หลังจาก ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ได้เปิดตัวไปอย่างยิ่งใหญ่กับ 2 รถจักรยานยนต์แอดเวนเจอร์รุ่นท็อปใหม่ล่าสุด “ไทเกอร์ 1200 แรลลี่ โปร” (Tiger 1200 Rally Pro) และ “ไทเกอร์ 1200 แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์” (Tiger 1200 Rally Explorer) ที่ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากเหล่าไรเดอร์สายลุย ครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีที่จะพาทุกคนไปเจาะลึก 5 ความพิเศษด้านสมรรถนะของรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 รุ่น ที่รวมความเป็นที่สุดในทุกด้าน ตอบโจทย์ที่สุดของความเป็น The Best of All Worlds และ The Ultimate Adventure Ride ว่ามีไฮไลท์และไอเทมเด็ดอะไรบ้างที่ไม่ควรพลาด เพื่อตอบโจทย์สายลุยและผู้ที่กำลังมองหาสองล้อคู่ใจเพื่อการขับขี่แนวผจญภัยบนถนนและทางออฟโรด
ปฏิวัติวงการรถจักรยานยนต์แอดเวนเจอร์ที่ดีที่สุดของโลก
“ไทเกอร์ 1200 แรลลี่ โปร” (Tiger 1200 Rally Pro) และ “ไทเกอร์ 1200 แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์” (Tiger 1200 Rally Explorer) ได้รับการพัฒนาและปรับแต่งมาเพื่อให้เหมาะกับการขับขี่แนวผจญภัยทั้งระยะทางไกลและการขี่แบบออฟโรดขั้นสูง โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยต้องยกให้มาตรฐานของ เบรก Brembo Stylema® ระบบเบรก ABS ขณะเข้าโค้ง ที่มาพร้อมระบบ IMU และระบบกันสะเทือนแบบ semi-active ที่ล้ำสมัยสุดๆของ Showa รวมถึงล้อซี่ลวดแบบ tubeless ขนาด 21 นิ้ว และ 18 นิ้ว พร้อมยาง Metzeler Karoo Street™ และความโดดเด่นของไทรอัมพ์ คือ เบาะนั่งที่ถูกออกแบบมาให้สามารถปรับตำแหน่งการนั่งให้เหมาะกับสรีระของผู้ขับขี่แต่ละคน เพื่อช่วยทำให้การทรงตัวดีขึ้นและให้ความรู้สึกถึงความสบายขณะขับขี่ ด้วยความสูงของเบาะนั่งอยู่ที่ 875 มม. และ 895 มม. โดยลูกค้าสามารถลดตำแหน่งเบาะนั่งได้อีก 20 มม. ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์เสริมเบาะนั่งแบบ low seat นอกจากนี้ยังมีกระจกบังลมแบบใหม่ที่ปรับได้ง่ายพร้อมกลไกที่ปรับได้ด้วยมือเดียว เรียกว่าสะดวกมาก ๆ ตลอดจนด้านความจุถังน้ำมันขนาดใหญ่ โดย ไทเกอร์ 1200 แรลลี่ โปร มาพร้อมถังน้ำมันขนาด 20 ลิตร และ ไทเกอร์ 1200 แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์ มาพร้อมถังน้ำมันขนาด 30 ลิตร ให้ความคุ้มค่าในการสามารถกำหนดเวลาเดินทางได้ตามใจทั้งระยะใกล้และระยะไกล ถึงไหนถึงกัน ไม่ต้องกลัวน้ำมันจะหมดระหว่างทาง
ขุมพลังเครื่องยนต์สามสูบแรงบิดสูงอันเป็นเอกลักษณ์
ไทเกอร์ 1200 ทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับเครื่องยนต์สามสูบขนาด 1,160 ซีซี ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความทรงพลังด้วยแรงบิดที่มากขึ้นจากการปรับแต่งเพลาข้อเหวี่ยงแบบ T-plane ใหม่ ช่วยเพิ่มอัตราเร่ง รวมถึงกระบอกสูบและระยะชัก ฝาสูบ กระปุกเกียร์ คลัตช์ ตลอดจนเพลาขับและเฟืองบีเวลแบบใหม่ทั้งหมด ทำให้เจ้าเสือแอดเวนเจอร์รุ่นท็อปนี้ ให้พละกำลังสูงสุดได้ถึง 150 แรงม้า ที่ 9,000 รอบต่อนาที และแรงบิดมากขึ้นถึง 130 นิวตันเมตร ที่ 7,000 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด และอีกความพิเศษอยู่ที่ ท่อเก็บเสียงใหม่แบบมินิมอล ให้น้ำหนักเบา ทำให้เครื่องยนต์เวลาออกแรงบิดมีเสียงที่นุ่มนวลและน่าหลงใหลขึ้นกว่าเดิม
นิยามบทใหม่ของดีไซน์ ปราดเปรียว คล่องตัว พร้อมสไตล์สุดโดดเด่น
ดุดันและปราดเปรียวสมเป็นเสือรุ่นใหญ่ กับรูปลักษณ์ที่ออกแบบมาให้มีความเพรียว และมีความกะทัดรัดขึ้น ไฮไลท์การดีไซน์ของ “ไทเกอร์ 1200 แรลลี่ โปร” และ “ไทเกอร์ 1200 แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์” อยู่ตรงที่ตัวรถที่มีน้ำหนักเบาขึ้น หากเทียบกับรถรุ่นก่อน ต่างกันมากถึง 25 กิโลกรัม รวมถึงเฟรมแบบใหม่และซับเฟรมหลังพร้อมชุดพักเท้าอะลูมิเนียมที่ยึดด้วยสกรู สวิงอาร์มแบบ ‘tri-link’ ทุกองค์ประกอบเน้นความคล่องตัวและออกแบบให้มีน้ำหนักเบาขึ้น แต่ยังคงความแข็งแกร่ง ในขณะที่ท่าทางและการทรงตัวที่เน้นการผจญภัยที่โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยตัวถังแบบใหม่ ดีไซน์หม้อน้ำคู่แบบใหม่ พร้อมตำแหน่งของแฮนด์บาร์และตำแหน่งที่พักเท้าที่ปรับแต่งมาอย่างลงตัว
ที่สุดแห่งเทคโนโลยีการขับขี่เหนือระดับ
เพื่อตอบสนองผู้ขับขี่ของทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับเทคโนโลยีครบวงจรที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด เพื่อยกระดับการขับขี่ ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และการควบคุมรถ เริ่มต้นที่ ความอัจฉริยะของแผงหน้าปัด TFT ขนาด 7 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อ My Triumph Connectivity ทำให้เข้าถึงระบบนำทางแบบ turn-by-turn นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกภาพจากการควบคุมกล้อง GoPro พร้อมเพิ่มความสะดวกสบายที่ใส่ใจผู้ขับขี่ให้สามารถใช้งานโทรศัพท์ ไปพร้อมกับการเล่นเพลงอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มความสุนทรีย์ระหว่างการเดินทาง ไม่เพียงเท่านั้น ไทเกอร์ 1200 ยังเป็นผู้กำหนดนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ตอบโจทย์ความสมาร์ท กับโหมดการขับขี่สูงสุดถึง 6 โหมด ได้แก่ Road, Rain, Sport, Rider-configurable, Off-Road และ Off-Road Pro อีกทั้งการทำงานของเครื่องยนต์ควบคุมด้วยระบบไร้กุญแจที่พัฒนาขึ้นใหม่ทั้งหมด เช่น การสตาร์ทรถ ล็อคพวงมาลัย และเปิดฝาถังน้ำมัน ขณะที่ในส่วนของระบบไฟมีการออกแบบไฟ LED แบบใหม่ พร้อมไฟ DRL และไฟหน้าปรับทิศทางตามการเข้าโค้ง (Adaptive Cornering Lights) รวมถึงระบบช่วยเปลี่ยนเกียร์แบบไม่ใช้คลัตช์ (Triumph Shift Assist) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และเบาะนั่งปรับอุณหภูมิสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร นอกจากนี้ยังมี Tyre Pressure Monitoring System หรือระบบตรวจวัดแรงดันลมยาง (TPMS) ที่ช่วยตรวจสอบแรงดันลมยางเพื่อเพิ่มความปลอดภัยสูงสุดของผู้ขับขี่อีกด้วย ในขณะที่รุ่น “ไทเกอร์ 1200 แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์” (Tiger 1200 Rally Explorer) มาพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่มีความพิเศษเพิ่มเติมจากรุ่นอื่น ๆ อาทิ เทคโนโลยีเรดาร์จุดอับสายตา (Triumph Blind Spot Radar) ระบบช่วยเหลือขณะเปลี่ยนเลน (Lane Change Assist) ซึ่งจะแจ้งเตือนได้แม่นยำยิ่งขึ้นหากผู้ขับขี่กำลังจะเปลี่ยนเลนและมีรถกำลังเข้ามาใกล้ เป็นต้น
ตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ มาพร้อมความคุ้มค่าสูงสุด
จากสมรรถนะและความโฉบเฉี่ยวของพี่เสือ ไทเกอร์ 1200 มาที่โทนสีและความคุ้มค่าที่จะทำให้ทุกการขับขี่น่าหลงใหลยิ่งขึ้น ด้วย 3 โทนสี ให้เลือกจับจองเป็นเจ้าของ ได้แก่ สี Snowdonia White สี Sapphire Black และสี Matt Khaki ที่สำคัญมาพร้อมความสุดพิเศษกับการรับประกันคุณภาพ Triumph Warranty 3 ปีแบบไม่จำกัดระยะทาง รวมถึงความคุ้มค่าของช่วงเวลาการเข้ารับบริการเช็คระยะที่สูงถึง 16,000 กิโลเมตร หรือ 12 เดือน ตลอดจนฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง (Triumph Roadside Assistance) เป็นระยะเวลา 2 ปี นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการคัสตอมยังสามารถเพิ่มเติมสมรรถนะของรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 รุ่นให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้นด้วย อุปกรณ์เสริมแท้มีให้เลือกมากกว่า 50 รายการ ที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถ ความสะดวกสบาย สไตล์ และการปกป้องของรถจักรยานยนต์ เพื่อยกระดับประสบการณ์การผจญภัยของผู้ขับขี่ได้อีกด้วย สำหรับราคาจำหน่าย “ไทเกอร์ 1200 แรลลี่ โปร” (Tiger 1200 Rally Pro) ราคา 972,000 บาท และ “ไทเกอร์ 1200 แรลลี่ เอ็กซ์พลอเรอร์” (Tiger 1200 Rally Explorer) ราคา 1,039,000 บาท ผู้ที่สนใจสามารถชมรถตัวจริงพร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ ฟรีอุปกรณ์เสริมมูลค่ารวมกว่า 92,690 บาท ได้ทั้งที่ บูธไทรอัมพ์ G11 งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2022 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 1 – 12 ธันวาคม 2565 ตลอดจนทดลองขับขี่รถจักรยานยนต์ทั้ง 2 รุ่นพร้อมรับข้อเสนอแบบเดียวกันได้ที่โชว์รูมไทรอัมพ์ ทั้ง 13 แห่งทั่วประเทศ