งการออกแบบโครงสร้างทางวิศวกรรม เรื่อยไปจนถึงดีไซน์ภายนอกและภายในที่สะท้อนเอกลักษณ์ของความเป็นยานยนต์สำหรับโลกอนาคตจากเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยมาพร้อมขุมพลังไฟฟ้า 100% จากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่พร้อมความจุของแบตเตอรี่ขนาด 108.4 kWh ให้กำลังสูงสุด 449 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 828 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งที่ยอดเยี่ยมจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลา 4.8 วินาที พร้อมทำความเร็วสูงสุดได้ 210 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งด้วยความจุของแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ทำให้รถยนต์คันนี้สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 702 กิโลเมตร (WLTP) ต่อการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 1 ครั้ง โดยยังรองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง (DC charge) สูงถึง 200 kWh จึงใช้เวลาชาร์จเพียง 31 นาทีจาก 10-80%
ด้วยความตั้งใจในการออกแบบรถยนต์ระดับลักชัวรีบนแพลตฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่เริ่มต้น ภายใต้โครงสร้างตัวถังที่ออกแบบขึ้นมาโดยเฉพาะแบบ EVA2 (Electric Vehicle Architecture Generation 2) รถยนต์รุ่น EQS 500 4MATIC AMG Premium จึงผสานความเป็นที่สุดทั้งในเรื่องเทคโนโลยี ฟังก์ชันการใช้งาน และการเชื่อมต่อเข้าด้วยกันอย่างลงตัวในทุกรายละเอียด และดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในก็ตอบรับความตั้งใจดังกล่าวนี้โดยผสานปรัชญา “Sensual Purity” ของเมอร์เซเดส-เบนซ์เข้ากับแนวคิด “Progressive Luxury” ที่ให้ผลลัพธ์เป็นดีไซน์แบบไร้รอยต่อ (seamless design) ในทุก ๆ องศาของรถยนต์
เริ่มตั้งแต่กระจังหน้าสีดำประดับด้วยลวดลายดาวสามแฉกเอกลักษณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz pattern radiator grille) ไฟหน้าความละเอียดสูงถึง 1.3 ล้านพิกเซลพร้อมด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยแบบ DIGITAL LIGHT พร้อมเทคโนโลยี ULTRA RANGE Highbeam ที่สามารถส่องสว่างไกลถึง 600 เมตร
เชื่อมต่อกันด้วยเส้น light band ด้านบน ตามด้วยเส้นโค้งที่ต่อกันเป็นเส้นเดียวจากส่วนหน้าของตัวรถไปจรดส่วนท้ายที่ออกแบบมาในสไตล์รถยนต์ฟาสต์แบ็ก ซึ่งถือว่าเป็นดีไซน์ที่แตกต่างออกไปจากรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปแบบเดิมของเมอร์เซเดส-เบนซ์ตั้งแต่แรกเห็น ส่วนไฟท้ายเป็นไฟท้ายเคลื่อนไหวแบบ Adaptive tail lights multi-level functionality ที่สวยงามชัดเจนในยามค่ำคืนแบบ 3D helix design
ห้องโดยสารมาพร้อมดีไซน์ระดับไฮเอนด์และรายละเอียดการตกแต่งที่มอบความเพลิดเพลินและความสะดวกสบายสูงสุดให้กับผู้โดยสารในทุกที่นั่ง ทั้งระบบ MBUX7 รุ่นล่าสุดพร้อมหน้าจอแบบ MBUX Hyperscreen รูปทรงโค้งมนที่ยาวต่อเนื่องกันกินพื้นที่จากเสา A-pillar ฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งโดยซ่อนไว้ด้วยหน้าจอ 3 หน้าจอเป็นหน้าจอ OLED ขนาด 12.3 นิ้ว 17.7 นิ้ว และ 12.3 นิ้ว ฯลฯ หน้าจอเพื่อความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารตอนหลังควบคุมได้ด้วยระบบสัมผัสแบบ MBUX High-End Rear Seat จำนวน 2 จอขนาด 11.6 นิ้ว พร้อมหูฟังที่มีระบบตัดเสียงรบกวนไร้สาย 2 ชุดซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้
ระบบเสียงรอบทิศทางแบบ Burmester® 3D surround sound system ทรงพลังด้วยลำโพงคุณภาพสูงจำนวน 15 ตัวที่พร้อมเปลี่ยนห้องโดยสารเป็นคอนเสิร์ตของศิลปินคนโปรดของคุณ ระบบนวดผ่อนคลายสำหรับผู้โดยสารด้านหน้า (Multicontour front seats) ที่มีให้เลือกมากถึง 6 โปรแกรม รวมถึงระบบเข้าใช้งาน user profile ที่มีความปลอดภัยด้วยระบบตรวจจับใบหน้ารวมถึงการสแกนลายนิ้วมือเพื่อยืนยันตำแหน่งคนขับ นอกจากนี้ยังมีระบบฟอกอากาศแบบ HEPA filter พร้อมระบบตรวจวัดระดับฝุ่นละอองขนาด PM2.5 ระบบปรับสมดุลอากาศพร้อมระบบกระจายน้ำหอมแบบ AIR BALANCE package และระบบแสดงภาพสำหรับระบบนำทางแบบ MBUX augmented reality ฯลฯ
สำหรับเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยภายใน EQS 500 4MATIC AMG Premium นั้นจัดมาให้อย่างเต็มพิกัด ทั้งระบบเลี้ยว 4 ล้อแบบ rear axle steering ที่ทำให้ทุกการขับขี่ง่ายดายยิ่งขึ้นด้วยล้อหลังที่สามารถเลี้ยวได้มากถึง 4.5 องศา รวมถึงระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบ Driving assistance package ที่รวบรวมระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ไว้อย่างครบครัน ทั้งระบบรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Active Distance Assist DISTRONIC), ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร (Active Lane Keeping Assist), ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ (Active Brake Assist), ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Active Blind Spot Assist), ระบบช่วยการทรงตัวและดึงรถกลับเข้าช่องจราจร (Evasive Steering Assist) และระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉิน (Active Emergency Stop Assist) ฯลฯ EQS 500 4MATIC AMG Premium วางจำหน่ายในราคา 7,900,000 บาท