ปวดหัวกับราคาน้ำมันตอนนี้ที่ปรับสูงขึ้นเยอะราคาแก๊สโซฮอล์ 95 แตะอยู่ที่ 40 บาทเข้าไปแล้วการเดินทางต้องคิดหนักหน่อยต้องหาทางเลี่ยงด้วยรถยนต์ที่มีไฟฟ้ามาช่วยครึ่งชั่วโมงนี้คงหนีไม่พ้นพวกรถยนต์ไฮบริดยิ่งชาร์จไฟบ้านได้ก็ช่วยประหยัดเพิ่มขึ้นหน่อยหนึ่งในนั้นจะมี bmw330e M Sport ราคา2,769,000 บาท รวมอยู่ด้วย
แม้จะไม่ใช่รถยนต์ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่แต่ในสถานการณ์แบบนี้ก็เพราะอุ่นใจได้กับรูปโฉมที่มาพร้อมกับชุดตกแต่งตัวถังภายนอกแบบ M Sport เสริมความโดดเด่นคล่องแคล่วบนท้องถนนด้วยชุดแต่ง M Aerodynamics ทั้งในส่วนด้านหน้า ด้านข้างและด้านหลัง
กระจังหน้าทรงไตคู่อันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยูได้ถูกออกแบบเป็นพิเศษบริเวณซี่กระจังหน้าไตคู่สีดำเงาและขอบช่องดักอากาศแบบสี Chrome มิติตัวถังยาว 4,709 มิลลิเมตร กว้าง 1,827 มิลลิเมตร สูง 1,442 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ wheelbase 2,851 มิลลิเมตร เมื่อเทียบกับรุ่น F30 ยาวขึ้น 76 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 16 มิลลิเมตร สูงขึ้น 1 มิลลิเมตร และ ระยะฐานล้อเพิ่มขึ้น 41 มิลลิเมตร
ซึ่งรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 3 เจเนอเรชั่นที่ 7ตัวถัง G20นี้ ได้นำการผสมผสานอันเป็นเอกลักษณ์จากความเพลิดเพลินในการขับขี่รถสปอร์ต ดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว และประสิทธิภาพอันเหนือชั้น ที่เพิ่มความโฉบเฉี่ยวยิ่งขึ้นด้วยช่วงล่าง Adaptive M Sport สามารถปรับความแข็ง-อ่อน ได้ตามโหมดการขับที่เลือกล้ออัลลอย M Light Alloy Wheels ขนาด 19 นิ้ว พร้อมยาง Run flat ที่ออกแบบให้ล้อหลังมีขนาดหน้ากว้างมากกว่าล้อหน้า และคาลิเปอร์เบรกแบบ M Sport
ภายในนั้นจะได้แผงคอนโซลขึ้นรูปด้วยโฟมหุ้มด้วยหนังสังเคราะห์สีเทาดำ เดินเส้นตัดขอบกึ่งกลางด้วยงานอะลูมิเนียมลาย Tetragon เข้ากับไฟตกแต่งภายใน LED พร้อมที่ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย จอกลางขนาด 10.25 นิ้วเป็นแบบทัชสกรีนและสามารถควบคุมด้วยการเคลื่อนไหวของมือ
จอภาพของชุดมาตรวัด แบบ TFT LCD ปรับเปลี่ยนรูปแบบของหน้าจอไม่ได้แต่มีกราฟิกมาตรวัดระดับพลังงานในระบบ Hybrid ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นจอวัดรอบซึ่งย้ายมาอยู่ด้านขวา หรือนำเอาระบบนำทางมาใส่ไว้ตรงกลางก็ยังได้ มาตรวัดจอภาพจะเปลี่ยนสีไปตามการเลือกใช้โหมดขับเคลื่อนหน้าจอแสดงผลบนกระจกหน้า มาพร้อมระบบพวงมาลัยไฟฟ้าแปรผันตามการหมุนและความเร็วแบบ Servotronic
เพิ่มความเพลิดเพลินในการขับขี่ด้วยความสะดวกสะบายและความหรูหราในห้องโดยสารที่ประกอบด้วยพวงมาลัยหนังแท้ M กาบบันไดและชุดแป้นวางเท้า เบาะนั่งคู่หน้าแบบสปอร์ตปรับไฟฟ้า มีส่วนหนุนต้นขาที่ยืดหดได้เป็นเบาะนั่งหนังแท้ Vernasca วางตำแหน่งเบาะคนขับเป็นจุดศูนย์กลางของการเชื่อมโยงกับอุปกรณ์ต่างๆ
ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย ความจุ 375 ลิตรต้องสูญเสียพื้นที่ให้กับการจัดเก็บแบตเตอรี่ Lithium-ion ขนาดความจุ 12.0 kWh ที่จัดวางตำแหน่งไว้ใต้เบาะหลัง แต่ก็ยังมีพื้นที่เหลืออยู่นิดหน่อยเอาไว้เก็บพวกสายชาร์จได้โดยพื้นปูจะปิดตรงหรือจะหักลงไปตามพื้นของห้องเก็บของก็ได้
ได้มีการยกระดับการขับเคลื่อนอันน่าประทับใจของบีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport จากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร Twin Power Turbo + มอเตอร์ไฟฟ้า Synchronous Electric Motor ให้กำลังสูงสุด 252 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร พร้อมฟังก์ชั่น Electric Boost ” XtraBoost ” ช่วยในด้านอัตราเร่ง โดยมอเตอร์ไฟฟ้า ตั้งแต่ 100 นิวตันเมตร ไปจนถึง 250 นิวตันเมตร ทำให้พละกำลังสูงสุดเพิ่มเป็น 292 แรงม้า สามารถเพิ่มกำลังส่งในการเร่งความเร็วได้มากยิ่งขึ้นในโหมด SPORT เพียงเหยียบคันเร่งเพื่อกระตุ้นการทำงานของ XtraBoost เพื่อปลดปล่อยพละกำลังเสริมอีก40 แรงม้า ภายในเวลา 10 วินาที ทำให้บีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport ใหม่ มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 5.9 วินาที ต่อเนื่องไปจนถึงความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม.จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic ขับเคลื่อนล้อหลัง
การเดินทางด้วยโหมด EV ใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า 100% วิ่งด้วยไฟฟ้า ตัวเลขจากโรงงานสามารถขับเคลื่อนได้ไกลสูงสุด 60 กม. แต่การใช้งานจริงจะได้ประมาณ50 กิโลเมตรมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสภาพจราจรและการใช้ความเร็ว โดยความเร็วสูงสุดในโหมด EV ทำได้ 140 km/h ในโหมดการขับขี่แบบ HYBRID ของบีเอ็มดับเบิลยู 330e M Sport ใหม่ สามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้ถึง 110 กม./ชม. ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนหน้า 30 กม./ชม. โดยใช้เพียงพลังงานไฟฟ้าก่อนสลับไปเป็นการใช้พลังงานเครื่องยนต์
เนื่องจากแบตเตอรี่มีขนาดไม่ใหญ่มากการชาร์จไฟจากปลั๊กไฟบ้าน3ทางทั่วไป สามารถชาร์จได้เต็มจาก 0% ภายใน 5 ชั่วโมง 45 นาทีส่วนการชาร์จจาก BMW i Wallbox ที่มีกำลังชาร์จ 3.7 kWh จะชาร์จได้เต็มจาก 0% ภายใน 3 ชั่วโมง 30 นาที สามารถตั้งเวลาชาร์จได้ เมื่อล็อครถหัวชาร์จจะถูกล็อคไปด้วยไม่สามารถดึงออกได้จึงไม่ต้องกลัวหาย
ในรถรุ่นนี้ยังมีระบบ eDrive ที่มีฟีเจอร์การทำงานร่วมกับระบบต่างๆ ของตัวรถ เช่น ระบบนำทาง และกล้องตรวจจับวัตถุและอ่านป้ายจราจรอีกด้วย เมื่อ eDrive ถูกนำเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการขับขี่ สวิทช์การเลือกโหมดจึงถูกรวมเข้าไปเป็นชุดเดียวกับปุ่ม Driving Experience Control เลย โดยโหมดที่เลือกจะเปลี่ยนใหม่หมดเป็น ELECTRIC, HYBRID, ADAPTIVE, SPORT และมีปุ่ม Battery Control แยกออกมาอีกหนึ่งปุ่ม