เมื่อพูดถึงการพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ เราอาจนึกถึงเครื่องจักรที่ซับซ้อนในสายการผลิตขนาดใหญ่ แต่อันที่จริงแล้วสิ่งที่เป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนเหล่านี้ คืองานของช่างฝีมือ ที่ต้องสเก็ตช์ภาพหลายร้อยภาพ ขึ้นรูปดินเหนียวหลายพันกิโลกรัม และใช้สีหลายร้อยลิตรในการรังสรรค์รถต้นแบบ ทุกงานสร้างสรรค์ล้วนเริ่มต้นมาจากการตั้งโจทย์ ซึ่งดีไซน์ของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ ก็เช่นเดียวกัน โจทย์ที่ได้รับจะกลายเป็นแกนหลักของงานออกแบบ และบ่งบอกว่าในงานดีไซน์ต้องใช้แรงบันดาลใจและองค์ประกอบที่จำเป็นอะไรบ้าง
เมื่อสรุปโจทย์เกี่ยวกับ งานครีเอทีฟได้แล้ว ทีมนักออกแบบจะเริ่มทำงานอย่างแรกนั่นคือการสเก็ตช์ภาพด้วยดินสอลงบนกระดาษ และเมื่อภาพร่างที่มีมากมายหลายร้อยแบบได้รับการอนุมัติ ทีมออกแบบดิจิทัลจะนำมาขึ้นแบบจำลองเสมือนจริงเพื่อใช้เป็นต้นแบบ และส่งต่อให้ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างโมเดลดินเหนียว
ในขั้นตอนนี้ใช้ดินเหนียวมากกว่า 4,000 กิโลกรัม สร้างโมเดลขนาด 1 ต่อ 3 ก่อนที่จะพัฒนาเป็นโมเดลเท่ากับขนาดจริงโดยใช้เครื่องจักร จากนั้นทีมประติมากรที่เชี่ยวชาญจะเข้ามาตกแต่งรายละเอียดในขั้นตอนสุดท้าย เมื่อทั้งหมดนี้เสร็จสิ้น หัวหน้าฝ่ายออกแบบจะอนุมัติ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงรูปแบบหลังจากนี้ไม่ได้อีกแล้ว นอกจากนี้ ทีมปั้นดินยังสร้างโมเดลของพวงมาลัย แผงหน้าปัด และเบาะที่นั่ง ที่มีขนาดเท่ากับอุปกรณ์จริงด้วย
ในขณะที่ทีมปั้นดินเหนียวทำงาน ทีมสีและวัสดุจะเริ่มคัดเลือกผ้า พื้นผิว และสีที่ช่วยเน้นรูปลักษณ์และความรู้สึกของฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่ รวมทั้งสอดคล้องกับดีเอ็นเอด้านดีไซน์ของรถรุ่นนี้ ส่วนทีมออกแบบภายในจะคอยดูแลเพื่อให้มั่นใจว่าห้องโดยสารภายในให้ความรู้สึกเหมือนค็อกพิทของเครื่องบิน และตอบโจทย์การใช้งานจริงได้สูงสุดด้วยเช่นกัน
ในระหว่างที่ทีมอื่นๆ กำลังทำงานด้านรูปลักษณ์ภายในและภายนอกของรถ ทีมวิศวกรออกแบบจะดูรายละเอียดที่ลงลึกกว่าความสวยงาม เพื่อให้แน่ใจว่ารถคันนี้ไม่ได้มีดีแค่เพียงรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น ผลลัพธ์ที่ได้หลังจากการทำงานอย่างหนักซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานทำมือ ของทีมครีเอทีฟและช่างฝีมือมากความสามารถ คือฟอร์ด เรนเจอร์ แร็พเตอร์ เจเนอเรชันใหม่