หากพูดถึงช่วงวันหยุดที่คนไทยจะได้กลับบ้านกันยาวๆ วันสงกรานต์ถือเป็นเทศกาลแรกๆ ที่คนไทยนึกถึง เพราะเป็นช่วงเวลาและเทศกาลแห่งการเดินทางที่ผู้คนส่วนใหญ่ถือเป็นโอกาสพิเศษในการเดินทางกลับบ้าน เพื่อไปหาครอบครัวและท่องเที่ยวพักผ่อนตามสถานที่ต่าง ๆ โดยการเดินทางส่วนใหญ่มักจะเป็นการเดินทางในรูปแบบขับขี่รถยนต์ส่วนตัว เพื่อความสะดวกในการเดินทางและห่างไกลจากโรคระบาด จึงทำให้ในช่วงนี้มีการใช้รถใช้ถนนเป็นจำนวนมาก และเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางทั้งต่อตัวผู้ขับเองและเพื่อนร่วมเส้นทาง วันนี้ CARS24 แพลตฟอร์มซื้อขายรถยนต์มือสองออนไลน์ที่เติบโตเร็วที่สุดในเอเชีย จึงขอชวนทุกคนตรวจเช็คสภาพรถให้พร้อมก่อนการออกเดินทางทุกครั้ง และแนะนำ 5 จุดสำคัญของรถยนต์ที่ต้องตรวจเช็คเป็นประจำ จะได้ไม่มีปัญหาให้กังวลใจขณะเดินทาง
- ตรวจเช็คสภาพยางและความดันลมยาง
สำหรับความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารแล้ว ยางรถยนต์ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างมาก การดูแลรักษายางรถยนต์ จึงเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจอยู่เสมอ แม้ว่าโดยปกติยางอาจมีอายุการใช้งานถึง 50,000 กม. แต่ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลให้ยางจะเสื่อมสภาพก่อนกำหนด ดังนั้นผู้ขับขี่จึงควรตรวจสอบดูว่า ดอกยางยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ซึ่งยางทุกเส้นควรมีระดับการสึกเท่ากันทั่วทั้งล้อ และตรวจสอบดูว่ามีสิ่งผิดปกติหรือไม่ทั้งดอกยางและแก้มยาง ควรเติมลมยางไม่ให้อ่อนหรือแข็งจนเกินไป และต้องแน่ใจว่ายางอะไหล่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
- ไฟส่องสว่าง
คุณจำเป็นต้องเช็กระบบไฟส่องสว่างและสัญญาณไฟต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกของรถยนต์ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง โดยเฉพาะในตอนกลางคืนหรือเมื่อขับขี่ผ่านจุดที่มีแสงน้อย ควรตรวจสอบการทำงานของไฟส่องสว่างทุกตำแหน่ง ทั้งไฟหรี่ ไฟต่ำ ไฟสูง ไฟเลี้ยว ไฟท้าย ไฟเบรค ไฟถอยหลัง ฯลฯ หากพบว่าไฟตำแหน่งใดหรี่เกินไปหรือไม่ติด ควรรีบนำรถไปให้ช่างตรวจสอบและแก้ไข หรือหาหลอดใหม่เปลี่ยนเข้าไปแทน เพื่อให้ไฟส่องสว่างสามารถใช้งานได้ตามปกติ
- ตรวจเช็คระบบช่วงล่างของรถ
การตรวจสอบช่วงล่างของรถยนต์เป็นเรื่องค่อนข้างยาก เพราะต้องมีเครื่องมือและอาศัยความชำนาญด้านช่างยนต์เป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม วิธีที่ดีสุดสำหรับการตรวจเช็คช่วงล่างรถยนต์ด้วยตัวเอง สามารถทำได้โดยการสังเกตจากการแสดงอาการของรถยนต์ ตัวอย่างเช่น ขณะออกตัวรถและกำลังหยุดรถทั้งเดินหน้าและถอยหลัง จะมีเสียงดังกึกแบบเบา ๆ ขณะขับขี่ไปบนถนนขรุขระมีเสียงดัง กุกกัก หรือในขณะขับขี่ในทางตรงแล้วพวงมาลัยมีอาการเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณความผิดปกติที่ไม่ควรนิ่งนอนใจ ให้รีบนำรถเข้าศูนย์หรืออู่ซ่อมรถเพื่อตรวจเช็คโดยด่วน ไม่ควรฝืนใช้รถต่อไป เพราะอาจก่อให้เกิดผลเสียตามมาอย่างไม่คาดคิด
- ตรวจเช็คสภาพเครื่องยนต์
ข้อนี้ฟังดูอาจเป็นเรื่องยุ่งยากไปหน่อย แต่สามารถตรวจสอบง่าย ๆ ด้วยการสังเกตเสียงเครื่องยนต์ว่าไม่มีเสียงผิดปกติใด ๆ ทั้งขณะจอดนิ่ง ๆ และเร่งเครื่อง นอกจากนั้นควรตรวจสอบว่าระดับของเหลวอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมตามที่ผู้ผลิตกำหนด ทั้งน้ำมันเครื่อง, น้ำมันเบรค, น้ำมันเพาเวอร์, น้ำมันเกียร์ และน้ำหล่อเย็น หากพบว่าจุดใดอยู่ในระดับที่น้อยกว่าปกติก็ควรเติม หรือนำรถเข้าศูนย์บริการก็ได้ และที่สำคัญอย่าลืมตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำว่าอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมก่อนออกเดินทาง
- ตรวจสอบวันหมดอายุประกันภัยและพ.ร.บ.
เนื่องจากช่วงหยุดยาวเป็นช่วงที่มีการจราจรหนาแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนทางหลวงข้ามจังหวัด จึงมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูงขึ้นตามไปด้วย ฉะนั้นจึงควรตรวจสอบวันหมดอายุประกันภัย และ พ.ร.บ. ให้ดีอยู่เสมอ เพื่อช่วยสร้างความอุ่นใจจากความคุ้มครองในการขับขี่และดูแลความเสียหายต่อทรัพย์สินได้ในทุกการเดินทาง