Michael Fassbender เข้าร่วมสงครามความเร็วระยะยาวที่ใช้เวลาแข่งขันถึง 2 รอบหน้าปัดนาฬิกา หรือ 24 ชั่วโมง โดยนั่งประจำการหลังพวงมาลัยของรถแข่งปอร์เช่ 911 RSR หมายเลข 93 ตัวแรงที่มีระดับความเร็วถึง 515 แรงม้า (378 กิโลวัตต์) ในรุ่น GTE-Am ภายใต้สังกัดทีม Proton Competition ทีมแข่งอิสระของปอร์เช่ พร้อมกับอีก 2 นักแข่งจากประเทศออสเตรเลีย Matt Campbell และ Zacharie Robichon จากประเทศแคนาดา
ด้วยเป้าหมายในการพิชิตชัยที่รายการ Le Mans นักแสดงและนักแข่งหนุ่ม Michael Fassbender ต้องเข้าร่วมการแข่งขันในรายการ European Le Mans Series (ELMS) ภายใต้สังกัดทีม Proton Competition ในช่วงปี 2020 พร้อมกับเพื่อนร่วมทีมอย่าง Richard Lietz จากประเทศออสเตรีย และ Felipe Fernández Laser นักแข่งหนุ่มจากเมือง Heidelberg ประเทศเยอรมนี สามารถเก็บคะแนนสะสมได้ถึง 47 คะแนนจาก 4 สนาม จบอันดับที่ 6 ในรุ่น GTE และจากทีมแข่งชุดเดียวนี้เองทำให้ Fassbender คว้าไปได้ถึง 61 คะแนนจาก 6 สนามได้ในฤดูกาลต่อมา และจบด้วยอันดับ 5 บนตารางคะแนนสะสม
ไฮไลท์ของฤดูกาลนั้นคือการฉลองโพเดียมแรกในชีวิตของ Michael Fassbender ในรายการ ELMS ด้วยผลงานอันดับ 2 ในรอบสุดท้ายที่เมือง Portimao ประเทศโปรตุเกส เมื่อเดือนตุลาคม 2021 ที่ผ่านมา โดย Michael Fassbender กล่าวถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่า “การได้ขึ้นโพเดียมในครั้งนั้นนับเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากต่อทุกคนในทีม และหลังจากที่ผ่านความผิดหวัง ความพ่ายแพ้ และพลาดโอกาสหลายครั้งมาตลอด 3 ปี ผลลัพธ์ดังกล่าวทำให้เรารู้สึกดีใจได้อย่างน่ามหัศจรรย์”
ด้วยการลงแข่งครั้งแรกในรายการระยะยาวสุดคลาสสิคของประเทศฝรั่งเศส สิ่งแรกที่ Michael Fassbender ต้องทำเหมือนกับนักแข่งหน้าใหม่ทุกคน คือการเติมเต็มประสบการณ์ของเขาก่อนที่จะก้าวเท้าลงสนามแข่งอันเปรียบได้กับตำนานของวงการความเร็ว ในช่วงแรกเขาต้องเข้ารับการทดสอบด้วย simulator โดยนักแข่งจะต้องสร้างความคุ้นเคยให้กับตัวเองด้วยการปฏิบัติตัวเมื่อมีรถ safety car การขับขี่ใน slow zones และมาตรการด้านความปลอดภัยอื่น ๆ สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งตลอดระยะทาง 13.626 กิโลเมตร บนสนาม Circuit des 24 Heures เมื่อเปรียบเทียบกับสนามอื่น