ตลอดปีงบประมาณที่ผ่านมา Porsche AG สามารถขยับสถานะ ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ที่มีผลกำไรสูงที่สุดในโลก โดยปอร์เช่ บริษัทผู้ผลิตรถสปอร์ตที่มีฐานบัญชาการตั้งอยู่ในสตุ๊ทการ์ทสามารถสร้างสถิติสูงสุดเท่าที่เคยมีมา ทั้งในส่วนของรายได้จากการขาย และผลกำไรจากการดำเนินงาน มียอดขายในปี 2021 อยู่ที่ 33.1 พันล้านยูโร เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มีตัวเลขยอดขายอยู่ที่ 28.7 พันล้านยูโร นั่นหมายความว่ามียอดขายสูงขึ้นถึง 4.4 พันล้านยูโร คิดเป็นอัตราส่วนการเติบโต 15 เปอร์เซ็นต์ และผลกำไรจากการดำเนินงานสามารถทำได้ที่ 5.3 พันล้านยูโร สูงกว่าปีก่อนหน้าถึง 1.1 พันล้านยูโร เพิ่มขึ้น 27 เปอร์เซ็นต์ และนอกจากนี้ปอร์เช่ยังสามารถสร้างผลตอบแทนจากการขายเป็นสัดส่วนที่สูงถึง 16.0 เปอร์เซ็นต์ โดยปีก่อนหน้าอยู่ที่14.6 เปอร์เซ็นต์
ในปี 2021 ปอร์เช่ส่งมอบรถยนต์ทั้งหมด 301,915 คัน ให้แก่ลูกค้าทั่วทุกมุมโลก ตัวเลขดังกล่าวหมายถึงยอดจำหน่ายที่ทำลายสถิติสูงกว่า 300,000 คัน ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของบริษัท ซึ่งปีก่อนหน้ามียอดขายที่ 272,162 คัน โดยรถยนต์รุ่นที่ทำยอดจำหน่ายสูงสุดคือปอร์เช่ มาคันน์ (Macan) จำนวน 88,362 คัน และ คาเยนน์ (Cayenne) จำนวน 83,071 คัน ในขณะเดียวกันตัวเลขยอดขายของปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าสองเท่า โดยลูกค้า 41,296 ราย ได้ตัดสินใจเป็นเจ้าของรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าคันแรกของปอร์เช่ ซึ่งเป็นจำนวนที่แซงหน้า ปอร์เช่ 911 ยนตกรรมสปอร์ตระดับตำนาน และถึงแม้ว่าจะสามารถสร้างสถิติใหม่ได้ที่ยอดจำหน่ายสูงถึง 38,464 คัน Oliver Blume ยังเล็งเห็นว่า ปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan) คือรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์ และเป็นรถสปอร์ตที่ตอบสนองความต้องการให้แก่ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าดั้งเดิม ลูกค้ารายใหม่ หรือผู้เชี่ยวชาญในการขับขี่ ตลอดจนสื่อสารมวลชน โดยเราสามารถยกระดับรถสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าของเราให้ยอดเยี่ยมเทียบเท่ากับรถรุ่นอื่น ๆ ในช่วงกลางทศวรรษนี้ได้ และเรามีแผนในการนำเสนอรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลาง ปอร์เช่ 718 ที่จะพัฒนาพิเศษด้วยระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าสมบูรณ์แบบ