แบตติสตา (Battista) รถยนต์ไฮเปอร์ จีที พลังงานไฟฟ้า 100% คันแรกของโลก ได้เริ่มผลิตแล้วในโซนอเทลิเยร์ (Atelier) ที่จัดไว้พิเศษในเมืองกัมเบียโน ประเทศอิตาลี ความก้าวหน้าครั้งสำคัญนี้มีขึ้นที่แคว้นปีเยมอนเตของอิตาลี นับเป็นบทใหม่อันน่าตื่นเต้นในเรื่องราวการเติบโตของค่ายยานยนต์หรูน้องใหม่จากอิตาลีอย่างออโตโมบิลี ปินินฟารินา (Automobili Pininfarina) ยานยนต์ระดับรางวัลอย่างแบตติสตานี้ กำลังถือกำเนิดขึ้นด้วยฝีมือของทีมช่างในโรงงานขนาด 2,300 ตารางเมตร โดยจะผลิตขึ้นไม่เกิน 150 คัน ซึ่งเจ้าของรถแบตติสตาจะได้รับบริการลูกค้าระดับเวิลด์คลาสผ่านพันธมิตรมากประสบการณ์ในแวดวงยานยนต์หรู 25 รายในเครือข่ายผู้ค้าปลีกทั่วโลกของออโตโมบิลี ปินินฟารินา เช่นเดียวกับทีมลูกค้าสัมพันธ์ของทางแบรนด์เอง
แบตติสตา อเทลิเยร์ ประกอบด้วยโซนการผลิตและรับรองคุณภาพรวมกัน 14 จุด โดยนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้มากมาย เช่น ชุดริกแบบใหม่ที่สั่งทำพิเศษสำหรับการติดตั้งทั่วทั้งโรงงาน ไปจนถึงกระบวนการและเครื่องมือที่ใช้กันมานาน เช่น ไขควงลมที่นำมาใช้ใหม่เพื่อนำมาประกอบรถแบตติสตา ซึ่งกระบวนการสร้างทั้งหมดนี้เคารพกรรมวิธีผลิตตัวรถที่โรงงานแห่งนี้ดำเนินการมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ต้นจนจบนั้น รถแบตติสตาแต่ละคันใช้เวลาประกอบ 10 สัปดาห์ ส่วนการวาดลวดลายด้วยมือในรถแบตติสตารุ่นพิเศษอย่างแบตติสตา อันนิเวอร์ซาริโอ (Battista Anniversario) จำเป็นต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นเป็น 18 สัปดาห์ รถแบตติสตาแค่ละคันใช้ช่าง 10 คนในการประกอบ และใช้เวลารวมกันกว่า 1,250 ชั่วโมง ขณะที่องค์ประกอบการออกแบบและพื้นผิวของรุ่นแบตติสตา อันนิเวอร์ซาริโอ ทำให้ใช้เวลารวมกันถึง 1,340 ชั่วโมง
โครงรถแบบ Rolling Chassis ของแบตติสตา ประกอบด้วยระบบส่งกำลังรถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ทรงตัวที ตัวถังทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ และระบบไฟฟ้า 100% ได้เข้าสู่โซนแรกเพื่อนำไปประเมินเทียบกับมาตรฐานคุณภาพอันเข้มงวดของออโตโมบิลี ปินินฟารินา โดยมีการบันทึกสถานะในที่แห่งนี้ นี่เป็นประตูที่ควบคุมด้วยระบบอิเลคโทรนิกส์บานแรก ๆ ที่แบตติสตาต้องผ่านไปให้ได้เพื่อไปยังกัมเบียโน รถแบตติสตาเริ่มเป็นรูปร่างเมื่อโครงของรถยนต์เชื่อมเข้ากับตัวถัง ซึ่งมีหลังคาแบบ ‘กอกเจีย’ (Goccia) โอบล้อมห้องโดยสารเอาไว้ ทำให้โครงสร้างของรถแบตติสตามีความแข็งแกร่งและเหนียวแน่น โดยติดตัวรถไว้บนชุดริกสั่งทำพิเศษอีกตัว กระบวนการที่ใช้เวลาสองวันนี้ทำหน้าที่วัดและบันทึกขนาดและพารามิเตอร์ทุกแง่มุมถึงขีดสุดตามขอบข่ายการวัดผลที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการสร้างยานยนต์ที่มีความพิเศษมาตลอด 20 ปีในโรงงานแห่งนี้ จากนั้นจะนำตัวถังออกจากโครงรถ เพื่อเตรียมย้ายไปโซนทำสี สำหรับการพ่นสีตามมาตรฐานนั้นใช้เวลา 3-4 สัปดาห์ โดยใช้สีสูตรใหม่ที่ให้ฟินิชแบบเมทัลลิกหลายเลเยอร์ โดยมีให้เลือกถึง 28 สีซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากใจกลางของออโตโมบิลี ปินินฟารินาอย่างแคว้นปีเยมอนเตของอิตาลี แผงแต่ละชิ้นจะติดเข้ากับชุดริกสั่งทำพิเศษอีกตัว เพื่อให้สีออกมาเหมือนกัน และในขณะที่กำลังทาสีภายนอกนั้น ก็มีการติดตั้งแดชบอร์ดและองค์ประกอบภายในด้วย
ส่วนในโซนที่ห้า 80% ของรถจะได้รับการประกอบโดยใช้เวลา 2 วัน โดยอุปกรณ์ยกตามหลักการยศาสตร์พร้อมจิ๊ก (Jig) ที่ทำพิเศษนี้ จะช่วยให้ช่างทั้งชายและหญิงประกอบรถยนต์ได้อย่างประณีตซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการประกอบส่วนต่าง ๆ เช่น ซุ้มล้อและบริเวณใต้พื้น ส่วนประตูแบบบัตเทอร์ฟลายดอร์ (butterfly door) ซึ่งมีความซับซ้อนในแง่การออกแบบและเป็นส่วนสำคัญในโครงสร้างของรถ ก็ติดตั้งในโซนนี้ด้วยเช่นกันเป็นเวลา 2 วัน โดยใช้อุปกรณ์ติดตั้งอีกตัวหนึ่งที่รับน้ำหนักประตูและเอียงในทิศทางต่าง ๆ ได้ เพื่อให้ติดตั้งได้อย่างสมบูรณ์แบบ ต่อมาจะเป็นส่วนของการตรวจสอบและดำเนินการในขั้นปลายรอบแรก โดยใช้ซอฟต์แวร์และเครื่องมือพิเศษเพื่อตรวจสอบว่ารถที่อยู่ในโหมดโรงงานนั้นเป็นไปตามมาตรฐาน จากนั้นจะเปลี่ยนไปโหมดลูกค้า เพื่อให้แน่ใจว่าฟังก์ชันการทำงานจริงจะทำงานได้ตามที่ควรจะเป็น ทั้งในเรื่องการชาร์จแบตเตอรี่ ระบบสาระบันเทิง และ “ซัวโน ปูโร” (SUONO PURO) ซึ่งเป็นซาวด์คอนเซปต์อันเป็นเอกลักษณ์ของออโตโมบิลี ปินินฟารินา
สถานีงานจุดสุดท้ายในโรงงานแห่งนี้จะยกรถแบตติสตาขึ้นเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อตั้งศูนย์ล้อและเช็คกลไกบังคับเลี้ยว จากนั้นรถแบตติสตาแต่ละคันจะถูกตรวจสอบในพื้นที่ที่มีการบริหารจัดการน้ำ เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำจะไม่เข้ารถไม่ว่าน้ำจะแรงเพียงใด ก่อนที่จะสรุปขั้นสุดท้ายและเช็คระบบบันทึกดิจิทัล การตรวจสอบคุณภาพในขั้นปลายนั้นดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีความมุ่งมั่นในเรื่องความสมบูรณ์แบบ ทั้งในการทดสอบการทำงาน การประเมินทางสุนทรียภาพในอุโมงค์แสง และการทดสอบบนท้องถนน โปรแกรมทดสอบรถยนต์ไฮเปอร์ จีที นี้ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษเพื่อประเมินรถแบตติสตาแต่ละคัน โดยคำนึงถึงพฤติกรรมของเจ้าของรถในการใช้รถตามถนนที่มีลักษณะและพื้นผิวต่างกัน รถแบตติสตาแต่ละคันได้รับการตรวจสอบรับรองอย่างละเอียดโดยผู้ทดสอบคนเดียวกัน ก่อนที่จะกลับไปยังกัมเบียโนซึ่งจะนำฟิล์มกันรอยออก ก่อนที่จะตรวจสอบความสวยงามครั้งสุดท้ายเพื่อพร้อมส่งมอบให้ลูกค้า เมื่อได้มาเยือนแบตติสตา อเทลิเยร์ เจ้าของรถจะมีโอกาสพบปะกับทีมงานเบื้องหลังการสร้างรถยนต์รุ่นนี้ และทำงานร่วมกันเพื่อปรับการออกแบบรถ และดูรถขณะกำลังสร้าง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในประสบการณ์การสั่งผลิตและเป็นเจ้าของอย่างที่หาจากที่ไหนไม่ได้ ลูกค้าจะได้รับคำปรึกษาอย่างเจาะลึกเพื่อปรับแต่งรถแบตติสตาของตน จากนั้นก็จะนำไปสร้างข้อเสนอการออกแบบตามสั่งให้ลูกค้าแต่ละท่าน ก่อนที่ลูกค้าจะได้รับเชิญให้มาที่กัมเบียโน เพื่อทำงานร่วมกับนักออกแบบเพื่อปรับสเป็คขั้นสุดท้าย
นอกเหนือจากพื้นที่ประกอบรถแล้ว ก็มีพื้นที่รับรองลูกค้าที่ต้องการสั่งผลิต ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ลูกค้าเลือกสีภายนอกและภายในรถ รวมถึงวัสดุต่าง ๆ ได้ ทั้งยังมีตัวอย่างวัสดุและสีให้ดู สัมผัส และรู้สึกด้วย สำหรับภายนอกตัวรถนั้น ลูกค้าก็เลือกองค์ประกอบอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ด้วย เช่น ชุดประดับภายนอกรถแบตติสตา (Battista Exterior Jewellery Pack) สีของคาลิเปอร์เบรก และฟินิชของล้อรถ เมื่อคำนวณรวมกันแล้วเท่ากับว่าลูกค้ามีตัวเลือกตกแต่งภายนอกรถรวมกันถึง 13.9 ล้านล้านล้านล้านล้านรายการ สำหรับภายในรถนั้น มีตัวเลือกที่เป็นไปได้รวมกันถึง 128 ล้านตัวเลือก ทั้งสีและวัสดุ เช่น หนัง หนังกลับสังเคราะห์ และอลูมิเนียม ทั้งยังมีบริการสลักเพื่อให้ลูกค้าสร้างรถแบตติสตาได้อย่างที่ไม่มีใครเหมือน ความพิเศษเช่นนี้เข้ามายกระดับสถานะลงทุนของแบตติสตา โดยต่อยอดความเป็นมาอันยาวนานในเรื่องผลงานชิ้นเอกในแวดวงรถสะสมซึ่งมีชื่อปินินฟารินาปรากฏให้เห็น
ตลอดเส้นทางการออกแบบและสร้างรถนั้น ลูกค้าจะได้รับข่าวอัปเดตเกี่ยวกับสถานะของรถแบตติสตาที่สั่งไว้ ซึ่งทีมลูกค้าสัมพันธ์ของออโตโมบิลี ปินินฟารินา จะเป็นผู้แจ้งข่าวสารโดยตรง ลูกค้าจะได้รับบริการจากออโตโมบิลี ปินินฟารินา ตลอดอายุการเป็นเจ้าของรถแบตติสตา โดยจะติดต่อดูแลหลังการขายผ่านช่องทางดิจิทัลแบบ 360 องศา ทั้งในเรื่องชิ้นส่วนและการรับประกัน การฝึกอบรม และการวินิจฉัยทางไกล ให้ลูกค้าอุ่นใจได้ผ่านพันธมิตรผู้ค้าปลีกของเราทั่วโลก ทั้งอเมริกาเหนือ ยุโรป ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย และเอเชีย เพื่อคอยดูแลลูกค้าในทุกที่ สำหรับเรื่องที่ต้องอาศัยความรู้ทางเทคนิคนั้น ‘หมอบิน’ จะบินไปทุกที่ทั่วโลกเพื่อดูแลลูกค้าและรถแบตติสตา โดยทีมหมอบินที่มีความรอบรู้เรื่องรถแบตติสตานั้นได้เข้ามามีส่วนในการพัฒนารถแบตติสตามาตั้งแต่ต้น รวมถึงการพัฒนาคู่มือสำหรับเจ้าของรถแบตติสตา และคู่มือเวิร์กช็อปสำหรับพันธมิตรผู้จัดจำหน่าย
รถแบตติสตาจะเริ่มส่งมอบให้ลูกค้าตั้งแต่ฤดูร้อนนี้ โดยรถยนต์ไฮเปอร์ จีที พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นนี้ จะส่งมอบในสไตล์ตัวถังแบบ “Pura” หรือไม่ก็การออกแบบตัวถังแบบ “Furiosa” และจะมีการสร้างรถแบตติสตารุ่นพิเศษอย่างแบตติสตา อันนิเวอร์ซาริโอ ขึ้นมา 5 คัน จากรถแบตติสตาที่จะผลิตขึ้นทั้งหมด 150 คัน ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษเพื่อฉลองความสำเร็จของไอคอนวงการออกแบบอย่างคุณแบตติสตา ปินิน ฟารินา ซึ่งรถรุ่นพิเศษทั้ง 5 คันนี้ได้ขายไปแล้ว